สิทธิของการรับราชสมบัตินั้นไปตามที่กฎมณเฑียรบาลกำหนดไว้ คือเจ้านายที่อิศรยยศสูงสุดจากอัครมเหสีที่ตำแหน่งสูงสุด ไล่จากคนโตไปจนถึงคนเล็กในสายนั้น หากมีบุตรก็ให้ไล่ลงไปตามบุตรเพิ่มก่อนไปยังน้องคนต่อไป เมื่อหมดสายจึงค่อยเริ่มสายใหม่ที่อัครมเหสีที่มีตำแหน่งรองลงมา
ในกรณีของรัชกาลที่ 6 นั้นอยู่ในสายของพระนางเสาวภาผ่องศรี ซึ่งมีเจ้าฟ้าที่เป็นน้องของรัชกาลที่ 6 อยู่หลายท่าน เช่นเจ้าฟ้าจักรพงษ์ เจ้าฟ้าจุฑาธุช เจ้าฟ้าอัษฎางค์ เจ้าฟ้าประชาธิปก แต่เหมือนสวรรค์ลิขิต เจ้าฟ้าสายนี้ทยอยสิ้นพระชนม์กันไปเรื่อยๆ จนปลายรัชกาลที่ 6 สายนี้ก็เหลือเจ้าฟ้าประชาธิปกอยู่ท่านเดียว รัชกาลที่ 6 จึงพยายามสอนงานเจ้าฟ้าประชาธิปก จนก่อนรัชกาลที่ 6 จะสวรรคตก็ทำพินัยกรรมกำหนดตัวไว้เลย ว่าหากทายาทของพระองค์เป็นชาย ก็ให้รับราชสมบัติและให้เจ้าฟ้าประชาธิปกเป็นผู้สำเร็จราชการ แต่หากเป็นหญิงก็ให้ราชสมบัติตกแก่เจ้าฟ้าประชาธิปก
เมื่อเจ้าฟ้าประชาธิปกขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 7 ก็เท่ากับว่าหากพระองค์ไม่มีทายาท สายของพระนางเสาวภาผ่องศรีก็สิ้นสุดลง เพราะพระองค์เป็นโอรสคนสุดท้ายของสายนี้ และจนกระทั่งสละราชสมบัติรัชกาลที่ 7 ก็ไม่มีทายาท ทำให้สายของพระนางเสาวภาผ่องศรีสิ้นสุดลง และขึ้นสู่สายใหม่คืออัครมเหสีที่ตำแหน่งรองลงมา นั่นคือสายของพระนางสว่างวัฒนา ซึ่งสายนี้มีโอรส 4 ท่าน แต่ล้วนสิ้นพระชนม์ไปหมดแล้วขณะที่รัชกาลที่ 7 สละบัลลังก์
กระนั้นตามกฎมณเฑียรบาลถึงแม้โอรสจะสิ้นไป แต่ไม่ได้ตัดสิทธิของบุตรของโอรสนั้น บรรดาเจ้าฟ้าทั้ง 4 ท่าน มีเจ้าฟ้ามหิดลที่สิ้นพระชนม์ไปแล้วคนเดียวที่มีบุตร ก็คือพระองค์เจ้าอานันทมหิดลและพระองค์เจ้าภูมิพล สิทธิของเจ้าฟ้ามหิดลจึงตกสู่พระองค์เจ้าอานันทมหิดล
นายปรีดี ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯ ได้การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เมื่อ 25 ม.ค. พ.ศ. 2485 ...ทำให้คนไทยในต่างแดนอยู่ในสถานะการณ์ลำบาก จึงก่อตั้งกระบวนการเสรีไทย ที่นำโดย เสนีย์ ปราโมช ด้วยความช่วยเหลือของสมเด็จพระนางเจ้า รำไพพรรณี (ใน ร.7)...เสนีย์ ปราโมช จึง รัฐบุรุษผู้ปกป้องเอกราชของประเทศไทยในสงครามโลก
หลังจาก ร.7 ทรงสละราชบัลลังก์ ก็ทรงให้ผู้สืบสันติวงศ์ต่อไปคือ โอรสของ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์แต่นายปรีดี ก็ไม่ได้ปฏิบัติให้เกียรติ โอรสทั้งสองของพระองค์เท่าไรนัก ทำให้ ร.8 ทรงดำริจะเป็นนายกรัฐมนตรีและให้ พระพระเจ้าน้องยาเธอ เป็นกษัตริย์แทน....แต่พระองค์ทรงถูกลอบสังหารเสียก่อน