รัชกาลที่ 3 ผู้ยิ่งใหญ่
ความยิ่งใหญ่ของล้นเกล้า ร.3 มีดังนี้
1.เรื่องการค้าท่านค้าขายสำเภากับเมืองจีนได้เงินได้ทองมาท่านก็แบ่ง1ส่วนเก็บไว้ในถุงแดง
เมื่อท่านใกล้สวรรคตสั่งไว้ว่า
"เงินในถุงแดงเก็บไว้อย่าใช้ วัดที่ข้าสร้างไว้ 70 กว่าวัดเอาเงินในถุงแดงไปดูแลบำรุงวัด
อย่าแตะเงินแผ่นดิน เหลือเท่าไรเก็บไว้ในยามยาก จะได้เอามาใช้ในการถ่ายบ้านถ่ายเมือง"
2. เรื่องสร้างวัด ท่านชอบสร้างวัด วัดในกรุงเทพฝีมือรัชกาลที่ 3 ทั้งนั้น
ใครอยากใกล้ชิดท่านต้องสร้างวัด ขุนนางผู้ใหญ่ทุกท่านก็ต้องสร้างวัด
โดยท่านจะไปให้ชื่อวัดให้ เช่น
ตอนเป็นราชโอรสท่านก็เริ่มสร้างวัด
โดยร.2 ตั้งชื่อให้ว่า วัดราชโอรส
วัดโพธิ์ท่านสั่งรื้อและสร้างใหม่หมด
พระพุทธไสยาสตร์ ท่านสร้างตำราฤษีดัดตนตำรายา ท่านสั่งให้ทำทั้งนั้น
จน UNESCO ให้เป็นมรดกโลกแห่งความทรงจำ ฝีมือท่านทั้งนั้น
พระปรางค์วัดอรุณ ท่านก็สร้าง ภูเขาทองท่านก็สร้าง แต่ไม่เสร็จในสมัยท่าน
3.ท่านมีเพื่อนเป็นเจ้าสัวชื่อโต ที่คอยช่วยเหลือทำอาหารเลี้ยง ขุนนาง ก็ยกบ้านตนเองให้ร.3 สร้างวัด
เอาใจพระเจ้าแผ่นดินท่านไปยกช่อฟ้าและตั้งชื่อให้ว่าวัดกัลยาณมิตร
เพราะถือว่าเจ้าสัวโตเป็นเพื่อนท่าน ลูกหลานก็เลยได้ใช้สกุลกัลยาณมิตร
4.วันหนึ่ง ร.3 ถามเจ้าพระยาพระคลังว่า "ไม่สร้างวัดมั่งหรือ"
เจ้าพระยาพระคลังตกใจยกบ้านให้สร้างวัด ท่านก็ไปยกช่อฟ้าให้ตั้งชื่อว่าวัดประยูรวงศาวาส
เพราะเป็นญาติท่าน
(เป็นลูกนายบุนนาคเพื่อน ร.1 และนายบุนนาคแต่งงานกับแม่นวลน้องสาวแม่นาค ซึ่งต่อมาเป็นพระราชินีของร.1)
พระยาพระคลังต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์
บิดาของ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริวงศ์(ช่วง บุนนาค) ขุนนางที่มีอำนาจมากที่สุดในรัชกาลที่5
5.ท่านยังไปถามน้องชายพระยาพระคลัง คือพระยาศรีพิพัฒน์ว่า
"พี่เอ็งสร้างวัดเอ็งไม่สร้างมั่งหรือ"
พระยาศรีพิพัฒน์ก็ตกใจยกบ้านให้สร้างอีกท่านก็ไปยกช่อฟ้า
ให้ตั้งชื่อว่าวัดพิชัยญาติอยู่ตรงข้ามวัดประยูร
ต่อมาพระยาศรีพิพัฒน์ได้ตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ซึ่งในราชวงศ์จักรี มีสมเด็จเจ้าพระยาเพียง 3 คน
6.แล้วท่านก็ถามเมียพระยาพิชัยญาติว่า
"พี่เอ็งก็สร้างวัดผัวเอ็งก็สร้างวัดและเอ็งไม่ทำบ้างหรือ"
คุณหญิงตกใจยกที่ดินให้สร้างวัด ท่านก็ไปยกช่อฟ้า
ให้ตั้งชื่อว่าวัดอนงคาราม
วันหนึ่งก็ถามพระยาพระคลังอีกว่า
"เอ็งก็สร้างวัดน้องเอ็งก็สร้างวัดน้องสะไภ้เอ็งก็สร้างวัดแม่เอ็งตายไปนานแล้ว เอ็งไม่สร้างวัดให้แม่เอ็งมั่งหรือ"
พระยาพระคลังเลยสร้างวัดให้แม่ท่านให้ชื่อว่าวัดนวลนรดิษ
เป็นวัดที่พ่อดิษอุทิศให้แม่นวล
ตัวท่านเอง (รัชกาลที่ 3) ก็สร้างวัดอุทิศให้แม่ท่าน ตั้งชื่อว่าวัดเฉลิมพระเกรียรติที่นนทบุรี ...
