สรุป ผลงานโดยรวมของยิ่งลักษณ์ ทักษิณและพวก ในช่วง กว่า 2 ปีที่มีอำนาจ
นี่หรือการกระทำตามวิถีประชาธิปไตย
เป้าหมายคือ สาธารณรัฐทักษิณ
ความสำเร็จ ในการต้มตุ๋นคนเสื้อแดง ให้มาเจ็บมาตายเพื่ออำนาจของทักษิณ โดยกระจายข่าวเท็จ ใส่ร้ายรัฐบาล ทหารและสถาบัน...ไปทั่วประเทศ....จนมีเสื้อแดงที่ถูกหลอก กว่า 15 ล้านคน มาลงคะแนนเลือกพรรคเพื่อไทย อันเป็นการ เปิดประตู ให้ ยิ่งลักษณ์ มีโอกาส ในทำการผลาญประเทศ เกิดเป็นคอรัปชันส์ที่สูงที่สุดในประว้ติศาสตร์ ทำธุรกิจให้พี่ชาย ทำให้ไทยเสียเขาพระวิหาร ประกาศแบ่งประเทศ รังแก สถาบัน สร้างความเสียหายแก่ประเทศต่อไปอีกนาน
ยุคยิ่งลักษณ์ เป็นยุค กู้ โกง ผลาญ น้ำมันแพง ข้าวยากหมากแพง
ยิ่งลักษณ์ตอบแทน รางวัลแก่ นปช เสื้อแดง และแกนนำ.... เผาเมืองได้เงินล้าน ผลาญชาติได้โลห์ โง่ได้เป็นผู้นำ ทำระยำได้เป็นรัฐมตรี มีวันนี้เพราะพี่ให้ พรรคเผาไทย จัญไรยกทีม
ทางเลือกของประเทศไทย:
-ถ้าชินวัตร ไม่ได้เป็นรัฐบาล มันเผาบ้านเผาเมือง จ้างคนวางระเบิด จ้างคนป่วนกระแส ทำลายชาติ
-ถ้าชินวัตร เป็นรัฐบาล มันโกงแผ่นดินทุกช่องทาง ทั้งเงินภาษี ทั้งเงินกู้ ทำโครงการทิ้งให้คนไทยใช้หนี้ จนวันตาย จากการเบิกเงินไปใช้มากเกินจริงมหาศาลเช่นโครงการรับจำนำข้าว ต้องจ่ายแค่ 2.9 แสนล้าน แต่รัฐบาลยิ่งลักเบิกเงินไปเกือบล้านล้านบาท สร้างหนี้ให้คนไทย จากการเบิกเงินเกิน 7.5 แสนล้าน เป็นต้น
ยุคยิ่งลักษณ์ เป็นยุคกินเมืองผลาญชาติ
ทั้งนี้ ทักษิณ ให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ คอยกำกับนโยบายจากทักษิณ และให้ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีในการสั่งปฏิบัติการ
1)สร้างนวัตกรรม "กู้มาโกง" ทั้งแบบนอกระบบและนอกระบบ เพื่อสร้างหนี้ผูกพัน ในอนาคตแก่คนไทย
-กู้มาโกงในระบบ
เช่นโครงการรับจำนำข้าว ที่กู้เอาเงินออกมาหมด แล้วปรากฏว่า เงินหาย 7 แสนล้าน มีการตรวจพบการลักลอบถ่ายโอนเงินจำนวนมากไปฮ่องกง
-กู้มาโกงแบบนอกระบบ (ออก พ.ร.บ.ก่อหนี้ให้คนไทย เพื่อ โกง)
เป็นการโกงโดยเอาเงินออกมาทั้งหมดอย่างเร่งรีบ ตัดขั้นตอน การตรวจสอบ (แบบที่ไม่มีชาติไหน ในโลกทำกันแบบนี้เลย) เช่นโครงการ รถไฟฟ้าสายสั้นๆ 4 สายภายในประเทศแต่ราคาสูงเกินจริงไปมาก (พ.ร.บ.ก่อหนี้เงินต้น 2 ล้านล้านบาท ไม่รวมดอกเบี้ยอีก 3 ล้านล้านบาท ที่ลูกหลานต้องแบกรับภาระอีกชั่วลูกหลาน)
2)ผลาญสมบัติชาติ เอาเงินรัฐ ไปถลุงแบบไม่เกรงใจภาษีประชาชน
