การผลิต หมายถึง การทำให้เกิดมีขึ้นตามความต้องการ โดยแรงคนหรือเครื่องจักร รวมถึงวิธีการอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดขึ้น
สิ่งที่มีความสำคัญในการผลิตสินค้าและบริการ 4 ประการ ได้แก่
1. ทรัพยากรธรรมชาติ หมายถึง สิ่งที่มีค่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น น้ำมัน แร่ธาตุ ทองคำน้ำ ป่าไม้ และสมุนไพร เป็นด้น
2. ทุน หมายถึง เงินหรือทรัพย์สิน เช่น โรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ในการผลิตที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมเพื่อหาผลประโยชน์
3. แรงงาน หมายถึง ความสามารถและกิจกรรมที่คนในวัยทำงานกระทำในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ
4. การประกอบการ หมายถึง ความสามารถของผู้ประกอบการในการนำทรัพยากรธรรมชาติ ทุนและแรงงานมารวมกันเพื่อผลิตสินค้าและบริการ โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นกำไร
สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการเพิ่มการผลิตสินค้า และบริการให้มีปริมาณมากยิ่งขึ้นอยู่กับปัจจัย ได้แก่
1. ความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ หมายถึง ปัจจัย 4 คือ อาหาร เครื่องบุ่งห่ม ยารักษาโรคและที่อยู่อาศัย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการในการดำรงชีวิต
2. การโฆษณาชวนเชื่อ ผู้ประกอบการมักใช้สื่อ เช่นโทรทัศน์วิทยุ และหนังสือพิมพ์เป็นด้นเพื่อที่จะแนะนำให้ประชาชนได้รู้จักสินค้าและบริการในวงกว้างมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น
3. ประเพณี เป็นส่วนที่มีความสำคัญในการเพิ่มผลผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการของบุคคลเช่น ประเพณีเข้าพรรษา ผู้ประกอบการจะเพิ่มผลผลิตเทียนจำนำพรรษาและประเพณีสงกรานต์ผู้ประกอบการจะเพิ่มการผลิตนี้าอบและแป้ง เป็นด้น
4. สภาพสังคม เนื่องจากสภาพสังคมที่ผู้คนต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผู้ประกอบการจึงมีการเพิ่มการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการ เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศเครื่องซักผ้า เตารีด และตูเย็น เป็นด้น
1. การเพิ่มขึ้นของประชากร เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการบริโภคสินค้าและบริการย่อมเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการย่อมต้องผลิตสินค้ามากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ
2. การจัดสรรทรัพยากร เป็นการนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการผลิตสินค้าและบริการ
3. การกระจายทรัพยากร เป็นการนำทรัพยากรจากแหล่งที่มีอยู่มากไปสู่แหล่งที่มีอยู่น้อยโดยผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดและเหมาะสมมากที่สุด
การที่ผู้ประกอบการนำทรัพยากรในพื้นที่มาใช้ในการผลิตสินค้า เนื่องมาจากสาเหตุหลายประการดังนี้
1. การใช้ทรัพยากรในพื้นที่มาผลิตสินค้า ทำให้ลดด้นทุนในการขนล่ง อีกทั้งประหยัด เวลาอีกด้วย
2. ทำให้สินค้ามีราคาถูกลง เนื่องจากด้นทุนมีราคาตํ่า
3. เกิดอาชีพขึ้นภายในท้องถิ่น
การบริโภค หมายถึง การใช้สินค้าและบริการของประชาชน การบริโภค สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1. การบริโภคสินค้าที่ไม่คงทน คือ สินค้าที่ใช้แล้วหมดไป เช่น อาหาร ยารักษาโรค เครื่องดื่มปากกา ยางลบ สมุด และดินสอ เป็นด้น
2. การบริโภคสินค้าที่คงทนคือ สินค้าที่ใช้แล้วยังคงอยู่ เช่นโต๊ะ เก้าอี้รถยนต์ เสื้อ กางเกงกระเป๋า และรองเท้า เป็นด้น
หลักเกณฑ์ในการเลือกซื้อสินค้า
1. ความจำเป็น พิจารณาว่าสินค้าชนิดนั้นมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตหรือไม่
