แก๊งส์ 3 นิ้ว ทำร้ายชาติ
คลั่งความรุนแรง, ถูกล่อให้มั่วเซีกส์ ,จอมโกหก หลอกลวง, ถูกปั่นหัวได้ง่าย, ขาดตรรกะทางความคิด, ชังชาติ, ขายชาติเพื่อเงิน
คลั่งความรุนแรง, ถูกล่อให้มั่วเซีกส์ ,จอมโกหก หลอกลวง, ถูกปั่นหัวได้ง่าย, ขาดตรรกะทางความคิด, ชังชาติ, ขายชาติเพื่อเงิน
สาเหตุที่ ปิยะบุตร โกรธแค้น รัฐประหารที่ล้มอำนาจทักษิณ
“ปิยะบุตร” เคยเป็น
-ล็อบบี้ยิสท์ ที่ทักษิณ จ้างมาจัดงานคนเสื้อแดงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
-รับ “เงินทุนสนับสนุนและการสนับสนุนทางการเมือง” จาก“อเมริกา อังกฤษ อียู” ขององค์กรทางตะวันตก เช่น มูลนิธิ Open Society Foundation ( OSF) ที่มี “จอร์จ โซรอส เป็นประธานใหญ่ โดยตั้งเป้า เพื่อหนุนพรรคอนาคตใหม่ เอาทักษิณ คืนอำนาจ ในปี 2519 โดย“ปิยะบุตร” เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่
-ในยุค"ยิ่งลักษณ์" นิติราษฏร์ของปิยะบุตร ถึงกับเปลี่ยนชื่อเป็น"สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย" เพื่อต่อสู้ ปกป้อง ยิ่งลักษณ์ จากกรณี โกงจำนำข้าว แและใช้อำนาจอันมิชอบ ในการแต่งตั้งพี่เขยของตนเองเป็น ผบ.ตำรวจ โดยการเขี่ย นายถวิล เปลี่ยนสี ออกจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรม
-ในยุค ทักษิณ ...กลุ่ม นิติราษฏร์ ยังให้การเป็นคุณแก่ กรณีทักษิณที่ยังถือหุ้นชิน และทำการรับสัมปทานจากรัฐ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างต่อเนื่อง...อันเป็นการใช้อำนาจรัฐเอื้อผลประโยชน์แห่งตน...ทั้งนี้ ลูกชายทักษิณกล่าวว่า นิติราษฏร์ ได้ หุ้นชิน จึงเดือดร้อนเพราะฝ่ายตนเสียผลประโยชน์
ผลงาน เยาวชน ที่ถูกปั่นด้วยข้อมูลเท็จและตรรกะวิบัติ... จึงเกิดอาการหลงไหล ปลื้ม แก๊งส์ล้มเจ้า และเกิดอาการชิงชังชาติ ศาสน์ กษัตริย์
คณะราษฏร์ (กลุ่มปลดแอก/3นิ้ว/3กีบ)คือกลุ่มคนหรือเยาวชน ที่ถูกปลุกระดมด้วยขัอมูลเท็จหรือ ข้อมูลบิดเบือน จากนักการเมืองชั่ว ผู้เสียผลประโยชน์ และคนที่รับเงินจากต่างชาติ.... จนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ออกอาละวาดไปทั่วประเทศหวังล้มรัฐบาลและล้มสถาบัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะวันๆ เอาแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ....ฟังแต่ข่าวเท็จ ข่าวบิดเบือน ที่ทีมงานเผด็จการทางโซเชียลของคนชั่วส่งเจาะจงมาให้อ่าน....จนเด็กเหล่านี้ เกิดการซึมทราบเข้าไปในสมอง เมื่อฟังเขาด่าสถาบัน ด่ารัฐบาล....ฟังซ้ำไปซ้ำมา......จนเด็กเหล่านี้เชื่อตาม หลงไหลไปตามข่าวเท็จ ข่าวบิดเบือน อย่างสนิทใจ ด้วยความอ่อนประสบการณ์
เพราะไร้วุฒิภาวะ ขาดตรรกะทางความคิด ขาดความรู้ทางประวัติศาสตร์ ขาดการเรียนรู้เรื่องหน้าที่พลเมือง และศีลธรรม
โดยเฉพาะเมื่อมีทีมงานรุ่นพี่ ในนามแกนนำสหาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศ ฯลฯ และนักการเมืองชั่ว
บุกเข้าประชิดตัวถึงในสถานที่ศึกษา....ทำการยัดเยียดความคิด ปลูกฝังความเกลียดชัง ปลุกปั่นด้วยข้อมูลเท็จ จนคลุ้มคลั่ง.....จนฮึกเฮิม เพราะคิดว่ามีพวกมาก... จากการเห็นตัวเลขกดแชร์ กดlike จำนวนมหาศาล (ที่มาจากต่างประเทศกว่า 90%)......จึงรวมพวกมาด้วยความคึกตะนอง เพราะมั่นใจในข้อมูลที่ตนเองได้รับมา กล้าทำสิ่งใดๆ ตามสัญชาติญาณดิบของตนเอง....อีกทั้งมีพรรคฝ่ายค้านบางพรรค คอยให้การสนับสนุน คอยปั่นข้อมูลเท็จมาเสริม และสร้างสถานการณ์ให้ร้ายรัฐบาล เพื่อเติมไฟให้ลุกโชน.....นอกจากนั้น การมารวมกลุ่ม ยังเป็นการเจอะเจอหาผัวหาเมียแบบ free sex ด้วยความร่านสำหรับกลุ่มร่านพันธ์แท้ ที่ต้องการโชว์ตัวตน
แก๊งล้มเจ้า ใส่ร้ายพระพันปีหลวง
แก๊งล้มเจ้า ใส่ร้ายพระพันปีหลวง
ความจริงเรื่องเพขรซาอุ
·
แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง
.
ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้
.
แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย
.
---------------
ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก"
---------------
.
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป...
.
ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ
.
ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ
.
อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี)
.
เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย
.
เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้...
.
------------------------
กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง
------------------------
.
อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551
.
ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ
.
ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล
.
ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่
.
หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664
.
แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน
.
ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค
.
ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง
.
และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี
.
ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด
---------------------------------
รุ้งพูด ในวันที่ 10 สค 2563 เพราะ การก่อการปฏิวัติโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือฉีกรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1791 เกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม
ธนาธร และ ปิยะบุตร ปลุกระดมเยาวชนไทยให้ออกมาสร้างความวุ่นวาย ป่วนประเทศ ต่อต้าน กฏ ระเบียบ วินัย
·
จากกรณีที่ นายสิริชัย นาถึง หรือ ‘นิว’ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคโดมปฏิวัติ ลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคโดมปฏิวัติ และลาออกจากสมาชิกสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมกับยุติบทบาทในกลุ่ม ‘แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม’ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 หลังถูกเปิดโปงว่า มีพฤติกรรมล่อลวงหญิงสาวให้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
.
ล่าสุดวันนี้ ก็มีการเปิดโปงเพิ่มเติมอีกว่า ในกลุ่ม ‘ทะลุวัง’ ม็อบในเครือข่ายพันธมิตรที่ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ มีสมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งคือ นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ ‘สายน้ำ’ ที่เคยกระทำการล่วงละเมิดทางเพศในรูปแบบคล้าย ๆ กัน ในแฮชแท็ก #แฉสายน้ําทะลุวังถอดถุง ซึ่งสมาชิกแนวร่วม “ฝ่ายประชาธิปไตย” คนนี้ อาจล่วงละเมิดทางเพศมากถึง 5 รายเลยเดียว ซึ่งลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น มีดังนี้
.....
1. นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ ได้โพสต์ข้อความในบัญชีเฟซบุ๊ก Noppasin Treelayapewat เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 01:31 น. โดยยอมรับว่า ตนเองได้ล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวที่ไม่ยินยอม พร้อมกับขอโทษกับสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป และจะแก้ไขปรับปรุงตัวเองในเรื่องเพศ แต่อย่างไรก็ตาม นายนภสินธุ์ก็ยืนยันว่า จะยังคงเดินหน้าเรื่องการเคลื่อนไหวต่อไป
.
2. มีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @karspeltginh13 ทวีตข้อความเมื่อเวลา 3:56 น. ระบุว่าตนเอง ถูก ‘สายน้ำ’ บังคับให้มีเพศสัมพันธ์โดยที่ตนเองไม่ยินยอม ภายหลังตนเองก็เกิดอาการวิตกกังวลอย่างรุนแรง และร้องไห้ทุกวัน อันเป็นผลกระทบจากการถูกนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ บังคับให้มีเพศสัมพันธ์
.
3. ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Alicedance__ เป็นรายที่ 2 ที่ระบุว่าตนเองเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทวีตข้อความเมื่อเวลา 04:14 น. โดยเป็นข้อความที่เปิดโปงว่า ตนเองเคยเป็นแฟนเก่าของ ‘สายน้ำ’ ซึ่งตนเองเคยถูกล่อลวงโน้มน้าวและบังคับให้มีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง อีกทั้งยังสร้างเงื่อนไขเพื่อบังคับตนเองให้มีเพศสัมพันธ์กับ ‘สายน้ำ’ โดยไม่ใส่ถุงยาง และยังใช้ถ้อยคำด้อยค่าร่างกายของเธออีกด้วย พร้อมกับระบุว่า “คนที่โดนกดขี่คุกคามเขารู้สึกไม่ปลอดภัยแค่ไหนที่ต้องมาร่วมม็อบที่มี abuser เดินเพ่นพ่านอยู่ในม็อบโดยยังไม่ได้เรียนรู้ รับผิดชอบผลการกระทำของตัวเอง”
.
ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Alicedance__ ยังได้เรียกร้องไปยังนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ ให้ยุติบทบาทการเคลื่อนไหวในกลุ่ม ‘ทะลุวัง’ และหยุดเคลื่อนไหวทำกิจกรรมทุกอย่างในขบวนการประชาธิปไตย เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยในม็อบ แม้ว่านายนภสินธุ์ จะยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่อไปก็ตาม
.
4. ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @sailorsaturnnn_ เป็นรายที่ 3 ที่ระบุว่าตนเองเป็นเหยื่อถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทวีตข้อความเมื่อเวลา 11:32 น. เปิดเผยว่า ตนเองก็เป็นอดีตแฟนสาวของ ‘สายน้ำ’ อีกคนหนึ่ง ที่ถูกฝ่ายชายกดขี่ข่มเหงเรื่องเพศ ทั้งทางกาย วาจา และใจ
.
5. ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Alicedance__ ยังได้ทวีตข้อความอีกครั้งเมื่อเวลา 15:30 น. โดยเปิดเผยว่า ยังมีเหยื่อรายที่ 4 ซึ่งถูก ‘สายน้ำ’ คุกคามทางเพศ ผ่านการคุยโทรศัพท์ ด้วยคำพูดโน้มน้าวเรื่องเพศ แล้วก็ตามมาด้วยคำพูดดูถูก กดขี่ และข่มเหง ที่เป็นการด้อยค่าศักดิ์ศรีความเป็นสตรีอย่างรุนแรง
.
6. ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ @Alicedance__ ยังได้ทวีตข้อความ พร้อมกับรูปภาพ อีกครั้งเมื่อเวลา 17:13 น. โดยระบุว่า “เหยื่อรายที่ 5 ออกมาแฉเพิ่ม พฤติกรรมแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง เหยื่อปฏิเสธก็โน้มน้าวให้มี sex ให้ออกเงินก่อนแต่ไม่เคยคืน พูดจาทำร้ายจิตใจ body shaming ตีตราด้อยค่าร่างกายผู้หญิง”
.
7. มีงานข่าวในอดีตระบุว่า นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ เป็นลูกชายของ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และยังพบอีกว่า วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 ‘สายน้ำ’ เคยก่อเหตุร่วมกับนางสาววิชญาพร ตุงคะเสน (แฟนสาว) พ่นสีสเปรย์บนพระบรมพระบรมพระฉายลักษณ์ ข้อความว่า “คxx” จากนั้น พ่นสีสเปรย์เพื่อจุดไฟ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
.
8. ยังมีรายงานข่าวที่ระบุว่า ‘สายน้ำ’ นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ พร้อมพวกรวม 3 คน ชูป้ายข้อความยกเลิก 112 และชูสัญลักษณ์ 3 นิ้ว บริเวณห้างสรรพสินค้าแพทฟอร์ม วงเวียนใหญ่ ใกล้เคียงบริเวณที่ในหลวง-พระราชินี เสด็จทรงวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 แล้วกลุ่มของ ‘สายน้ำ’ ก็ยังทำกิจกรรมป่วนงานวันพ่อแห่งชาติที่บริเวณลานห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม และวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ก็ไปเคลื่อนไหวถือป้ายป่วนที่หน้าห้างไอคอนสยาม
.
9. มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมายในสื่อโซเชียลมีเดีย ว่าการล่วงละเมิดสิทธิสตรีเช่นนี้ ในหมู่นักกิจกรรม “ฝ่ายประชาธิปไตย” ไม่ได้พึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว โดยมีการแชร์ข้อมูลทั้งนักเคลื่อนไหว สื่อมวลชน และนักคิดเขียนจำนวนไม่น้อย ที่เคยกระทำการข่มขืนผู้หญิง และเคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดสิทธิสตรีอย่างชัดเจน แต่กลับไม่มีรายงานว่า กลุ่มคนในเครือข่ายเหล่านี้ ที่ล่วงละเมิดสิทธิสตรี ถูกดำเนินคดีหรือไม่
-------------------------------
แหล่งข่าว
-https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000013270
-https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3858380931053588&id=100006451563687
-https://twitter.com/karspeltgi.../status/1492966033044688897
-https://twitter.com/Alicedance__/status/1492970546056753154
-https://twitter.com/sailorsatu.../status/1493080588924092417
-https://twitter.com/Alicedance__/status/1493140663751241728
-https://twitter.com/Alicedance__/status/1493166447450861572
-https://truthforyou.co/81073/
-https://mgronline.com/politics/detail/9640000129023
-https://truthforyou.co/57799/
-https://www.thaipost.net/main/detail/110946
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision ดูน้อยลง
3 กีบรับไม่ได้ “ดร.กิตติธัช” โพสต์หลักฐานการข่มขู่คุกคามสถาบัน สาวกรุมรีพอร์ตเฟซบุ๊กทันที จน “มาร์ก” ต้องปิดกั้น สะท้อนหลักฐานมัดตัวเองว่าไม่ใช่ปฏิรูปแต่ข่มขู่ ล้มล้าง
11 พ.ย.2564 - ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้าน ปรัชญาการเมืองโพสต์เนื้อหาบนเฟซบุ๊กหลังโพสต์ก่อนหน้านี้ถูกเฟซบุ๊กปิดกั้นว่า โพสต์ที่ลงหลักฐานการคุกคามข่มขู่สถาบัน รวมถึงคำประกาศจะล้มสถาบันฯ และความต้องการเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐของม็อบราษฎร โดนรุม Report ว่าเป็นโพสต์ที่มีภาพและถ่อยคำที่นำเสนอ "ความรุนแรงและการคุกคาม" และถูกบังคับให้ระงับการเผยแพร่ ซึ่งก็ไม่แปลกใจเลยว่า เพราะเมื่อมีใครที่ลงหลักฐานข้อเท็จจริง พวกเขาก็จะพยายามปิดปาก และไม่ต้องให้สังคมไทยได้เห็นหลักฐานว่ากลุ่มราษฎรทำอะไรไว้บ้าง (และเลือกนำเสนอเฉพาะมุมที่ตัวเองต้องการ)