3)ใช้เงินรัฐ ในการจ้างสื่อสร้างภาพตนเองและให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม เช่น ค่าโฆษณา แก่ วอยซ์ทีวี 52 ล้านบาท จ้างมติชน-สยามสปอร์ต 240 ล้าน เป็นต้น....นอกจากนั้น ยิ่งลักษณ์ใช้เงินแผ่นดินจ้างล็อบบี้ยิสต์ทำร้ายปท. (https://www.sanook.com/money/173322/) และทักษิณ”จ้าง บ.พีอาร์อื้อฉาวระดับโลกปั้นภาพ “ชินวัตร”
(https://www.isranews.org/isranews/25930-theguardian.html)
4)ใช้เงินรัฐ เหมาเครื่องบิน ...ท่องเที่ยวทั่วโลก ผลาญไปเกือบ 400 ล้าน โดยอ้างว่า ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ แต่กลับไม่มีผลงานใด ไม่สามารถเจรจร ขายสินค้าใดๆของไทยได้ ทำให้การส่งออกทรุดหนัก
นอกจากนั้นยังด่าประเทศตนเองให้ชาติอื่นฟ้ง
5)เดินทางด้วยเงินของรัฐ เพื่อสร้างภาพและเป็นตัวแทนทำธุรกิจให้ทักษิณ ที่ต่างประเทศ
มีส่วนทำให้ การบินไทย ล้มละลาย จากการบริหารบบจงใจให้เจ๊ง โดยเหมาลำการบินไทยไปท่องเที่ยวรอบโลก จนการบินไทยเจ๊ง 8 พันล้าน
6)ใช้อำนาจรัฐ หากินเพื่อเอิ้ออภิสิทธิ์ให้พี่ ชาย และออกนโยบายตามผลประโยชน์ของตระกูลชิน เช่น
-ใช้อำนาจ บังคับให้ข้าราชการมาทำงานเสาร์อาทิตย์ เพื่อเร่งออก การยกเลิก วีซ่า เข้าประเทศมอนเตรนิโกร ให้ทันเข้า ครม. ทั้งนี้เพราะทักษิณมีเกาะส่วนตัวที่นั่น
(ทักษิณเคยสั่งข้าราชการมาทำงานวันที่ 31 ธันวาคม ให้ข้าราชการโอนที่ดินีัชดา เพื่อเลี่ยงการเสียภาษีตามกฏใหม่ ในปีถัดไป)
-ออกโครงการทวายโดยใช้เงินทุนรัฐกว่า พันล้านบาท และพยายามทำโครงการถนนลอยฟ้าข้ามจาก ทวายไปกัมพูชา ทั้งนี้เพราะทักษิณและพจมานไปทำธุรกิจน้ำมันและมีที่ทางมากมายที่ทวาย จึงเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สมบัติของพวกตนเป็นหลัก
-แอบไปตกลงธุรกิจพลังงานกับสหรัฐและกัมพูชา เอื้อประโยชน์ธุรกิจพลังงานของทักษิณ แลกกับการที่สหรัฐออกวีซ่า 10 ปี ให้ทักษิณ ...(MOU44 ทำให้พื้นที่ แอ่งน้ำมันชายแดนไทยเขมร ลดลงจาก 90% เหลือเพียง 60%)...ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ทักษิณ ให้ สมชายที่เป็นรัฐบาลนอมินี สร้าง ถนน และสะพานไปยังเกาะกง ที่เขมร เพราะทักษิณและเพื่อน จะไปลงทุนทำธุรกิจที่นั่น
7)มีส่วนที่ทำให้ไทยเสียเขาพระวิหารเพิ่มขึ้น จากความไม่ใส่ใจ เหมือนตั้งใจเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชา และยอมรับคำตัดสินของศาลโลก ...
