Hostel

คำว่า Hostel เราคงได้ยินกันบ่อย ๆ Hostel พัฒนามาจากที่พักของนักศึกษาในต่างประเทศ ที่จำเป็นต้องพักในห้องเดียวกันหลายคนในแบบหอพัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องงบประมาณของตัวนักศึกษาโดยเฉพาะคนที่เป็นนักศึกษาต่างชาติ และที่พักในสถานศึกษาหรือที่ใกล้เคียงมีจำนวนไม่มาก จึงจำเป็นต้องทำห้องรวมและพักด้วยกันหลายคน จึงเป็นที่มาของโรงแรมแบบ Hostel ที่มีเตียงสองชั้นในห้องรวมและให้ลูกค้าพักรวมกัน 2-10 คน อาจจะแยกหญิงชายหรือไม่แยกเพศก็มี ในไทยมีความนิยมมากโดยเฉพาะในย่านรอบ ๆ วัดพระแก้ว ถนนข้าวสาร ราคาคิดเป็นรายหัวละ ๆ 250 บาท หรือถ้ามีอาหารเช้าก็ 300 บาท ถ้าห้องนั้นมี 6 เตียง จะได้ 250x6=1500 บาท

ในกรุงเทพนิยมนำตึกแถวเก่า นำมาปรับปรุงรีโนเวทใหม่และมีการนำเรื่องราวมาเชื่อมโยงกับโรงแรม เพื่อสร้างเอกลักษณ์และประสบการณ์ให้กับผู้มาพัก หรือบ้านเก่าก็นิยมนำมาทำ Hostel ด้วยเช่นกันและสร้างเรื่องราวได้ง่ายเพราะบ้านเก่านั้นมีประวัติความเป็นมาในตัวมันเองอยู่แล้ว ในกรณีทำเป็น โฮมสเตย์ จะมีห้องพักไม่เกิน 4 ห้อง มีผู้เข้าพักไม่เกิน 20 คน โดยเจ้าของบ้านจะต้องพักอยู่ในบริเวณเดียวกันกับผู้เข้าพักด้วย มีโฮมสเตย์บางแห่งที่มาจดทะเบียนที่หลังในช่วงที่ภาครัฐเข้มงวด มีห้องเกินกำหนดต้องจดทะเบียนเป็นโฮมสเตย์สองชื่อ ถ้าจะทำเป็นโรงแรมไม่ว่าจะเป็น hostel หรือ รีสอร์ท จะจดทะเบียนใน พรบ. โรงแรม พ.ศ. 2547

Boutique Hotel

คำว่า Boutique จริง ๆ เราคุ้นกันดีในคำว่า บูติก เช่น ร้านเสื้อผ้าบูติก แนวคิดของโรงแรมบูติก เป็นโรงแรมขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้มีทุนมากเหมือนโรงแรมขนาดใหญ่ อาจจะมีห้องพัก 10-30 ห้อง แต่มีการออกแบบที่สวยงามหรือมีความแปลกใหม่และยังคงมีการบริการเหมือนโรงแรมขนาดใหญ่ โดยจะแตกต่างจาก Hostel ที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการห้องพักราคาไม่แพง ส่วนบูติกโฮเต็ลราคาห้องพักอาจจะห้องละ 800-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับการออกแบบและประสบการณ์ที่ผู้พักจะได้รับ

ถ้าเราเลือกทำ บูติกโฮเตล จะได้ราคาห้องพักที่สูงกว่า hostel หรือ โฮมสเตย์ แต่รูปแบบ การตกแต่ง เรื่องราว และประสบการณ์ที่ผู้เข้าพักจะได้รับต้องมากกกว่าโรงแรมแบบอื่น ลองดู เก๊าไม้ล้านนา ที่ด้านล่าง เขาเอาโรงยาสูบเก่ามาทำเป็นโรงแรม