เพราะแม่ท่านเป็นลูกพระยานนทบุรี
7.ท่านมีหลานรักองค์หนึ่งพ่อแม่ตายท่านก็สร้างวัดให้ ชื่อวัดเทพธิดาราม
และก็มีหลานรักอีกองค์หนึ่ง ต่อมาเป็นราชินีองค์แรกของร.4 ชื่อหม่อมโสมนัส
วิธีแสดงว่าปู่รักหลานท่านก็สร้างวัดให้ชื่อวัดราชนัดดาราม ที่มีโลหะปราสาทสวยงาม
8.มีคนถามว่าสร้างวัดทำไมเยอะแยะสิ้นเปลือง
ท่านตอบว่าเงินทองเก็บไว้ก็มีแต่ปลวกขึ้นเอาไปสร้างวัดเสียดีกว่า อีก100-200 ปี มีใครมาเที่ยวเมืองเราก็ มาดูวัดเหล่านี้
จริงของท่าน ฝรั่งเข้ามาดูพระปรางค์วัดอรุณ ท่านก็สร้าง
มาดูพระนอนวัดโพธิ์ ท่านก็สร้าง
มาดูโลหะปราสาทท่านก็สร้าง
9.ลองมาคิดกันดูว่า
วันนี้ไม่มีวัดโพธิ์ วัดอรุณ วัดราชนัดดา วัดเฉลิมพระเกรียรติ และวัดอีก 70 กว่าวัด
ฝรั่งอยากมาเที่ยวเมืองไทยไหม
เหมือนกับพระราชวังแวร์ซาย ฝรั่งเศสที่เป็นแลนด์มาร์คให้คนไปชมเที่ยว เป็นวิสัยทัศน์ของคนสมัยก่อนจริงๆ
10.ความยิ่งใหญ่สุดท้ายคือการเสียสละ
ท่านไม่ตั้งสนมของท่านขึ้นเป็นมเหสีเลย เพื่อลูกท่านจะไม่ได้เป็นเจ้าฟ้า
ทำให้เจ้าฟ้ามงกุฏได้ขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 4
11.ตอนอายุ 47 ปี
ร.4 ท่านต้องมีเมียและท่านเลือกที่จะมีเมีย เป็นเจ้าทางสาย ร.3 ด้วยอีกชั้นหนึ่ง เพื่อผูกใจน้ำใจต่อกันท่าน
จึงทรงเลือกหลานของ ร.3 คือ
หม่อมเจ้าหญิงโสมนัส เป็นมเหสีเอก มีบุญได้เป็นราชินี แต่บุญน้อยมีโอรสเป็นชายเกิดเช้าบ่ายสิ้นพระชนม์
ตัวหม่อมเจ้าโสมนัสอีก 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์ ร.4 ทรงเสียใจมาก
จึงโปรดให้สร้างวัดชื่อวัดโสมนัสวิหาร อุทิศให้และ
ท่านก็สร้างวัดคู่กันเป็นวัดสามีภรรยาคือวัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหารตามชื่อของท่าน
12.ร.4 ท่านก็ยังทรงอภิเษก กับหลานปู่ ร.3 อีกองค์หนึ่ง
คือหม่อมเจ้าหญิงรำเพยท่านมีบุญาธิการมากประสูติเจ้าฟ้าพระองค์แรกคือเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ต่อมาเป็นรัชกาลที่5
เมื่อท่านขึ้นครองราชย์พระนางรำเพยพระราชชนนีได้สวรรคตไปแล้ว
ร.5 จึงสถาปนากระดูกแม่ท่านเป็นสมเด็จพระนางเจ้ากรมพระเทพศิรินทรามาตย์พระบรมราชชนนีพันปีหลวงและพระบรมราชินีของรัชกาลที่4
และท่านรู้ว่าพ่อท่านสร้างวัดให้ตัวท่านเองคือวัดมกุฏกษัตริยาราม ราชวรวิหาร
และสร้างวัดโสมนัสวิหารอุทิศให้พระนางโสมนัสมเหสีองค์แรก ที่ริมคลองผดุงกรุงเกษมคู่กัน