แต่อีกด้าน ก็เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า แม้แต่ Facebook เองยังเห็นว่าภาพที่แสดงการกระทำและคำพูดของกลุ่มราษฎรต่อสถาบันกษัตริย์นั้น เข้าข่าย "ความรุนแรงและการคุกคาม" จริงๆ
#ปฏิรูปไม่เท่ากับล้มล้าง ถูกต้องครับ และประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ที่จะคิดว่า "ปฏิรูป = ล้มล้าง" เหมือนที่พวกคุณพยายามยัดเยียดให้ แต่เพราะที่ผ่านมาการกระทำของกลุ่มราษฎร ไม่เคยสื่อถึงการปฏิรูป แต่เป็นการข่มขู่ คุกคาม ล้มล้าง และประกาศความต้องการเป็นสาธารณรัฐทั้งสิ้น ดังนั้นอย่าบิดเบือนประเด็นเลยครับ เพราะการกระทำมันเป็นตัวสะท้อนเจตนาทั้งหมด ว่าที่ผ่านมาม็อบราษฎรไม่ได้คิดปฏิรูปจริงๆ ตามที่อ้างเวลาออกสื่อเลย เลิกโกหกตัวเอง และโกหกสังคมได้แล้วครับ
หมายเหตุ : หลักการเบื้องต้นของประชาธิปไตย คือ การให้ข้อเท็จจริงแก่สังคม เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นใครที่โกหก บิดเบือน และไม่พูดความจริง ไม่สมควรจะอ้างประชาธิปไตย #ล้มล้างไม่เท่ากับปฏิรูป #หลักฐานเชิงประจักษ์มันเห็นอยู่
ผลงานของ คณะราษฏร์ หรือ กลุ่มปลดแอก ที่ด่าทอ ให้ร้ายอาฆาตมาดร้าย สถาบันอย่างหยาบช้า รุนแรง
นอกจากนั้น ยังก่อคดีประทุษร้ายพระราชินีและองค์ทีอีกด้วย
ปิยะบุตร ประกาศทำสงครามปฏิวัติ ให้ 3 กีบ ก่อการประท้วง ก่อจลาจล 10 ส.ค. 64
แกงส์ล้มเจ้า นำโดย ปิยะบุตร ประกาศ ทำสงครามปฏิวัติ...ทั้งนี้เพราะ๑๐ สิงหา.๑๗๙๒ (พ.ศ.๒๓๓๕) พรรคสามนิ้วแดงปารีส ยกกำลังบุกจับ "เจ้าหลุยส์ ที่ ๑๖" ไปขัง รอการพิพากษาโทษ! ....ปิยะบุตร แน่วแน่ในการกำจัดสถาบันโดยมีสหรัฐหนุนหลัง สร้าง
กลียุค เอาเด็กบังหน้า ก่อสงครามปฏิวัติประชาชน นำโดยแก๊งส์ล้มเจ้า 3 สัส ทำการปลุกระดมสร้างแนวร่วม ปิยะบุตร ประกาศตั้งคณะกรรมการปฏิรูปสถาบัน โดยธนาธรจะจัดกระบวนการจักรยานยนตร์ไปทั่วประเทศเพื่อปลุกระดมทุกบ้าน.... วันนี้คนไทยที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ต้องออกมาแสดงพลังต่อต้านให้ประจักษ์ เพราะสื่อหลักส่วนใหญ่นิ่งเฉย
หลังจาก ออกอาละวาด ทำลายข้าวของ ปาปะทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง ยิงปืนกระสุนจริง ยิงหนังสติ๊กและลูกไฟ ใส่ตำรวจ ...ก็เปลี่ยนชื่อจากม๊อบทะลุฟ้า เป็นม๊อบทะลุแก๊ส...ที่ออกละวาดทุกวัน...โดยมีฝ่ายค้าน และพรรคก้าวไกลคอยหนุนหลัง ประกันตัว และใส่ร้ายตำรวจ
จากแหล่งข่าวพบว่า มีหัวคะแนนพรรคการเมืองหนึ่ง ไปจ้างเด็กแว้นท์จาก 4 เขตปริมณฑล มาร่วมก่อเหตุอาละวาด ทำลาย ข้าวของและทำร้ายตำรวจก่อน พอตำรวจโต้ตอบ ด้วยแก๊สน้ำตาแและกระสุนยาง ...ก็จะมีพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ออกอากาศใส่ร้ายว่า ตำรวจทำร้ายเด็กมือเปล่า ...เพื่อสร้างาพบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาล โดยหวังให้ต่างชาติ เช่นสหรัฐเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทย เพื่อเปลี่ยนระบอบการปกครอง
ความเสียหายที่ม๊อบ 3 กีบ ได้ทำ ระหว่าง7-20 สค 64 โดยตำรวจ ถูกยิง บาดเจ็บหลายร้อยนาย
ธนาธรและแก๊งส์ ทำการบิดเบือนความจริง หลอกลวงชาวโลก ว่าตำรวจทำร้ายผู้ประท้วง ทั้งที่ความจริงคือผู้ประท้วงรุมทำร้าย ตำรวจ
เมื่อวัยรุ่นได้รับค่าจ้างและยัง ถูกป้อนด้วยข้อมูลเท็จจนคลุ้มคลั่ง....จากนักการเมืองที่ไม่หวังดีต่อแผ่นดิน และสหรัฐ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย....ด้วยความอ่อนด้อยต่อ สังคม เสพข่าวด้านเดียว ไม่เคยเรียนรู้ประสบการณ์ จากคนรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย. ทั้งประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรมไม่เคยเรียน....ถูกสร้างทัศนคติให้ล้มสถาบันอาวุธทางวัฒนธรรม ถูกใช้ในการล่าอาณานิคม....เนื่องจาก สหรัฐประสบความสำเร็จในการสร้างความล่มสลายแก่ประเทศต่างๆ เพื่อเข้าครอบงำและกอบโกยทรัพยากรของประเทศนั้นๆ โดยทำลายความเป็นหนึ่ง มีความเป็นเอกภาพ ของประเทศเหล่านั้น