การเสียภาษี ถ้าเป็นห้องเช่าคิด 12.5% ต่อปี จากค่าเช่าที่เราเรียกเก็บจากผู้เช่า สำหรับโรงแรมหรืออพาร์ทเม้นท์รายวันสามารถตกลงกับเทศบาลหรือ อบต. ขอชำระแบบเหม่าจ่ายได้ โดยเราแจ้งรายได้แบบค่าเฉลี่ยของตลอดทั้งปีนำเอาไปคิดภาษีโรงเรือน นอกจากนี้จะมีภาษีสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่จะเก็บเพียงปีละ 500 บาท

เราสามารถเริ่มทำเป็นโฮมสเตย์ 4 ห้อง ถ้ามีลูกค้าเพิ่มขึ้นเราจดทะเบียนเป็นโฮมสเตย์อีกชื่อหนึ่ง เพราะถ้าจะสร้างตึกเป็นอพาร์ทเม้นท์รายวัน หรือโรงแรมขนาดเล็ก ก็จะใช้ทุนสูง ที่นิยมทำกันคือเอาตึกเก่ามารีโนเวทใหม่ การขอจดโรงแรมจะมีรายละเอียดค่าง ๆ มากกว่า เช่น บันไดหนีไฟ ถังดับเพลิง สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ต้องมีตามที่กำหนด

ถ้าทำเป็นแบบ Guest House กรณีมีบ้านว่าง จะทำราคาได้ถึง 6-7,000 บาทต่อเดือน โดยตกแต่งบ้านให้สวยงาม มีครัว อุปกรณ์ทำอาหารเท่าที่จำเป็น หม้อ กระทะ เตาไฟฟ้า อ่างล้างจาน เครื่องซักผ้า เคเบิลทีวี อินเตอร์เน็ต ผู้เช่าจะเป็นชาวต่างชาติที่มาอาศับระยะยาวในไทยมีกำลังที่จะจ่ายได้ บางแห่งสามารถใช้บ้านหลังเดียวแบ่งเช่าชั้นบนและชั้นล่าง และได้ค่าเช่าชั้นละ 7,000 บาท คือจะได้เดือนละ 14,000 บาท เป็นต้น โดยเราแจ้งเป็นบ้านเช่าทั่วไป จ่ายภาษีโรงเรือนแบบปกติ ถ้าห้องว่าง เราเปิดเป็นรายวัน 800 บาท ก็ยังได้ด้วย

การทำห้องเช่า เกสเฮ้าส์ โฮมสเตย์ หรือเราจะทำโฮสเทล บูติกโฮเทล มีห้องพัก 4-8 ห้อง แต่จดทะเบียนเป็นโฮมสเตย์ และมีการตกแต่งที่สวยงามก็ไม่ได้ผิดอะไร จะช่วยให้เราไม่ต้องลงทุนมากในเบื้องต้น และเพิ่มมูลค่าด้วยการออกแบบ การบริการ สิ่งอำนวยความสะดวก ประสบการณ์แปลกใหม่ ทำให้กำหนดราคาห้องพักได้ตามที่เหมาะสม

รับออกแบบและก่อสร้าง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้า ทาวน์โฮม โครงการบ้านจัดสรร อาคารพานิชย์ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม รีสอร์ท Hostel หอพัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า โชว์รูม คอนโดมิเนียม บ้านหรู สระว่ายน้ำ Community Mall โรงพยาบาล อาคารสำนักงาน อาคารโรงงาน อาคารที่จอดรถ โกดังสินค้า อาคารตึกสูง งานรีโนเวทอาคารเก่า โดยสถาปนิกและวิศวกร ที่เชี่ยวชาญและชำนาญการ ออกแบบพร้อมช่วยดำเนินการขออนุญาตก่อสร้าง ตามกฎข้อบังคับของแต่ละเขตพื้นที่ในกรุงเทพ เทศบาลฯ องค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งมีกฎหมายแตกต่างกัน