Rococo Art
สถาปัตยกรรมโรโคโค เป็นช่วงตอนปลายของยุคบาโรก (Late Baroque) เป็นการพัฒนาต่อจากรูปแบบบาโรก ที่มีอิทธิพลต่อทั้งในงานจิตกรรม ประติมากรรม การตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเงิน เครื่องแก้ว ดนตรี และโรงละคร โดยอยู่ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ซึ่งมีแนวคิดที่ตรงข้ามกับรูปแบบของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่จะไม่เน้นความสมมาตรและเรขาคณิต ไม่มีแบบแผนที่ตายตัว มีการใช้เส้นโค้ง เน้นการเคลือบทองคำ ใช้สีขาวและสีพาสเทล การขึ้นรูปประติมากรรมและนูนสูงแบบสามมิติ โรโคโคจึงอยู่ในช่วงกลางของศริสตวรรษที่ 18
คำกล่าวที่ว่า งานจิตกรรมแยกไม่ออกจากสถาปัตยกรรมแบบบาโรกนั้น ยิ่งมีความโดดเด่นอย่างมากในยุคโรโคโคที่มีการออกแบบตื่นตาตื่นใจ มีความเคลื่อนไหวและเน้นอารมณ์ความรู้สึกลงไปด้วย งานจึงมีความวิจิตรสวยงามมาก การตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ของทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และ 15 มีความโดดเด่น เกิดการผสมผสานลงตัวทั้งสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม การตกแต่งภายใน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างลงตัวมาก
ด้านสภาปัตยกรรม ได้สืบทอดงานแบบบาโรกและนำมาพัฒนาต่อ โดยเน้นความไม่สมมาตร ใช้เส้นโค้งและการขมวดเส้นเป็นก้นหอย มีงานเคลือบทองเป็นลักษณะเด่นทั้งภายนอกและภายใน ภาพรวมส่วนใหญ่ของอาคารจึงมีความโค้งมน มีลักษณะโดเด่นเฉพาะตัวต่างจากรูปแบบอื่นที่จะเป็นรูปทรงเลขาคณิตแบบสี่เหลี่ยมเป็นส่วนใหญ่
เมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ใช้ความสมมาตร รูปแบบเรขาคณิต คือ สี่เหลี่ยม วงกลม ตัวอาคารจึงเป็นทรงสี่เหลี่ยม แต่โรโคโคจะเป็นทรงกลมมน ลาดลายการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในจะเป็นอิสระมากกว่า พระราชวังแวร์ซายส์ของหลุยส์ที่ 14 ว่าสวยงามอลังการแล้ว งานแบบโรโคโคยิ่งวิจิตรอลังการเข้าไปอีก ใช้ทั้งการเคลือบเงินและทองคำทั่วทั้งพิ้นที่ภายในอาคาร ลองสังเกตลวดลายนูนต่ำที่ตกแต่งภายในจะคล้ายกับงานของอาจารย์เฉลิมชัย
เราคงเคยได้ยินคำว่า เฟอร์นิเจอร์แบบหลุยส์ที่มีอิทธิพลมาจนถึงปัจจุบัน ในการตกแต่งภายในยังใช้รูปแบบหลุยนี้อยู่ตลอดเวลา สังเกตที่ การตกแต่งด้วยกรอบสี่เหลี่ยมบนผนังของคอนโดด้านล่าง รูปแบบที่นำมาใช้เป็นการลดทอนรายละเอียดลงไปให้เข้ากับยุคปัจจุบัน อาจเรียกได้ว่าเป็น รูปแบบโคโรเนียล
By made2homeเรียบเรียงจาก WikipediaStyle Louis XIV (รูปแบบหลุยส์ที่ 14)