ไทยมีศูนย์รวมจิตใจคือ สถาบัน กษัตริย์ มีความเป็น ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ....ดังนั้นจึงมีการปลุกลัทธิชังชาติ ศาสน์ กษัตริย์....ในหมู่คนบางจำพวก อย่างต่อเนื่อง เพื่อล้างสมอง ด้วยข้อมูลเท็จบ้าง ด้วยการครอบงำด้วยวัฒนธรรมต่างชาติบ้าง
ด้วยค่านิยมผิดๆ เช่นศักดินารังแก ปชช หรือ ไม่เป็นประชาธิปไตย
ยุให้ ต่อต้านกฏระเบียบ กฏเกณฑ์ กฏหมาย โดยคิดว่าความต้องการของตนเอง คือ ประชาธิปไตยเป็นต้น
มีการปลุกตรรกะทางความคิด เพื่อบิดเบือนการรับรู้บ้าง อย่างต่อเนื่อง....อันเป็นการทำสงครามไซเบอร์ ด้วย IO ขนาดใหญ่ที่ทำเพื่อการนี้เฉพาะ....มีการร่วมมือกันในระดับสถานศึกษา ด้วยครู-อาจารย์ 3 นิ้ว....เพื่อหวังเป็นโครงสร้างประเทศ ด้วยการหลอกใช้เยาวชนมาเป็นเครื่องมือ....หลอกใช้ ความป่วนจากฮอร์โมน, การต่อต้านอันเป็นธรรมชาติ ของคนเหล่านี้...จนกลายมาเป็นปัญหา ที่ป่วนประเทศอย่างรุนแรงในขณะนี้
658/2021 ประเทศชาติไม่อาจเปลี่ยนโดยเกรียนทราม
มองเห็นไหม ผู้ใหญ่โฉด โคตรกระสัน หมั่นปลุกปั่น เด็กมีปม ให้ถ่มถุย
พูดให้ท้าย เด็กพันธ์ุซ่า ให้มาลุย ปลุกให้กุ๊ย เปลี่ยนประเทศ ก่อเหตุแรง
เชิดนางงาม ปากตะไกร ใจกักขฬะ เยินยอพระ เมากัญชา ผู้หาแสง
ชูนักข่าว ด่าสลิ่ม ผู้ทิ่มแทง เชียร์ป้าแดง ผู้เปิดหวี ทุกวี่วัน
เพื่อสนอง ความระยำ ความกำหนัด คิดโค่นตัด กษัตริย์ไทย ตามใจฝัน
ชวนคนบ้า ใต้กะลา "ฟ้าเดียวกัน" ตามห้ำหั่น เชือดเฉือน เพื่อนคนไทย
ที่มีความ รักชาติ ศาสน์กษัตริย์ ให้ข้องขัด และอ่อนล้า เมื่อปราศรัย
สนทนา ไม่ทันจบ ต้องหลบไป เพราะโดนทัวร์ สันดานไพร่ ใฝ่คุกคาม
คิดใช้กุ๊ย และทุยเกรียน เปลี่ยนประเทศ อ้างเบิกเนตร เบิกหู ชูนิ้วสาม
ปั้นข่าวเท็จ กลบข่าวจริง ทำสิ่งทราม ชูคนห่าม แต่หยามก่น บ่นคนดี
ผู้สัญจร ไปมา เริ่มว่าขาน พวกคนพาล ที่บ้าคลั่ง พังภาษี
เบื่อพวกชุ่ย และพวกกุ๊ย ที่ลุยตี ประเทศนี้ ไม่อาจเปลี่ยน โดยเกรียนทราม
พี่คนดี
9/9/2564
ดาราที่เชียร์ การกระทำของ แก๊งส์ 3 นิ้ว
เนติวิทย์ มีพฤติกรรมเข้าตาต่างชาติ จึงได้รับเลือกเป็นกรรมการแอมเนสตี้
มีผู้ปกครองของนิสิต จุฬาหลายคน บ่นให้ฟังว่า ลูกที่เป็นนิสิตจุฬา ไม่เชื่อใน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อีกต่อไปแล้ว....ดังนั้นเมื่อปรากฏข่าวว่า นิสิตจุฬา เทคะแนนถล่มทะลายเลือกเนติวิทย์ เป็นนายกสโมสรนิสิต จุฬา แบบนี้แล้ว จึงเชื่อได้ว่านิสิตเหล่านี้ยังเป็นคลื่นใต้น้ำขนาดใหญ่แน่นอน... อีกทั้งยังมีอาจารย์จุฬาหลายคน รวมตัวกัน ต่อต้านการตรวจสอบตำราที่เขียนโดย นายณัฐพล ใจจริง ที่ทำวิทยานิพนธ์ โดยใช้ข้อมูลเท็จใส่ร้ายสถาบัน และหนังสือพิมท์ฟ้าเดียวกันของ ธนาธร ได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลเท็จนี้ นานกว่าสิบปีอีกด้วย.....ทั้งนี้ นายเนติวิทย์ เป็นผู้ที่แสดงอาการชังชาติมานานตั้งแต่เป็นเด็กมัธยม จนกระทั่งได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์จุฬาเสื้อแดงและแก๊งส์ล้มเจ้า มาโดยตลอด....อาการชังชาติของเนติวิทย์ ได้เข้าตา องค์กร แอมเนสตี้ ที่สนับสนุนโดยจอร์จ โซรอส จนได้รับตำแหน่งกรรมการบอร์ดของแอมเนสตี้ ...โดยองค์กรนี้ ออกมาปกป้อง การกระทำของ 3 กีบมาโดยตลอด.....ปัญหานี้ เป็นการทำลายความมั่นคง ต่อประเทศไทย ยาวนานแน่
เนรคุณพระเกี้ยว : Sondhitalk EP109 VDO
เปิดกะลา “เนติวิทย์” และผองเพื่อน
กรณีจงใจป่วนพระเกี้ยวจุฬาฯ
หวังด้อยค่าสถาบัน
.
ติดตามคลิป VDO เพิ่มเติมได้ที่
YoutubeSondhitalk: https://www.youtube.com/c/Sondhitalk
Website: https://www.sondhitalk.com
Podcast Sondhitalk: https://sondhitalk.podbean.com/
เปิดความจริงที่ดินจุฬาฯ : Sondhitalk EP109 VDO
ที่ดิน “จุฬาฯ” มาจากไหน?
เหตุใดประวัติศาสตร์ถูกบิดเบือน
อ้าง “จุฬาฯ” เกิดได้เพราะคณะราษฎร?
.
