การเป็น "บาริสต้า" ซึ่งเป็นคำที่หมายถึงผู้ที่ทำเครื่องดื่มกาแฟ ที่ถูกใช้มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในประเทศอิตาลีที่ถึอได้ว่าเป็นแหล่งกำเนิดและเมืองหลวงของกาแฟเอสเพรสโซ ซึ่งยกย่องอาชีพบาริสต้าเปรียบเสมือนการทำงานศิลปะแขนงหนึ่งเลยทีเดียว
วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของตะวันตก มักจะให้ความสำคัญกับรสชาติที่ปราศจากการปรุงแต่ง รสชาติของกาแฟ เกิดจากคุณภาพของวัตถุดิบอันได้แก่ เมล็ดกาแฟ (แหล่งกำเนิด ระดับการคั่ว ) และวิธีในการชงที่จะให้รสชาติที่แตกต่างหลากหลายกันไป การปรุงแต่งเครื่องดื่มกาแฟก็มีแค่เพียงการเติมนมสด ครีม น้ำร้อน น้ำแข็งส่วนการปรุงรสหวาน มัน แต่งกลิ่นก็เป็นเรื่องที่ลูกค้าจะนำไปปรุง เพิ่มเติมกันเอง
แต่ทว่า....
รสนิยมของคนไทยกลับมีความแตกต่างอยู่พอสมควร ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนทำให้เครื่องดื่มเย็นและเครื่องดื่มปั่นจะได้เป็นที่นิยมมากกว่า แถมเครื่องดื่มเย็นที่ขายดีในร้านกาแฟกลับกลายเป็น ชาเย็น ชาเขียวนม โกโก้ ชาเขียวปั่น กาแฟปั่น นมปั่น น้ำผลไม้ปั่น สมูทตี้
ซึ่งเมนูเย็นและปั่นเหล่านี้ ล้วนต้องมีการปรุงแต่งรสชาติกันพอสมควรเลยทีเดียว กาแฟร้อนหรือกาแฟที่เน้นรสชาติของตัววัตถุดิบที่ปราศจากการปรุงแต่งในแนวกาแฟพิเศษแบบ Specialty Coffee มีสัดส่วนไม่ถึง 10% (แต่กลุ่มนี้กำลังเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากกลุ่มคนรุ่นใหม่)
ฉะนั้น...
ในการเรียนรู้เพื่อเป็นบาริสต้า เราจำเป็นต้องเริ่มเรียนรู้ตามทฤษฎีสากลของตะวันตกเป็นหลักซึ่งเป็นศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับในวงการกาแฟมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีจุดมุ่งหมายให้สามารถผลิตชอตกาแฟเอสเพรสโซที่ดีให้ได้
แต่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนไทย บาริสต้าที่ดีก็ต้องเรียนรู้ การปรุง เมนูที่เป็นที่นิยมของลูกค้าคนไทยทั้ง เมนูเย็น ( กาแฟ / ชา /ชาเขียว /โกโก้/ น้ำผลไม้ ) ซึ่งจะไม่มีสอนในคอร์สฝึกบาริสต้าแบบฝรั่ง