และแม่ท่านก็เป็นมเหสีเอกของรัชกาลที่ 4 ท่านจึงเลือกทำเลริมคลองผดุงกรุงเกษมอีกแห่ง
สร้างวัดให้แม่ท่าน ตั้งชื่อว่าวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหารตามชื่อแม่ท่าน
27 เมษายน พ.ศ 2382 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จ้างโรงพิมพ์หมอบรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน พิมพ์พระบรมราชโองการ ประกาศเรื่อง ห้ามสูบฝิ่นและค้าฝิ่น เป็นใบปลิวจำนวน 9,000 ฉบับ นับเป็นเอกสารทางราชการฉบับแรกที่ใช้วิธีการพิมพ์ด้วยตัวอักษรไทยและพิมพ์โดยโรงพิมพ์ในประเทศสยาม โดยสั่งซื้อตัวพิมพ์มาจากประเทศสิงคโปร์
________________________________________________________________________________________________________________________
อ้างอิง
ชีวิต 5 แผ่นดินของข้าพเจ้า
จาก รัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7
สุดท้าย ร.๕ ท่านทรงป่วย ด้วยเกรงว่าประเทศจะเป็นทวิราช จนสมเด็จพระยาดำรงฯ ต้องบอกท่านว่า (คร่าวๆ จำไม่ได้) หากพระองค์ไม่เข้มแข็งแล้วสยามจะอยู่อย่างไร ร.๕ จึงทรงเข้มแข็งเพื่อประชาชนชาวสยาม ... และทรงวางแผนประพาสยุโรป อย่างฉลาดโดยเสด็จรัสเซียจนได้รับการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ จากนั้น ยุโรปประเทศอื่นก็ต้อนรับท่านอย่างสมพระเกียรติ รวมทั้งอังกฤษ กษัตริย์พม่า (พระเจ้า ธีบอ Thibaw) อ่านข่าวของ ร. 5 เสด็จยุโรป อย่างสมพระเกียรตินั่น (ในขณะที่พระเจ้าธีบอ ต้องอยู่ลี้ภัย ที่อินเดีย อย่างไร้พระเกียรติ เพราะ อังกฤษ ยึดพม่า) ถึงกับอุทานเมื่ออ่านหนังสือพิมพ์ที่นั่นว่า ประเทศสยามที่เคยเป็นเมืองขึ้นพม่าถึง 2 ครั้ง กลับแตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง
มีคนบอกว่า หากไม่มีคณะราษฎร์ คนดีแลคนเก่งที่หนีคณะราษฎร์ไปอยู่ต่างประเทศ และที่ถูกคณะราษฎร์จับไปไว้ที่ต่างๆ เช่นเกาะตะรุเตา ...คงทำงานช่วยประเทศไทยได้มากมาย ตัวอย่างเช่น หม่อมเจ้า สิทธิพร กฤดากร ที่ทรงลาออกจากราชการในปี 2464 เพื่อทำการทดลองด้านเกษตรกรรม ทรงประกอบอาชีพเกษตรกรรม ณ บ้านบางเบิด ชุมพร เช่น สั่งสายพันธ์ไข่ดก และสายพันธ์แตงโมจากสหรัฐอเมริกา เพื่อปลูก และจำหน่ายไปทั่ว จนมีชื่อเสียงไปทั่ว แต่ท่านยังถูกคณะราษฎร์ตามไปจับ ทั้งๆที่ท่านไปทำงานด้านเกษตรมาก่อนยึดอำนาจเป็นสิบปี..