ติดตามคลิป VDO เพิ่มเติมได้ที่
YoutubeSondhitalk: https://www.youtube.com/c/Sondhitalk
Website: https://www.sondhitalk.com
Podcast Sondhitalk: https://sondhitalk.podbean.com/
เครือข่าย พวกที่รับเงินจากต่างชาติ มาป่วนไทย
หลังจาก รุ้งแสดงอาการอาฆาดมาดร้าย ประกาศ ปฏิิวัติ ล้มล้างสถาบัน วันที่ 10 สค 63 ...บีบีซียกย่อง “รุ้ง ปนัสยา” ขึ้นแท่นเป็นผู้หญิงผู้เป็นแรงบันดาลใจ ในวันที่ 24 พ.ย. 2563 และนัสิทธิมนุษยชน ของสหรัฐ ยกย่องรุ้ง เป็นฮีโร่สามัญชน วันที่ 8 กย 2564
หลังศาลต้ดสินว่า การกระทำจอง 3 กีบ คือการล้มล้างการปกครอง ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษย์ชนที่สนับสนุนโดยสหรัฐและชาติตะวันตก ได้มารวมตัวปรึกษาหารือ เพื่อช่วยเหลือ แก๊งส์ล้มการปกครองไทย มีรายชื่อดังนี้: สวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์
1)ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษย์ชน สนับสนุนโดยสหรัฐ
2)Henry Rector แห่งสหรัฐ (ที่อยู่เบื้องหลังการประท้วงในไทย ติดต่อกับแกนนำ3กีบและชลธิชา แจ้งเร็ว)
3)Daniel Fieller จากอังกฤษ
4)Kasper Rasmussen จาก European Union
5)Alexander Nowak จากเยอรมัน
6)Christophe Carlucci จากฝรั่งเศส
7)Kenza Tarqaat จากเนเธอร์แลนด์
8)Idesbald Van Der Gracht จากเบลเยี่ยม
แอมเนสตี้ องค์กร ปกป้อง 3 กีบ ในการล้มล้างการปกครองไทย
พรรคเพื่อไทยหนุนแก้ ม.112 พร้อมออกมาปกป้อง แอมเนสตี้ ที่พยายามล้มสถาบัน
ศาล รธน ชี้ชัด กระบวนการ ของ 3 กีบ ในการปราศรับ 10ข้อเสนอเพื่อล้มล้างการปกครองไทย ร่วมกับ การประท้วง ข่มขู่ ด่าทอ และปั่นกระแส ใส่ร้ายสถาบัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คือ "การล้มล้างการปกครอง"(10 ตค 2564)
ปากบอก "ปฏิรูป" แต่พฤติกรรม "ปฏิวัติ"
เงินหลายร้อยล้าน จ้าง 3 กีบ ล้มล้างการปกครองไทย
รุ้ง ไมค์ และอานนท์ เป็นขบถ โทษสูงสุดคือประหารชีวิต
คำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร
หลักฐานสำคัญในคดีนี้ คือ เอกสารการรับเงินจากต่างชาติแล้วนำมาใช้ในการจัดประชุมล้มเจ้า การโอนเข้าบัญชีแกนนำ บรรดาเส้นทางการเงินถูกนำออกมาเปิดเผย
"รุ้ง... เธอจะรับหรือไม่รับคำพิพากษาเป็นเรื่องของเธอ แต่... เมื่อคำพิพากษาออกมาเช่นนี้ เธอจะต้องถูกผลของคำพิพากษาคดีอาญาในอนาคต
เธอต้องรับผลกรรมที่เธอก่อ
ฉันสงสัยอยู่นาน ใครยื่นกระดาษที่มีข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ที่เหล่าอาจารย์ธรรมศาสตร์ที่แสนขี้ขลาดหลายคนคิดออกมา โดยเชื่อว่ามันเป็นการทำตามรัฐธรรมนูญ แต่ที่สุดเมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาตัดสินว่า มันเป็นการใช้สิทธิเกินส่วนกว่าที่กฎหมายรัฐธรรมนูญให้สิทธิไว้ พวกเธอรวมถึงเหล่าอาจารย์จึงกลายเป็น
"ขบถ"
และในเบื้องหลังเขาทราบแล้วว่าใครเป็นคนยื่นกระดาษให้เธอ และอาจารย์คนที่ยื่นมีอิทธิพลแบบที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ แม้ถึงว่าที่สุดเธอจะติดคุกก็ตาม โดยที่วินาทีนั้นรุ้งไม่ได้นึกถึงโทษ
"ประหารชีวิต"
จึงสงสัยว่า ถ้าเธอรู้ว่ามันจะกลายเป็นขบถ เธอยังคงจะอ่านหรือไม่หลังสูบบุหรี่มวนสุดท้ายก่อนขี้นเวที
ฟังชื่ออาจารย์คนที่ยื่นเอกสารใส่มือเธอ ครั้งแรกฉันในฐานะศิษย์เก่าฉันแทบไม่เชื่อเลย เพราะเบื้องหน้าเขาดูเป็นคนมีคุณธรรม แต่เบื้องหลัง...อาโจร
รายชื่ออาจารย์หลายคนปัจจุบันอยู่ในมือตำรวจ อัยการ และศาล เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระบวนการยุติธรรม จะต้องดำเนินคดีขบถในฐานะตัวการ หรือผู้สนับสนุน มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมจะถูกดำเนินคดีเสียเองฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ม.157 ที่สุดฉันต้องยอมรับว่ามันคือความจริง พวกอาจารย์เหล่านั้น เป็นอาโจร...
