Adjustment disorder
คือ ความผิดปกติในการปรับตัวต่อเหตุการณ์ภายนอก ที่ส่งผลกดดันจิตใจผู้ป่วย
เป็นความเครียดที่มากเกินกว่าปกติ ตื่นตัวมากเกินไป เกินกว่าปกติที่ควรจะเป็น
Adjustment reaction เป็น normal reaction
ความเครียด ความกังวล สับสัน เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเจอภาวะกดดัน ผิดหวัง
มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในชีวิต ถือเป็นการปรับตัวปกติ
เป็นการเตรียมพร้อมของจิตใจในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่ชอบมาพากล
สิ่งที่กำลังจะคุกคามต่อความสุขความสบาย ความมั่นคง ในชีวิตของเรา ความกลัว ความกังวล จึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ถ้าใจเย็น ไม่เตรียมพร้อมอะไรเลย อาจทำให้เราดูแลแก้ไขสถานการณ์ไม่ทัน
อาการมีได้ทั้งทางกายและทางใจ
ทางใจ กลัว วิตกกังวลตึงเครียด คิดมาก สับสน เศร้า หงุดหงิด...
ทางกาย ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ใจสั่น นอนไม่หลับ ท้องผูก ท้องเสีย ...
Adjustment disorder
อยู่ในกลุ่มโรคประสาท (neurotic, stress-related disorders)
ความผิดปกตินี้จะแสดงออกมาในด้านความวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
-ระยะเวลาที่เกิดมักภายใน 3 เดือนหลังได้รับความกดดัน
-อาการนี้เป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตผู้ป่วย ไม่ใช่เป็นการกำเริมของโรคทางจิตเวชที่เป็นอยู่ก่อน
-อาการที่พบอาจเป็น anxiety, depression, anger, aggression, fear, อาการทางกาย, regression(พฤติกรรมถดถอยเป็นกลับเป็นเด็ก), ก้าวร้าวอย่างมากไม่เหมาะสม
-และมีผลทำให้เกิดความบกพร่องในการหน้าที่การงาน สังคม กิจวัตรประจำวัน มากกว่าคนปกติอื่นๆที่ได้รับความกดดันเหมือนกัน
-อาการควรหมดไปเมื่อความกดดันหมดไป หรือผู้ป่วยสามารถปรับตัวได้
-โรคอาจเกิดกับคนกลุ่มใหญ่ได้ มีผลกดกันต่อคนจำนวนมากได้ เช่น ภัยทางธรรมชาติ
ระบาดวิทยา พบได้บ่อย
ความเสี่ยง ผู้ที่มีโรคทางกายอยู่ก่อน หรือ มีบุคลิกภาพผิดปกติอยู่ก่อนแล้วมีโอกาสเกิดง่ายกว่าผู้อื่น
ความกดดัน
-อาจเกิดจากเหตุการณ์เดียว หรือ หลายเหตุการณ์ร่วมกันได้ เช่น อย่าร้าง การเสียชีวิตคนสำคัญ มีโรคทางกาย การตกงาน เป็นต้น
-อาจเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น เจ็บป่วยเรื้อรัง ปัญหาการทำงานที่ต่อเนื่อง
-อาจเกิดจากขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงของชีวิตได้ การแต่งงาน เปลี่ยนที่อยู่ การมีลูกคนแรก การเกษียณ ไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน
-ความรุนแรงของความกดดัน ขึ้นกับระยะเวลาที่ได้รับ สิ่งแวดล้อม อายุที่ได้รับ
สาเหตุ
ความกดดันเหมือนกันแต่การปรับตัวไม่เหมือนกัน
การเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมในเด็กมีผลอย่างมากต่อความสามารถในการปรับตัวของผู้ป่วย
การวินิจฉัยเบื้องต้น
มีอาการเครียดมากจน
1.บกพร่อง หน้าที่การงาน การเรียน
2.บกพร่อง ในเรื่องความสัมพันธ์
3.บกพร่อง ในการเข้าสังคม
4.บกพร่อง ในการดูแลตัวเอง เช่น ไม่ใส่ใจตนเอง คิดทำร้ายตัวเอง จนพยายามฆ่าตัวตายได้ เป็นต้น
5.หมกมุ่น ครุ่นคิดต่อเรื่องนั้น จนไม่เป็นอันทำอะไรเลย
6.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ก้าวร้าว เกเร เป็นต้น
