BANG TRADING GROUP
สวัสดิการ (Welfare) หมายถึง บริการ หรือ กิจกรรมที่สถานประกอบการนายจ้างจัดให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กร เพื่อขวัญกำลังใจ และ ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานดีขึ้นให้ได้รับความสะดวกสบายในการทำงาน เกิดความรู้สึกมีความมั่นคงในอาชีพนอกเหนือจากค่าจ้าง หรือ เงินเดือน
กรณีเจ็บป่วย
*วงเงินการรักษาขึ้นอยู่กับอายุงานของพนักงาน โดยแบ่งเป็น 2 กรณีคือ คนไข้ใน (OPD) และคนไข้นอก (IPD) โดยมีวงเงินการรักษาดังนี้
อายุงาน <1 ปี OPD วงเงิน 5,000 บาท IPD 20,000 บาท วงเงินรวม 25,000 บาท
อายุงาน >1-5ปี OPD วงเงิน 10,000 บาท IPD 30,000 บาท วงเงินรวม 40,000 บาท
อายุงาน >5-10ปี OPD วงเงิน 20,000 บาท IPD 40,000 บาท วงเงินรวม 60,000 บาท
อายุงาน >10ปี ขึ้นไป OPD วงเงิน 30,000 บาท IPD 50,000 บาท วงเงินรวม 80,000 บาท
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. พนักงานรักษาพยาบาลผ่านรพ.ประกันสังคม สามารถเบิกได้ตามจริง ตามสัดส่วนอายุงาน
3. หากพนักงานรักษาพยาบาลไม่ผ่านรพ.ประกันสังคม
กรณี OPD สามารถเบิกได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 2,000 บาท/ครั้ง
กรณี IPD สามารถเบิกได้ตามจริงไม่เกิน 50% ของค่าใช้จ่าย ตามสัดส่วนอายุงาน
4. พนักงานสามารถรักษาที่โรงพยาบาลหรือคลินิค
5. กรณีพนักงานทำประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายส่วนเกินสามารถนำมาเบิกกับทางบริษัทได้
6. ค่ารักษาพยาบาลพนักงานต้องสำรองจ่ายไปก่อน และนำเอกสารใบเสร็จตัวจริง,ใบรับรองแพทย์ตัวจริง มาเบิกคืนตามสิทธิ์ ยกเว้นมีใบส่งตัวจากบริษัท (รพ.ราม/วิภาราม/เวชธานี/ลาดพร้าว)
กรณีอุบัติเหตุ ไม่เกี่ยวกับการทำงาน
1. กรณีผู้ป่วยนอก (OPD) เท่านั้น
2. วงเงิน 5,000 บาท/อุบัติเหตุ 1 ครั้ง
ประกันสังคม
ประกันสังคม คืออะไร?
ประกันสังคม คือ การสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกที่มีรายได้ และจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับผิดชอบในการเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ เสียชีวิต สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และการว่างงาน เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาล และมีการทดแทนรายได้อย่างต่อเนื่อง
ผู้ประกันตน มาตรา 33
ผู้ประกันตน มาตรา 33 คือ ลูกจ้างที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ในวันเข้าทำงาน และทำงานอยู่ในสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป
สำหรับอัตราเงินสมทบของประกันสังคม มาตรา 33 ที่ผู้ประกันตนต้องนำส่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน จะคำนวณจากฐานค่าจ้างต่ำสุดเดือนละ 1,650 บาท และสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท ทั้งนี้ รัฐบาลจะออกเงินสมทบเข้ากองทุนอีกส่วนหนึ่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้
นายจ้าง ส่งเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าจ้างลูกจ้าง ขั้นต่ำ 83 บาท/เดือน และสูงสุดไม่เกิน 750 บาท/เดือน
ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ส่งเงินสมทบในอัตรา 5% ของค่าจ้าง ขั้นต่ำ 83 บาท/เดือน และสูงสุดไม่เกิน 750 บาท/เดือน
สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
เงื่อนไข : ต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสงคมมาแล้วไม่น้อยกวา่ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน
1. กรณีเจ็บป่วย
ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่คณะกรรมการการแพทย์ฯ กำหนด ซึ่งรวมถึงการฉีดวัคซีนตามสถานการณ์การระบาดของโรคที่กำหนดขึ้นในแต่ละปี โดยสามารถเข้ารับบริการได้ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดสิทธิ
เจ็บป่วยปกติ
สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามสิทธิหรือเครือข่ายของสถานพยาบาลนั้นได้ฟรี โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย ทั้งผู้ป่วยนอก (OPD) และผู้ป่วยใน (IPD)
ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน
กรณีเข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลรัฐ:
ผู้ป่วยนอก (OPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง
ผู้ป่วยใน (IPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ไม่นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
กรณีเข้ารักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลเอกชน:
ผู้ป่วยนอก (OPD) เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 1,000 บาท หรือ เกิน 1,000 บาทได้ หากมีการตรวจรักษาตามรายการในประกาศของคณะกรรมการการแพทย์
ผู้ป่วยใน (IPD) กรณีที่ไม่ได้รักษาในห้อง ICU เบิกค่ารักษาพยาบาลได้ไม่เกินวันละ 2,000 บาท ค่าห้องและค่าอาหาร ไม่เกินวันละ 700 บาท และสำหรับกรณีที่รักษาในห้อง ICU เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง และค่าอาหาร ได้รวมไม่เกินวันละ 4,500 บาท ผ่าตัดใหญ่ เบิกได้ไม่เกินครั้งละ 8,000-16,000 บาท ค่ายา และค่าอุปกรณ์ เบิกได้ไม่เกิน 4,000 บาท ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่าเอกซเรย์ เบิกได้ไม่เกิน 1,000 บาท
ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต
เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้เคียงได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องสำรองค่าใช้จ่าย ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง ทั้งนี้ นับรวมวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
ทันตกรรม
ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด รับค่าบริการทางการแพทย์ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 900 บาท/ปี
ฟันเทียมชนิดถอดได้บางส่วน รับค่าบริการทางการแพทย์ และค่าฟันเทียมตามที่จ่ายจริง โดย 1-5 ซี่ จะได้รับเงินไม่เกิน 1,300 บาท และมากกว่า 5 ซี่ ขึ้นไป จะได้รับเงินไม่เกิน 1,500 บาท
ฟันเทียมชนิดถอดได้ทั้งปาก กรณีฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนหรือล่าง รับค่าบริการทางการแพทย์ และค่าฟันเทียมตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 2,400 บาท และกรณีฟันปลอมชนิดถอดได้ทั้งปากบนและล่าง ไม่เกิน 4,400 บาท ภายในระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ใส่ฟันเทียม
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ จึงจะได้รับสิทธิ
2. กรณีคลอดบุตร
ผู้ประกันตนหญิง ได้รับเงินค่าคลอดบุตร 15,000 บาท ไม่จำกัดสถานพยาบาลและจำนวนครั้ง พร้อมรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน (สำหรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อคลอดบุตร สามารถเบิกได้สูงสุดไม่เกิน 2 ครั้ง)
ผู้ประกันตนชาย ซึ่งมีภรรยาที่จดทะเบียนโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือมีหญิงที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา รับเงินค่าคลอดบุตร 15,000 บาท
ค่าตรวจและฝากครรภ์ ได้สูงสุด 1,500 บาท
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนเดือนคลอดบุตร จึงจะได้รับสิทธิ และในกรณีที่ทั้งสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตน ให้เลือกใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่จำกัดจำนวนบุตรหรือครั้งในการเบิก
3. กรณีทุพพลภาพ
เงินทดแทนการขาดรายได้
ทุพพลภาพระดับเสียหายไม่รุนแรง รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 30% หรือในส่วนที่ลดลง ไม่เกิน 30% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ไม่เกิน 180 เดือน
ทุพพลภาพระดับเสียหายรุนแรง รับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างรายวันตามมาตรา 57 ตลอดชีวิต
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนทุพพลภาพ (ที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการทำงาน) จึงจะได้รับสิทธิ
4. กรณีเสียชีวิต
จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย 4 เดือน พร้อมรับค่าทำศพ 50,000 บาท
จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต 50% ของค่าจ้างเฉลี่ย 12 เดือน พร้อมรับค่าทำศพ 50,000 บาท
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนเสียชีวิต จึงจะได้รับสิทธิ
5. กรณีชราภาพ
เงินบำนาญชราภาพ คือ เงินที่ทยอยจ่ายเป็นรายเดือนตลอดชีวิต
จ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน (15 ปี) รับเงินบำนาญชราภาพรายเดือน 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน (15 ปีขึ้นไป) รับเงินบำนาญชราภาพรายเดือนเพิ่ม 1.5% จากอัตรา 20% ในทุก 12 เดือน
เงินบำเหน็จชราภาพ คือ เงินที่จ่ายเป็นก้อนครั้งเดียว
จ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบเฉพาะในส่วนของผู้ประกันตน เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ
จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ พร้อมผลตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
กรณีผู้รับเงินบำนาญชราภาพเสียชีวิตภายใน 60 เดือน นับตั้งแต่เดือนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือนที่ได้รับครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต จึงจะได้รับสิทธิ
6. กรณีสงเคราะห์บุตร
รับเงินค่าสงเคราะห์บุตรคนละ 800 บาท/เดือน โดยต้องเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายที่มีอายุไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ ครั้งละไม่เกิน 3 คน ทั้งนี้ ผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน จึงจะได้รับสิทธิ
7. กรณีว่างงาน
กรณีถูกเลิกจ้าง ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 5,000 บาท
กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเดือนละ 3,000 บาท
ในกรณียื่นคำขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานเพราะเหตุถูกเลิกจ้าง หรือเหตุถูกเลิกจ้างและลาออกหรือ สิ้นสุดสัญญาจ้างเกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนทุกครั้ง รวมกันไม่เกิน 180 วัน แต่ในกรณียื่นขอรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเพราะเหตุลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง เกินกว่า 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีปฏิทิน ให้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนรวมกันไม่เกิน 90 วัน
กองทุนเงินทดแทน
กองทุนเงินทดแทนคืออะไร ?
กองทุนเงินทดแทน คือ กองทุนที่จ่ายเงินทดแทนให้แก่ลูกจ้างแทนนายจ้าง เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายหรือสูญหาย สูญเสียอวัยวะหรือสูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายอันเนื่องมาจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โดยไม่คำนึงถึงวันเวลาและสถานที่ แต่จะดูสาเหตุที่ทำให้ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย
สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
เงื่อนไข : ต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสงคมมาแล้วไม่น้อยกวา่ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน
1. ค่ารักษาพยาบาล
จ่ายตามจริงไม่เกิน 50,000 บาท ต่อการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย 1 ครั้ง
ถ้าอุบัติเหตุมีความรุนแรงหรือมีอาการเรื้อรังจ่ายค่ารักษาให้อีก 100,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
2. ค่าทดแทนรายเดือน
เงินทดแทนขาดรายได้ร้อยละ 70 ของเงินเดือน โดยไม่เกิน 14,000 บาทต่อเดือน
3. ค่าทำศพ
จ่ายค่าทำศพแก้ผู้จัดการศพ 50,000 บาท
4. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน
ค่าใช้จ่ายในการทำกายภาพบำบัดจ่ายจริงไม่เกิน 24,000 บาท
ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเพื่อฟูร่างกาย จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. บิดา-มารดา อายุครบ 60 ปี และไม่มีรายได้
3. รักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก (OPD) เท่านั้น
4. วงเงิน 1,000 บาท/ปี
5. เบิกครั้งละไม่เกิน 500 บาท
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. เป็นกรณีถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน
3. วงเงิน 2,000 บาท/ปี
4. พนักงานต้องใช้สิทธิ์ประกันสังคม 900 บาทก่อน ส่วนเกินสามารถเบิกได้ตามจริง วงเงินตามที่บริษัทกำหนด
ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน
พนักงานจะได้รับการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานทุกตำแหน่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ตรวจสุขภาพประจำปี
1. พนักงานอายุงานครบ 1 ปี
2. ตรวจสุขภาพปีละ 1 ครั้ง
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. พนักงานต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลเป็นคนไข้ใน (นอน 6ชม. ขึ้นไป)
3. กรณีพนักงานหรือคู่สมรส (จดทะเบียนสมรส) คลอดบุตร
วงเงิน 1,000 บาท/ครั้ง
เงื่อนไขการฝาก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. วงเงินที่รับฝาก ไม่เกิน 6 เท่า ของเงินเดือน
3. อัตรา ดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี
3. จ่ายดอกเบี้ยให้กับพนักงานทุก 3 เดือน
4. กำหนดฝากเงินทุกวันที่ 1 ของเดือน
(บริษัทจ่ายฝ่ายเดียว)
เงื่อนไขในการจ่าย
1. บริษัทจ่ายให้ 50% ของเงินเดือน จ่ายสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท/ปี
2. บริษัทสะสมให้ใน เดือนธันวาคม ของทุกปี
3. พนักงานได้รับเมื่อลาออก โดยมีอายุงาน 4 ปีขึ้น จึงมีสิทธิ์ได้รับเงินกองทุน โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้
อายุงานครบ 4 ปี ได้รับเงินกองทุน 40%
อายุงานครบ 5 ปี ได้รับเงินกองทุน 50%
อายุงานครบ 6 ปี ได้รับเงินกองทุน 60%
อายุงานครบ 7 ปี ได้รับเงินกองทุน 70%
อายุงานครบ 8 ปี ได้รับเงินกองทุน 80%
อายุงานครบ 9 ปี ได้รับเงินกองทุน 90%
อายุงานครบ 10 ปี ได้รับเงินกองทุน 100%
เงื่อนไขการกู้ยืม
1. เพื่อซื้อรถยนต์ใช้ในงาน
2. เพื่อซ่อมแซมยานพาหนะ, ที่อยู่อาศัย
3. เพื่อการศึกษา
4. กรณีฉุกเฉิน พิจารณาเป็นกรณี
เงื่อนไขการได้รับโบนัส
1. พนักงานมีอายุงานครบ 6 เดือน ขึ้นไป จะได้รับโบนัสตามสัดส่วนระยะเวลาที่ทำงาน
2. บริษัทฯจะจ่ายโบนัส ตามผลงานและ
ผลประกอบการในแต่ละปี
3. พนักงานกลุ่มขาย ช่าง ไม่ได้รับโบนัส
(มีชื่อในทะเบียนบ้าน)
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
1. กรณีที่พักอาศัยประสบภัยธรรมชาติ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม
แผ่นดินไหว ดินถล่ม
2. วงเงินช่วยค่าเช่าบ้าน ตามจริง ไม่เกิน 3,000 บาท
3. วงเงินช่วยค่าซ่อมแซมบ้าน ตามจริง ไม่เกิน 5,000 บาท
เงื่อนไขการเบิก
1. พนักงานต้องผ่านทดลองงานแล้วเท่านั้น
2. วงเงิน 2,000 บาท
3. ใช้สิทธิ์ได้ครั้งเดียว
4. หลักฐานทะเบียนสมรสและการ์ดแต่งงาน
สถานที่จอดรถมี 2 แห่งคือ
1. ที่จอดรถในอาคาร และหน้าอาคาร
2. ที่จอดรถบนพื้นที่เช่านอกอาคาร
ระเบียบการของใช้ที่จอดรถ
1. พนักงานใหม่ขอสติ๊กเกอร์ที่แผนกธุรการโดยแจ้งทะเบียนรถหรือสำเนาทะเบียนรถที่จะนำมำจอด
สติ๊กเกอร์สีทอง จอดชั้น1
สติ๊กเกอร์สีเงิน จอดชั้นใต้ดิน
สติ๊กเกอร์สีน้ำเงิน จอดหน้าอาคาร
สติ๊กเกอร์สีขาว จอดภายนอกอาคารพื้นที่
2. ทุกท่านต้องมีสติ๊กเกอร์ติดหน้ารถและจอดรถตามสถานที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น
2.3 บัตรจอดรถเป็นสิทธิ์เฉพาะบุคคลไม่สามารถมอบต่อหรือใช้แทนกัน
2.4 ห้ามพนักงานจอดรถบริเวณทำงขึ้น–ลงชั้นใต้ดินหรือจอดขวางทางเข้า-ออก
2.5 กรุณาให้ควำมร่วมมือแก่พนักงานรปภ.ในการดูแลและจัดสถานที่จอดรถของท่ำน
(อลิอันซ์อยุธยา ประกัน)
ให้ความคุ้มครองพนักงานทุกคน ทันที่ที่เริ่มปฎิบัติงาน
ผลประโยชน์
1. เสียชีวิตทุกกรณี 1 เท่าของทุน (100,000 หรือ 200,000 บาท)
2. เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 2 เท่าของทุน
3. เสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณภัย 3 เท่าของทุน
4. สูญเสียอวัยวะ ตามสัดส่วน
ให้ความคุ้มครองพนักงานทุกคน ทันที่ที่เริ่มปฎิบัติงาน
1. พวงหรีดเคารพศพ
2. เงินร่วมทำบุญ / เจ้าภาพร่วม
พนักงาน 10,000 บาท
บิดา-มารดา 5,000 บาท
คู่สมรส 5,000 บาท
บุตร 5,000 บาท
บิดา-มารดาของคู่สมรส 2,000 บาท