Chatbot Generative AI ตัวแรกที่เราจะมาดูรายละเอียดกัน นิกขอเริ่มที่ ChatGPT (แบบไม่เสียเงิน) ที่นับว่าเป็นผู้กระตุ้นกระแส Generative AI ให้มีการตื่นตัว โดยรายละเอียดของ ChatGPT มีดังนี้ค่ะ
Model: ChatGPT จะมีโครงสร้างของโมเดลเป็นแบบ Transformer โมเดล ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของโมเดลแบบโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Network: NN) ซึ่งถูกออกแบบมาให้เป็น LLM เพื่อให้สามารถตอบสนองเลียนแบบการสนทนาของมนุษย์ได้ใกล้เคียง รวดเร็ว และลื่นไหล ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่ากระบวนการของ NN รูปแบบเดิมโดยชื่อโมเดลคือ GPT3.5 ซึ่งมีจำนวน Layer ของ Transformer ทั้งหมด 12 เลเยอร์ และมีจำนวน Parameters 117 ล้านพารามิเตอร์
Company: ChatGPT ถูกปล่อยออกมาด้วยห้องปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชื่อว่า OpenAI ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558
Database: ข้อมูลที่ใช้เทรนโมเดลสำหรับ ChatGPT อัพเดทล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2021 (เพราะฉะนั้นถ้าเราถาม ChatGPT เวอร์ชั่นนี้ด้วยคำถามที่ต้องการคำตอบที่เป็นปัจจุบัน Chatbot ตัวนี้จะไม่สามารถตอบให้เราได้ หรือไม่อย่างนั้นก็จะตอบด้วยข้อมูลที่ไม่อัพเดทค่ะ)
ความสามารถ: สำหรับ GPT3.5 จะมีความสามารถเพียงแค่การตอบโต้บทสนทนาผ่าน Prompts ค่ะ (ไม่สามารถสร้างภาพ เสียง ช่วยเรา Excute code หรือตรวจสอบการตอบสนองต่างๆ ได้)
Google Bard ที่เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) จาก Google ที่สามารถใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่หลากหลาด้วยข้อมูลจาก Search Engine Google เช่น การตอบคำถาม การเขียนเนื้อหาสร้างสรรค์ และแปลภาษา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ^^
Model: Google Bard LLM ที่ใช้สร้าง Bard คือ PaLM2 (Pathways Language Model version 2) ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ โดย PaLM2 ประกอบด้วยสองส่วนหลัก Encoder และ Decoder ที่มีจำนวนพารามิเตอร์ 1.56T พารามิเตอร์
Company: Google Bard ถูกพัฒนาโดย Google AI
Database: Google Bard เป็น Real-time database 😎✨
ความสามารถ: สำหรับ Google Bard สร้างข้อความ (Text Generation) และมี Voice Generation ร่วมกับความสามารถในการแปลภาษา
ซึ่งในส่วนของการใช้งาน Bard ค่อนข้างทำได้ดี เข้าถึงง่าย และคำตอบที่ได้ค่อนข้างเป็นคำตอบที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นข้อดีมากๆ หากเราต้องการถามคำถามที่ต้องใช้ข้อมูลใหม่ แต่อย่างไรก็ดี นิกพบว่าตัว Google Bard ค่อนข้างมี AI Hallucination (คือการที่ AI มั่วๆ คำตอบออกมาให้เรา) มากกว่า ChatGPT ทำให้ในการใช้ Bard เราควรตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบด้วย ซึ่งถ้าพบว่าคำตอบแรกที่ Bard ให้มาไม่เป็นที่พอใจเท่าไหร่ ข้อดีของ Bard ก็คือมีการ Provide คำตอบมาให้ถึง 3 drafts ด้วยกันเลย
Bing Chat แต่หลังจากนี้จะถูกรีแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ Copilot
การรีแบรนด์จาก Bing Chat ไปเป็น Copilot เกิดขึ้นหลังจากโอเพนเอไอ (OpenAI) เปิดเผยว่า พวกเขามียอดผู้ใช้งาน ChatGPT ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคนในแต่ละสัปดาห์
รวมเอาหลายภาษามาใช้ร่วมกัน ควรเลือก Assistant จาก Explore สำหรับนักศึกษาให้พิมพ์ข้อมูลว่า Education จะมี ขึ้นมาหลายตัว แนะนำให้ใช้ EDmentorCLAUDE หรือ EDmentorGPT ซึ่งสามารถลองใช้ ผู้ช่วยตัวอื่น ๆ แล้วเปรียบเทียบผลว่าเราพึงพอใจกับผลลัพธ์ของผู้ช่วยตัวไหน