2. คุณภาพ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกซื้อสินค้า โดยเลือกสินค้าที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับราคาและปริมาณ
3. ราคา เป็นส่วนหนึ่งในการเลือกซื้อ โดยเฉพาะสินค้าชนิดเดียวกัน คุณภาพเท่ากันและปริมาณเท่ากัน ดังนั้น ราคาจึงเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินค้าอย่างหนึ่ง
การบริการ หมายถึง การปฏิบัติเพื่อให้ความสะดวกสบายในด้านต่าง ๆ เช่น การขึ้นรถโดยสารการตัดผมและการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก เป็นด้น
ตลาด
ตลาด หมายถึง สถานที่ที่เป็นแหล่งชุมนุมของผู้ค้า เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทต่าง ๆ ลักษณะของตลาดแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ หรือตลาดเสรี หมายถึง ตลาดที่มีการแข่งขันสูง มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ราคาของสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด และผู้ผลิตมีอิสระในการเข้า - ออกในตลาดอย่างเสรี
2. ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1.1 ตลาดผูกขาด คือ ตลาดที่มีหน่วยธุรกิจเดียวในการจัดหาสินค้าและบริการในตลาดไม่มีคู่แข่งทางการตลาดเลย
1.2 ตลาดผู้ขายน้อยราย คือ ตลาดที่มีหน่วยธุรกิจเพียง 3-4 รายในการจำหน่ายสินค้าชนิดเดียวกันในตลาด ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในจำนวนมาก เข่น ผู้ผลิตรถยนต์นี้าอัดลม ปูนซีเมนต์และเหล็ก เป็นด้น
1.3 ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด คือ ตลาดที่มีผู้ขายจำนวนมากแต่มีสัดส่วนในตลาดน้อย เข่น ร้านตัดผม ร้านอาหารและร้านบริการซ่อม เป็นด้น
1. จำนวนผู้ผลิตในตลาด
2. สภาพภูมิศาสตร์
3. ความสามารถของสินค้าในตลาดที่สามารถใช้ทดแทนกัน มีมากน้อยเพียงใด
การแข่งขัน
การแข่งขัน หมายถึง การต่อสู้ระหว่างผู้ผลิตที่ผลิตสินค้าในลักษณะเดียวกัน เพื่อจำหน่ายให้แก่ ผู้บริโภคในปริมาณที่มากขึ้น โดยอาศัยปัจจัยต่าง ๆได้แก่
1. เทคโนโลยี หมายถึง กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น แต่ราคาถูกลง โดยเทคโนโลยีแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
- เทคโนโลยีทางการเกษตร เป็นการนำวิทยาศาสตร์มาพัฒนางานด้านการเกษตรตั้งแต่วิธีการผลิต เข่น การไถนา การเกี่ยวข้าวและวิธีการรดนี้าเป็นด้น การขยายพันธุ คุณภาพและปริมาณของผลิต รวมถึงการใช้ยาปราบ-ศัตรูพืช
- เทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม เป็นการนำเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงานคนเพื่อให้ได้สินค้าที่รวดเร็ว มีปริมาณมากและมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน ซึ่งทำให้สินค้ามีราคาถูกลงและคุณภาพดีขึ้น
2. การเลือกใช้ทรัพยากรท้องถิ่น เป็นการลดด้นทุนการผลิต อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับท้องถิ่นของตนเอง เข่น ภาคใด้มีแร่บุกจำนวนมาก ทำให้เกิดโรงงานถลุงแร่ และการทำโรงงานนี้าปลาใกล้กับชายส่งทะเลที่มีการจับปลากันมาก เป็นด้น
ประโยชน์ของการแข่งขัน
1. ทำให้เกิดสินค้าชนิดใหม่ในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
2. ทำให้สินค้ามีราคาถูกลง แต่คุณภาพดีขึ้น
3. มีสินค้าให้เลือกมากขึ้น
สถาบันการเงิน หมายถึง องค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจ การเงินและการให้สินเชื่อเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงผู้ออมเงินกับผู้ต้องการกู้เงิน
หน้าที่ของสถาบันการเงิน
ในที่นี้ขอกล่าวถึงหน้าที่ของสถาบันการเงินประเภทธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ส่วนสถาบันการเงินเฉพาะอย่างก็จะมีหน้าที่เฉพาะขององค์กรแตกต่างกันไป