ซึ่งกระบวนการยุติธรรม เขาคงไม่โง่ทำแบบกวาดล้างครั้งใหญ่ แต่คงใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป ค่อยเก็บค่อยกวาด อายุความคดีนี้ 20 ปี จับปีละ 10-20 คน ร้อยกว่าคน ก็แค่ 5-7 ปี เพื่อลดการต่อต้าน
พวกอีแอบ เอาใจช่วย ยก 3 กีบ พวกนี้รอดตัวครับ แต่ต้องรู้แก่ใจว่า
พวกคุณคือ ขบถ บนผืนแผ่นดินไทย
มันจะเป็นตราบาปที่อยู่ในใจเธอและเขาเหล่านั้นจนวันตายว่า
ครั้งหนึ่ง เขาและเธอทรยศแผ่นดินแม่
ดารา นักร้อง นักแสดง 3 กีบ เชียร์ สนับสนุนพวก 3 กีบ พวกมันเป็น
แนวร่วมขบถ... บนผืนแผ่นดินไทย
เช่นกันมันจะเป็นตราบาปไปจนวันตาย คนอื่นอาจลืม
แต่กูไม่ลืม ไอ้อีคนพวกนี้ "
เสกสรรค์ สุทธิภาค
เส้นทางการอมเงิน ในแก๊งส์ 3 กีบ
จากจุดเริ่มต้นสู่จุดจบ ในคดี"ล้มล้างการปกครองไทย"
อาจารย์์ 3 กีบรับเงินต่างชาติ ทำการเข้าหา สนิทสนม กับลูกศิษย์์ เอาข้อมูลเท็จมาล้างสมองเด็ก ปั่นเด็กให้เกลียดชัง สถาบัน หลอกให้เด็กอยู่ในโลกที่ล้อมรอบด้วยข้อมูลเท็จ และว่าจ้างให้เด็กรับงานต่อ เกิดเป็น ปรากฏการณ์"สามกีบ สร้างความวุ่นวายต่อแผ่นดิน"
สมศักดิ์ เจียม ยุคนอื่นให้ไม่ไปรับปริญญา แต่ตนเองกลับไปรับ และยังได้ทุนเล่าเรียนหลวง ด้วย ส่วนคนที่ต่อต้านการรับปริญญามี2 คน โดยคนหนึ่งไม่ใช่นักศึกษาที่ ม เชียงใหม่ ส่วนอีกคนเป็นเด็กอาจารย์ทัศนัย ที่มีหลักฐานชี้ชัดว่า รับเงินจากต่างชาติมาทำลายสถาบัน โดยเด็กที่ได้รับการปลุกปั้นคนนี้ ยังเรียนไม่จบ และมีปัญหาทางการเรียน
พิม พิมพ์ชนก ( พิมชนก ใจหงษ์ )แกนนำ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่เคย มีข่าวว่าโดนแกนนำด้วยกัน ล่วงละเมิดทางเพศนินา
ไม่ใช่ นักศึกษา ม.เชียงใหม่ แต่ดันไปเรียกร้องให้ นศ.ไม่รับปริญญา
ของปลอมก็คือของปลอม
เปิดรายชื่อ 120 อาจารย์ หนุนปฏิรูปสถาบัน ส่อโดนอาญา-วินัย
.
เผยแพร่ : 11/11/2021 15:22
.
มีรายชื่อ คณาจารย์ รวม 120 คน ดังต่อไปนี้
.
1. ผศ.ดร. กนิษฐ์ ศิริจันทร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. ผศ.ดร. กรพนัช ตั้งเขื่อนขันธ์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
3. อาจารย์กฤษณ์พชร โสมณวัตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4. ผศ. กฤษณะพล วัฒนวันยู คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
5. อาจารย์ก่อพงศ์ วิชญาปกรณ์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
6. ผศ. กิตติกาญจน์ หาญกุล วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7. อาจารย์กุศล เลี้ยวสกุล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
8. รศ.ดร. เก่งกิจ กิติเรียงลาภ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
9. ผศ.ดร. เกษม เพ็ญภินันท์ ภาคปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
10. ผศ.ดร. เขมพัฒน์ ตันติวัฒนกูล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
11. ผศ. คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
12. อาจารย์คอลิด มิดำ คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา
13. อาจารย์คมลักษณ์ ไชยยะ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรภ.พระนครศรีอยุธยา
14. อาจารย์เคท ครั้งพิบูลย์ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
15. อาจารย์งามศุกร์ รัตนเสถียร สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
16. นายจักเรศ อิฐรัตน์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
17. อาจารย์จักรกฤษ กมุทมาศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
18. อาจารย์จิรธร สกุลวัฒนะ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
19. ดร. จิรเมธ ช้างคล่อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
20. ดร. จิราพร เหล่าเจริญวงศ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
21. รศ.ดร. จุฬาพร เอื้อรักสกุล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
22. ผศ.ดร. เฉลิมพงษ์ คงเจริญ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
23. อาจารย์ชนม์ธิดา อุ้ยกูล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
24. ผศ. ชล บุนนาค
25. ชยุตม์ ชำนาญเศรษฐ University of Aberdeen
26. อาจารย์ชลิตา บัณฑุวงศ์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
27. ชัยพงษ์ สำเนียง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
28. ผศ.ดร. ชาญณรงค์ บุญหนุน คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
29. อาจารย์ภก. ชินวัจน์ แสงอังศุมาลี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
30. ผศ.ดร. เชาวฤทธิ์ เชาว์แสงรัตน์
31. ผศ.ดร. ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
32. รศ.ดร. ไชยันต์ รัชชกูล มหาวิทยาลัยพะเยา
33. ผศ. ณปรัชญ์ บุญวาศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี
34. ดร. ณรุจน์ วศินปิยมงคล คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
35. ดร.ณีรนุช แมลงภู่ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
36. ดร. ดวงยิหวา อุตรสินธุ์
37. อาจารย์ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
38. ผศ.ดร. เดโชพล เหมนาไลย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
39. ผศ.ดร. โดม ไกรปกรณ์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
40. ผศ.ดร. เทียมสูรย์ สิริศรีศักดิ์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
41. อาจารย์ธนสักก์ เจนมานะ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
42. ดร ธนาวิ โชติประดิษฐ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
43. อาจารย์ธาริตา อินทนาม คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
44. ผศ.ดร. ธิกานต์ ศรีนารา ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
45. อาจารย์ธีรพจน์ ศิริจันทร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
46. อาจารย์ธีระพล อันมัย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
47. อาจารย์ธีรวัฒน์ ขวัญใจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่
48. ธีรวัฒน์ ทัศนภิรมย์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหิดล
49. ผศ.ดร. นภนต์ ภุมมา คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
50. รศ.ดร. นงเยาว์ เนาวรัตน์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
