Italian Style

เราคงคุ้นเคยกันดีกับอาคารในแบบอิตาเลี่ยน เพราะมีการใช้สร้างทั้งบ้าน รีสอร์ท คอมมูนิตีมอลล์ ในหลาย ๆ พื้นที่ อย่างเช่นที่ เขาใหญ่ หรือ ชลบุรี ลักษณะเด่นคือประตูโค้ง (Arch) และการจัดวางองค์ประกอบแบบสมมาตร ซึ่งเป็นรูปแบบของบาโรกและโรมัน

Morocco เป็นประเทศอิสลามอยู่ในทวีปแอฟริกาเหนือ แต่อยู่ใต้สเปนและช่องแคบยิบรอลตาร์ที่เป็นช่องทางเดินเรือที่สำคัญ จึงเป็นประเทศในคาบสมุทรเมดิเตอร์เรเนียนโดยมี โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี ที่เป็นประเทศมหาอำนาจ การตกแต่งแบบโมโรคโคมีให้เห็นบางเช่นกัน และมีลักษณะโดนเด่นทั้งรูปแบบและสีสันสดใสหลากหลายสี ในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันกับการตกแต่งแบบโบราณ และยังมีจุดร่วมในศิลปะแบบเมดิเตอร์เรเนียนด้วย

สถาปัตกรรมแบบอิสลาม (Islamic Architecture)

อาคารแบบอิสลาม ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตกรรมโรมัน, ไบแซนไทน์ และ เปอร์เซีย สีสันในแบบของอาคารโมร็อคโคจึงเป็นรูปแบบของอิสลาม มัสยิดของอิสลามนิยมทำประตูโค้งยอดแหลม เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดคือ โดม ของตัวอาคารที่เราคุ้นตากันดี ซึ่ง โดมและประตูโค้งแหลมนั้นเป็นศิลปะแบบเปอร์เซีย ที่เกิดขึ่นราว 700 ปี ก่อนคริสต์ศักราชบนที่ราบสูงอิหร่าน

อาจจะเป็นไปได้ว่า โดม นั้นยุคบาโรก ได้รับอิทธิพลจากเปอร์เซีย ส่วนประตูโค้งแหลมในยุคกอธิกอาจจะได้รับอิทธิพลด้วยเช่นกัน เพราะเปอร์เซียนั้นมีการทำเพดานภายในของหลังคาแบบเว้าโค้งแหลมเป็นเอกลักษณ์ตามภาพด้านล่าง ทัชมาฮาล ในอินเดียเป็นตัวอย่างของศิลปะแบบเปอร์เซึยที่มีโดมและองค์ประกอบอันสวยงาม และอาคารในโมร็อคโคที่มีสีสันสวยงามฉูดฉาดก็เป็นศิลปะแบบเปอร์เซีย

โดม ที่นิยมสร้างเป็นรูปหัวหอม ได้เห็นในมัสยิด อาคารแบบบาโรก โดม ปรากฎให้เห็นตั้งแต่ยุคเมโซโปเตเมีย ราว 3,100 ปี ก่อนคริสตกาล (เกิดก่อนยุคอียิปต์) ครอบคลุมดินแดนอิรัก อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย คูเวต ตุรกี ซีเรีย จึงตั้งสมมุติฐานว่า โดมแบบบาโรกและในยุโรปได้รับอิทธิพลจากศิลปะเปอร์เซียและออตโตมัน

การผสมผสานของศิลปะและสถาปัตยกรรม

ศิลปะแบบโรมัน พัฒนาต่อมาจาก ศิลปะแแบบกรีก ประมาณ 1200 ปี ก่อนศริสต์ศักราช อาคารโบราณในอิตาลีคือศิลปะแบบโรมันที่หลงเหลืออยู่ ศิลปะกรีกกับโรมันจึงแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้

ไบแซนไทน์ เป็นการขยายอาณาจักรต่อจาก จักวรรดิโรมัน ออกมาทางด้านตะวันออกกลายเป็น จักวรรดิโรมันตะวันออก และต่อมาถูกยึดครองโดยจักรวรรดิเติร์กออตโตมัน ใน ค.ศ. 1453

ศิลปะแบบบาโรก พัฒนามาจากศิลปะแบบโรมัน โดย ไมเคิล แอนเจโล เป็นผู้นำมาประยุกต์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 เป็นการสืบทอคความยิ่งใหญ่ของศาสนาคริสต์คาทอลิก โดยเน้นความหรูหราโอ่อ่าอลังการ เน้นด้านอารมณ์ความรู้สึก แสง สี เงา ลักษณะเด่นจะมี โดม ประตูโค้ง และ เสาแบบโรมัน ซึ่งถอดแบบมาจากศิลปะโรมัน

ศิลปะแบบกอธิก เกิดขึ้นช่วงครีสต์ศตวรรษที่ 12 ถึง 16 เริ่มเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศส มีลักษณะเด่นของโครงหลังคาโค้งแหลม อาคารมีความสูงชะลูด เพื่อลดการรับน้ำหนักของผนังอาคาร ซุ้มประตูเป็นแบบโค้งยอดแหลม ในอังกฤษได้นำศิลปะแบบกอธิกไปใช้ในยุค Queen Victoria เป็นการฟื้นฟูศิลปะกอธิก

๐ ยุคของศิลปะตะวันตก

๐ รูปแบบของโดม