Romanesque
สถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์
สถาปัตยกรรมแบบ Romanesque เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6-11 แล้วพัฒนาเป็นศิลปะแบบกอธิกในคริสต์ศตวรรษที่ 12 มีการผสมผสานระหว่างยุคไบเซนไทน์และโรมันเข้าด้วยกัน ยุคโรมาเนสก์เกิดขึ้นต่อจากไบเซนไทน์ รูปแบบที่เห็นได้ชัดคือ หอคอยสูงที่จะจัดให้อยู่ที่มุมทั้งสี่ด้านของพื้นที่หรือตัวอาคาร และนิยมทำโดมแบบยอดแหลม ในยุคไบเซนไทนิยมสร้างโดมเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาคาร ในยุคโรมันมีการสร้างโดมเหมือนกันแต่ไม่นิยมทำเท่าไบเซนไทน์ โรมาเนสก์จึงมีโดมเป็นส่วนประกอบสำคัญเช่นกัน จากในภาพจะเห็นว่ามีการสร้างโดมหลายโดมในอาคารหลังเดียว ในยุคอื่นจะนิยมสร้างโดมเพียงอันเดียว ส่วนรูปแบบโรมันจะเห็นได้จาก ประตูทรงโค้งและเสาทรงสูง ที่แบบโรมันนิยมใช้
ลักษณะการวางแผนผังและการออกแบบจะใช้รูปแบบสมมาตรในแบบโรมัน มีกำแพงที่หนาคู่กับช่องโค้งครึ่งวงกลม การสร้างที่พิ้นเว้าเข้าไปเป็นขนาดเล็กบริเวณด้านหน้าอาคาร และมีช่องวงกลมเป็นกระจกสีรับแสงจากภายนอกเข้ามาในตัวอาคาร โดยช่องกระจกสีแบบนี้ถูกนำไปใช้ในรูปแบบกอธิกและพัฒนาให้ซับซ้อนขึ้นจนเกิดเป็นลักษณะเฉพาะของกอธิก บริเวณทางเดินข้างอาคาร (arcade) จะเป็นซุ้มโค้งที่มีเสารับโครงสร้างไปตลอดทางเดินที่ถอดยาวไปตามความยาวของอาคาร
จึงกล่าวได้ว่าศิลปะแบบโรมาเนสก์ ที่พัฒนาจนลงตัวเป็นต้นแบบให้กับศิลปะยุโรปในยุคต่อมา ไม่จะเป็นกอธิกหรือบาโรก ที่มีลักษณะเฉพาะตัวก็มีพื้นฐานมาจากโรมาเนสก์นั้นเอง ตัวอย่างเช่น หอคอยยอดแหลมของกอธิก หรือ โดมกลมวิจิตรสวยงามในแบบบาโรก ที่ปรากฎให้เห็นทั้งใน โบสถ์คริสต์ พระราชวัง และอาคารสำคัญในทั่วทวีปยุโรป
๐ สถาปัตยกรรมไบแซนไทน์