7.ส่งผลต่อ การกิน การนอนผิดปกติ
การวินิจฉัย
เกณฑ์ตาม DSN-IV-TR
A.มีอาการทางอารมณ์ หรือพฤติกรรม ที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์หนึ่งหรือมากกว่า
ทำให้เกิดความเครียดใน 3 เดือน หลังจากเริ่มต้นเหตุการณ์
B.อาการทางอารมณ์ หรือพฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้เกิดลักษณะ
-รู้สึกทุกข์ทรมานอย่างมากเกินกว่าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จากการเผชิญเหตุการณ์นั้นๆ
-กิจกรรมด้านสังคม หรือ การงาน/การเรียน บกพร่องลงอย่างสำคัญ
C.ความผิดปกติที่เกิดนั้นไม่ได้เข้าเกณฑ์การวินิจฉัยโรคใน AxisI อื่นๆ และไม่ใช่เป็นการกำเริบของโรคใน AxisI,II
D.ไม่ใช่อาการจากปฎิกิริยาในการสูญเสียทั่วไป
E.เมื่อเหตุการณ์(ผลตาม)สิ้นสุดลงอาการจะคงอยู่ต่อไปไม่นานกว่า 6 เดือน
Acute ความผิดปกตินานน้อยกว่า 6 เดือน หากมากกว่า เป็น Chronic
อาการทางคลินิก
มีอาการเด่นได้หลายแบบ
1.-อารมณ์ซึมเศร้า หรือรู้สิ้นหวัง : with depressed mood
2.-ความวิตกกังวลหรือ jitterinessในเด็กกลัวพลัดพราก : with anxiety
3.-ความประพฤติผิดปกติ ละเมิดสิทธิผู้อื่น ผิดกฎหรือบรรทัดฐานสังคม : with disturbance of conduct
เช่น หนีเรียน ทำลายสมบัติสาธารณะ ขับรถประมาท ชกต่อย ไม่ยอมรับผิดชอบทางกฎหมาย
4-แบบผสมอารมณ์ : with mixed anxiety and depressed mood
5-แบบผสมอารมณ์+พฤติกรรม : with mixed disturbance of emotion and conduct
Emotion ทั้ง anxiety หรือ depression
6-unspecified มีการปรับตัวไม่เหมาะสมต่อเหตุการณ์เครียดที่ไม่ได้จัดแบ่งไว้ตามข้างบน
เช่น มีอาการทางกาย แยกตัวออกจากสังคม การงานหรือการศึกษา
DDX
1.โรคจิต แบบซึมเศร้า
2.โรคประสาท แบบวิตกกังวล หรือ แบบซึมเศร้า
3.บุคลิกภาพแปรปรวน
การรักษา
จิตบำบัดดีสุด เนื่องจากผู้ป่วยพยายามที่จะปรับตนเองอยู่แล้ว อาจทำรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
1-หาสาเหตุที่แท้จริง ตั้งสติ ค่อยๆมองปัญหาทีละส่วน ค่อยๆดูปมที่พันเป็นก้อน ค่อยๆคลี่แล้วแก้ทีละปม
2-ทำความเข้าใจปัญหานั้น จะช่วยให้แก้ได้ดีขึ้น
3-หาคนที่เรารัก รับฟัง การระบายปัญหา หนักอกหนักใจจะช่วยลดความกดดัน
การระบายจะทำให้จิดใจโล่งโปร่งสบาย ช่วยให้มองเห็นทางออกของปัญหาได้ดีขึ้น
4-ไตร่ตร่อง มองดูปัญหา
*เขียนปัญหาทั้งหมดลงในกระดาษ เพื่อให้ความคิดที่วกวน สะเปะสะปะ ยุ่งเหยิง
อยู่ในรูปแบบที่เป็นระบบ และชัดเจนมากขึ้น
*ปัญหาไหนแก้ไขได้ หาทางออกให้เต็มที่ เขียนทุกทางออกให้มากที่สุด
*ปัญหาไหนแก้ไม่ได้จริงๆ ฝึกใจ ให้ยอมรับมัน อย่างที่มันเป็น
การยอมรับจะช่วยให้ใจสงบมากกว่าการไม่ยอมรับ
จิตใจที่มีคุณภาพดี มีประสิทธิภาพสูง จะหาทางออกของปัญหาได้ดียิ่งขึ้น
คนรอบข้าง ควรรับฟังอย่างเข้าใจ ให้คำแนะนำที่เหมาะสม และให้กำลังใจ
ยาที่ใช้
1.กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า เช่น sertraline
2.กลุ่มยาลดวิตกกังวล เช่น alprazolam, clonazepam
Ref.
http://med.swu.ac.th/psychiatry/images/stories/Education/Adjustment.pdf
http://www.sso.go.th/sites/default/files/WYSIWYG%20Web%20Builder/sso.html/Chapter_18_695.html
http://www.manager.co.th/GoodHealth/ViewNews.aspx?NewsID=9590000089053