51. อาจารย์นฤมล กล้าทุกวัน สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
52. ผศ.ดร. นฤมล ทับจุมพล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
53. อาจารย์นัทมน คงเจริญ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
54. ผศ. นาตยา อยู่คง คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
55. ผศ. ดร. นาวิน โบษกรนัฏ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
56. ศ.ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
57. ผศ.ดร. นิพนธ์ ศศิภานุเดช คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
58. อาจารย์บัณฑูร ราชมณี คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
59. อาจารย์บาหยัน อิ่มสำราญ อดีตศาสตราจารย์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
60. อาจารย์บุศรินทร์ เลิศชวลิตสกุล
61. อาจารย์เบญจ์ บุษราคัมวงศ์ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์
62. อาจารย์เบญจรัตน์ แซ่ฉั่ว สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
63. อาจารย์ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
64. ผศ.ดร. ประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
65. ประภัสสร์ ชูวิเชียร คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
66. อาจารย์ปราโมทย์ ระวิน มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
67. นางสาวปิยะนุช สิงห์แก้ว
68. อาจารย์ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
69. อาจารย์พชรวรรณ บุญพร้อมกุล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
70. อาจารย์พนมกร โยทะสอน วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
71. อาจารย์พรศิริ ชีวาพัฒนานุวงศ์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม
72. อาจารย์พรสรร วิเชียรประดิษฐ์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
73. อาจารย์พศุตม์ ลาศุขะ
74. อาจารย์พสิษฐ์ วงษ์งามดี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
75. ผศ.ดร. พรเทพ เบญญาอภิกุล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
76. อาจารย์พลอย ธรรมาภิรานนท์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
77. อาจารย์พัทธ์ธีรา นาคอุไรรัตน์
78. พิชญา บุญศรีรัตน์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
79. รศ.ดร. พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
80. ผศ.ดร. พิเชฐ แสงทอง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี
81. ผศ. พิพัฒน์ สุยะ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
82. ดร. พิสิษฏ์ นาสี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
83. อาจารย์พุทธิพงศ์ อึงคนึงเวช วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล
84. อาจารย์เพ็ญศรี พานิช สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
85. ผศ. ไพรินทร์ กะทิพรมราช คณะมนุษศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
86. อาจารย์ไพลิน ปิ่นสำอาง คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
87. ดร. ภาสกร อินทุมาร คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
88. อาจารย์มนฑิตา โรจน์ทินกร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
89. อาจารย์มิ่ง ปัญหา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
90. อาจารย์เมธาวี โหละสุต คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
91. อาจารย์ยศวีร์ ดวงจิตต์เจริญ มหาวิทยาลัยบูรพา
92. อาจารย์รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ มหาวิทยาลัยมลายา
93. อาจารย์วันรัก สุวรรณวัฒนา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
94. ผศ.ดร. วันวิสาข์ ธรรมานนท์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
95. รศ.ดร. วาสนา วงศ์สุรวัฒน์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
96. อาจารย์วิโรจน์ อาลี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
97. อาจารย์เวียงรัฐ เนติโพธิ์ รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
98. ผศ.ดร. ศรันย์ สมันตรัฐ ภาควิชาภูมิสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
99. ดร. ศิริพร เพ็งจันทร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
100. ผศ. ศุภวิทย์ ถาวรบุตร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
101. อาจารย์ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
102. อาจารย์สัณห์ธวัช ธัญวงษ์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
103. ดร. สุธิดา วิมุตติโกศล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
104. อาจารย์สุรัช คมพจน์ สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
105. ผศ.ดร. เสาวณิต จุลวงศ์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
106. ดร. อนันตศักดิ์ ศักดิ์อำนวย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
107. อาจารย์อนินทร์ พุฒิโชติ
108. รศ.ดร. อนุสรณ์ อุณโณ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
109. รศ.ดร. อภิชาต สถิตนิรามัย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
110. ผศ.ดร. อรุณี สัณฐิติวณิชย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
111. ผศ.ดร. อรอนงค์ ทิพย์พิมล คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
112. อาจารย์อานันท์ อุชชิน คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
113. อาจารย์อัญชลี อนันตวัฒน์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
114. ดร. อันธิฌา แสงชัย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี
115. ดร. อิสระ ชูศรี สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
116. อาจารย์อิสร์กุล อุณหเกตุ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
117. อาจารย์อุเชนทร์ เชียงเสน สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
118. ผศ.ดร. เอกพลณัฐ ณัฐพันธนันท์ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
119. ผศ. เอกฤทัย ฉัตรชัยเดช คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
120. อาจารย์อำพรรณี สะเตาะ มหาวิทยาลัยรังสิต
.
https://www.topnews.co.th/news/157828
ผลงานล้มล้างการปกครองไทยของ 3 กีบตลอดปี 63-64