หน้าที่หลักของธนาคารพาณิชย์ มีดังนี้
1. บริการรับฝากเงินสำหรับผู้มีเงินออม โดยผู้ออมเงินจะได้รับดอกเบี้ยตอบแทน บริการรับฝากเงินมีหลายลักษณะ ได้แก่ เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ
2. บริการสินเชื่อ โดยแบ่งประเภทสินเชื่อได้ดังนี้
- เงินกู้ทั่วไป โดยนำหลักทรัพย์หรือเงินฝากมาค้ำประกัน
- เงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี โดยนำหลักทรัพย์หรือเงินฝากมาทำวงเงินคํ้ำประกันการเบิกเงินเกินบัญชี
- รับซื้อตั๋วเงินที่มีกำหนดระยะเวลา
3. บริการอื่น ๆ เช่น
- ให้บริการในด้านเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ช่วยเก็บเงินตามเช็ค ตั๋วเงินและตราสารอื่น ๆ ช่วยเก็บและจ่ายเงินประเภทอื่น ๆ เช่น ค่าเช่า ค่าดอกเบี้ย ค่าไฟฟ้าค่าน้ำประปา ค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียมให้แก่หน่วยงานราชการต่าง ๆและช่วยเป็นตัวแทนรัฐบาลในการขายพันธบัตร ตั๋วเงินคลัง เป็นด้น
- ให้บริการช่วยเหลือด้านการค้าและการชำระเงินระหว่างประเทศ
สหกรณ์ หมายถึง การรวมกลุ่มก็'นของคณะบุคคลเพื่อดำเนินกิจการต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างสมาชิก และได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ตามกฎหมาย
หลักการของสหกรณ์
1. เปิดรับสมาชิกตามความสมัครใจ เข้ามาเป็นสมาชิกด้วยความเต็มใจ
2. เปิดรับสมาชิกโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา หรือฐานะทางสังคม
3. ดำเนินการตามหลักประชาธิปไตย คือ สมาชิกมีสิทธิแสดงความคิดเห็นและมีสิทธิออกเสียง
4. สหกรณ์ต้องจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกในรูปของเงินปันผลจากหุ้นส่วนที่สมาชิกมีอยู่
5. เจ้าหน้าที่และสมาชิกของสหกรณ์มีสิทธิ์ในการรับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการสหกรณ์
6. เจ้าหน้าที่และสมาชิกสหกรณ์ควรหาความรู้ใหม่ ๆ และแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน เพื่อนำมาพัฒนากิจการของสหกรณ์
ระเบียบการจัดตั้งสหกรณ์
1. กำหนดชื่อและประเภทของสหกรณ์
2. กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์
3. ต้องมีคณะบุคคลตั้งแต่ 10 คนชื้นไป
4. ต้องจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511
5. ต้องดำเนินการตามหลักการของสหกรณ์
วิธีการจัดตั้งสหกรณ์โรงเรียน
1. จัดประชุมเพื่อเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมเป็นสมาชิก โดยชี้แจงข้อดี ข้อเสีย รวมถึงผลประโยชน์ในการเข้าเป็นสมาชิกของสหกรณ์
2. แต่งตั้งคณะบุคคลเพื่อดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์
3. กำหนดระเบียบเกี่ยวกับสมาชิก ราคาหุ้น เงินปันผล และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ
4. เปิดรับสมัครสมาชิกที่สนใจ
5. จัดประชุมสมาชิกทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานของสหกรณ์
วิธีการจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นในชุมชน
1. ขั้นเตรียมการ
- สำรวจความพร้อมของบุคลากรภายในชุมชน
- จัดหาสถานที่ในการจัดตั้งสหกรณ์
- แต่งตั้งคณะผู้ดำเนินงานจัดตั้งสหกรณ์
- ค้นคว้าหาความรู้เกี่ยวกับการดำเนินกิจการสหกรณ์และหลักการในการจัดตั้ง
- กำหนดระเบียบ ข้อบังคับ และกฎเกณฑ์การรับสมาชิก ราคาหุ้น วัตถุประสงค์และวิธีการดำเนินงานของสหกรณ์
2. ขั้นดำเนินการจัดตั้ง
- เปิดรับสมาชิกสหกรณ์
- ประชุมสมาชิกเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน
3. ขั้นตอนดำเนินกิจการ
