เรอเนสซองส์ (Renaissance architecture) เป็นสถาปัตยกรรมยุโรปใช่วงศตวรรษที่ 14 - 16 ที่ยึดรูปแบบของกรีกและโรมัน ยังใช้หลักการสมมาตร การวางสัดส่วนที่เหมาะสม การใช้รูปทรงเรขาคณิต และยึดระเบียบแบบแผนดั่งเดิม ยังมีการใช้เสาและการตกแต่งหัวเสา การใช้ซุ้มโค้งครึ่งวงกลม การทำช่องแบบโดมครึ่งอันเพื่อการตกแต่ง

การวางแผนผังจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมและจัดให้สมมาตร ส่วนของทางเดินจะกว้าง ส่วนด้านหน้าของอาคารจะมีแผนผังของฟาซาดซึ่งเป็นรูปแบบของ Brunelleschi เป็นผู้ออกแบบ การตกแต่งด้านหน้าอาคารฟาซาด (facard) มียอดบนสุดเป็นรูปสามเหลี่ยมหรือครึ่งวงกลมเรียกว่า pediment และส่วนตกแต่งรองรับเสาในแบบกรีก มีซุ้มโค้งทั้งหน้าต่างและประตู มีการตกแต่งด้วยแถบและเส้นแนวนอน (entablatures) แบบกรีกอีกเช่นกัน บริเวณเหลือประตูหรือหน้าต่างจะมีการตกแต่งเพื่อครอบอยู่ด้านบนเหมือนใส่มงกุฎ (cornice)

ยุคนี้นิยมสร้างโดม อาคารที่มีชื่อเสียงอย่าง Florence Cathedral และ St Peter's Basilica (ภาพด้านล่าง) โดมครึ่งวงกลมนั้นสวยงามทั้งสองอัน ออกแบบโดย Filippo Brunelleschi ผู้เป็นบิดาแห่งเรอเนสซองส์

เพดานของอาคารมีการตกแต่งที่เรียกว่า coffered จะทำร่องเว้าเข้าไปในผนังของโดมเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยมซ้อนกัน ประตูทางเข้าของอาคารจะเป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้า ไม่มีโค้ง arch ซึ่งเป็นหลักสำคัญของเรอเนสซองส์ ดูจากรูปภาพจะเห็นซุ้มโค้งของฟาซาดหน้าอาคารแล้วจึงจะเป็นประตูทางเข้าที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า หน้าต่างก็เช่นเดียวกันจะไม่มี arch หลักการเหมือนประตู แต่อาจจะมีการเลือกใช้หรือปรับเปรียนเป็นแบบอื่นบ้าง แต่ประตู หน้าต่าง สี่เหลี่ยมเป็นลักษณะเด่นของยุคนี้ เข้าใจว่า ส่วนของฟาซาดนั้นมีการใช้ซุ้มโค้งไปแล้ว การทำประตู หน้าต่าง สี่เหลี่ยมจะลดความจำเจเพิ่มความสวยงามได้มากกว่า อย่างพระราชวัง Palazzo Farnese มีหน้าต่างทั้งโค้งและสี่เหลี่ยม

กำแพงด้านนอกที่เป็นรั้วของอาคารจะสร้างด้วยอิฐและปิดด้านหน้าด้วยหิน ส่วนกำแพงด้านในจะฉาบปูนให้เรียบแล้วมีการวาดภาพตกแต่งลงไป จะเห็นได้ว่า เรอเนสซองส์นั้นไม่ได้มีรูปแบบของกอธิกเลยซึ่งเป็นยุคที่ต่อเนื่องกัน เรอเนสซองส์มีความเป็นแบบแผนและนำเอารูปแบบกรีกโรมันกลับมาใช้ สถาปัตยกรรมจึงดูไม่ซับซ้อนแต่สวยงามเข้าถึงได้ง่าย