- คณะกรรมการต้องดำเนินกิจการของสหกรณ์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักการและระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์
ประโยชน์ของการจัดตั้งสหกรณ์
1. สมาชิกของสหกรณ์สามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง
2. การรวมตัวกันทำให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก
3. สมาชิกได้รับประโยชน์จากเงินปันผล
4. ส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีขึ้นในชุมชน
5. เป็นแหล่งเงินกูของสมาชิก
6. ทำให้เกิดการเรียนรู้การดำเนินธุรกิจในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจรูปแบบอื่นได้
ภาษี
ภาษี หมายถึง เงินที่รัฐหรือท้องถิ่นเรียกเก็บจากบุคคล เพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศหรือท้องถิ่นภาษีถือว่าเป็นรายได้สำคัญของรัฐที่นำมาใช้จ่ายด้านต่าง ๆ
การเสียภาษีจะคิดตามปีภาษีเริ่มตั้งแต่1เมษายนปีนี้-31มีนาคมปีถัดไปของทุกปีการหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีต้องเสียค่าปรับหรืออาจถูกจำคุกได้ การเสียภาษีเป็นสิ่งควรทำเพราะเงินภาษีถูกนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ
ประโยชน์ของภาษี
1. ใช้ในการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ เช่น สร้างถนน สร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียนและก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ประชาชนส่วนรวม เป็นต้น
2. ใช้เป็นเงินเดือนข้าราชการประจำและข้าราชการการเมือง ซึ่งให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ
ลักษณะของการจัดเก็บภาษี
แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
1. ภาษีทางตรง คือ ภาษีที่รัฐเรียกเก็บโดยตรงจากบุคคลผู้มีรายได้ เช่น ภาษีเงินได้เป็นต้น
2. ภาษีทางอ้อม คือ ภาษีที่ผู้เสียภาษีผลักภาระให้ผู้อื่นจ่ายแทน เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ เป็นผู้จ่ายแทนผู้ประกอบการ เป็นต้น
ประเภทของภาษี
1. ภาษีเงินได้ เป็นภาษีที่เรียกเก็บจากบุคคลที่ได้รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อย่างอื่นซึ่งอาจคำนวณเป็นเงินได้ แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ได้แก่
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากบุคคลที่มีรายได้ เช่น ข้าราชการ พนักงานบริษัท และพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มบุคคลหรือองค์กร เช่นบริษัท ห้างหุ้นส่วน เป็นด้น โดยคิดภาษีจากกำไรที่ได้รับ
2. ภาษีบำรุงท้องที่ เป็นภาษีที่เจ้าของที่ดินต้องเสียเป็นรายปีจากราคาปานกลางของที่ดินตามที่ทางราชการได้กำหนดไว้ เพื่อให้เป็นรายได้ขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่นซึ่งที่ดินอยู่ในเขตนั้น
3. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน เป็นภาษีที่รัฐเรียกเก็บจากผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและโรงเรือนรวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นบนที่ดินที่ให้เช่า ประกอบธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นใดที่เจ้าของได้รับตอบแทนต้องเสียภาษีเป็นรายปีตามที่รัฐกำหนด
4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการเรียกเก็บภาษีทางอ้อมที่รัฐเรียกเก็บจากบุคคลที่ซื้อสินค้าหรือบริการโดยจัดเก็บเฉพาะมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละขั้นตอนของการผลิต การจำหน่ายหรือการให้บริการ
5. ภาษีสรรพสามิต เป็นภาษีที่กรมสรรพสามิตเรียกเก็บจากสินค้าที่ผลิตหรือนำเข้า และการให้บริการในทางธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ภาษีสุรา ภาษีบุหรี่ ภาษีกิจการสถานบันเทิง และภาษีรถยนต์ เป็นต้น