ปัญหาปราสาทพระวิหาร ถูกตั้งข้อสงสัยว่า “กายไทยใจเขมร” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผลการตัดสินของศาลโลกในปลายปีนี้ให้พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบปราสาทพระวิหารซึ่งเป็นดินแดนไทยต้องตกเป็นของกัมพูชา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลส่อพฤติกรรมยอมอ่อนข้อให้กัมพูชาอย่างออกหน้าออกตาเพื่อแลกกับผลประโยชน์ทับซ้อนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะได้จากฝ่ายกัมพูชา
8)ในยุค ยิ่งลัก มีการขึ้นราคาพลังงานแบบต่อเนื่อง ทั้ง แก๊สและน้ำมัน จากลิตรละ 14 บาทในยุคชวน มาเป็นลิตรละ 53 บาท จนเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ทั้งนี้เพราะบางคนในตระกูลชิน มีหุ้นจำนวนมากในนาม นอมินี ใน ปตท อีกทั้งยังได้ สัมประทาน LPG และ NGV จาก ปตท...นอกจากนั้นยังมีโครงการเปลี่ยน ปตท ให้กลายเป็นของเอกชนโดยสมบูรณ์อีกด้วย
9)บริหารประเทศแแบบขัด รธน และไม่ยอมให้มีการตรวจสอบ ...มีการโกงเกิดมหาศาล จนไทยติดอันดับ "โคตรโกง" เป็นการคอรัปชั่นส์ระดับโลก...นอกจากนั้น ยังพยายามแปรรูป อีกหลายรัฐวิสาหกิจ
-ปล่อยให้มีการโกงกินในทุกมิติ ข้ารราชการใช้อำนาจโดยมิชอบ ....เช่นโครงการเหมืองทองอัครา(จารุพงศ์และพวก กินสินบนข้ามชาติ และเหมืองทองสร้างความเสียหายแก่ชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม), นปช โกงเงินบริจาคน้ำท่วม และเอาของบริจาคจากประชาชน ไปอ้างว่า เป็นของบริจาคจากทักษิณ ทำให้ผู้บริจาคตัวจริงไม่พอใจ และออกมาเปิดโปง เป็นต้น
ถลุงเงินในโครงการต่างๆ เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทร(รัฐเสียหาย กว่าหมื่นล้าน) โครงการแทปเบต (รัฐเสียหาย 7000ล้าน)โครงการรถคันแรก (รัฐเสียหาย 9.1หมื่นล้าน) โครงการบ้านป่าแหว่ง เพื่อเอาใจอัยการแผ่นดิน (รับเสียพื้นที่ป่า และค่าก่อสร้างโครงการ)...
จัดซื้อจัดจ้าง วัสดุด้วยราคาที่แพงผิดปกติ. เช่นนาฬิกาเรือนละ 7.5 หมื่น ทั้งที่ราคาจริงแค่ 1.5 หมื่นเป็นต้น
....เอื้อประโยชน์แก่บรรดาสมุน มีส่วนร่วมในการโกง อุดตลุด
10)ล้มเหลวในการ บริหารทุกมิติ ...บริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาด จนเกิดน้ำท่วมใหญ่ ในหลายจังหวัด รวมทั้ง กทม ที่ทำให้คนไทยตายกว่า 800 คนและหมดตัวจากน้ำท่วม, การส่งออกทรุดหนัก
โดย10 จำทนของคนไทยทั้งประเทศ ในยุคยิ่งลักษณ์ (รับบาลหุ่นเชิดของทักษิณ) คือ:
1.ข้าวของแพง 2.สังคมแตกแยก 3.สองมาตรฐาน 4.ทุจริตเต็มเมือง 5.ข้าวเน่า ข้าวปลอมปนสารพิษ ระบาดหนัก 6.ข้าราชการไร้ศักดิ์ศรี การเมืองแทรกแซงการปฏิบัติงาน 7.ผู้ใช้แรงงานขัดสน คนจนย่ำแย่ 8.เกษตรทุกข์หนัก พืชผลราคาตกต่ำ....ส่งออกทรุดหนักที่สุดในรอบ4ปี
9.เก่งแต่สร้างหนี้ เป็นภาระให้ลูกหลานเหลนโหลนไทย นานหลายสิบปี 10.ภาพพจน์ตกต่ำ โอกาสประเทศหายไป
11)ละเลยปัญหาของคนป่วย คนชราและ สถานศึกษา คุณภาพของครูอาจารย์ และเยาวชน
-โกงจน ต้องยุบโครงการช่วยเหลือการศึกษาแก่เด็กยากจน (กยศ) ไป 6700 ล้านบาท
-เนื่องจากครูเป็นฐานเสียงขนาดใหญ่ ทักษิณจึงเพิ่มเงินเดือนแก่ครู 8%...แต่ไม่ได้พัฒนาคุณภาพของครู
ครู 99.8% จึงสอบตก การทวนความรู้ของ สพฐ ด้านภาษาอังกฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์
-คุณภาพการศึกษาของไทยต่ำสุดในเอเซีย
-เด็กสาวไทยครองแชมป์...ท้องไม่มีพ่อ ติดอันดับโลก
-ขาดการส่งเสริมเยาวชนด้าน คุณภาพ ทางคุณธรรม และจริยธรรม
-ละเลย โครงการหมอชนบท จนโรงพยาบาล ทั่วประเทศใกล้ถึงจุดล้มละลาย
-เอาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ของนายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ประธานชมรมแพทย์ชนบทรุ่นที่ 8 มาใช้ในการหาเสียง แต่รัฐบาล กลับสนับสนุนเงินช่วยด้านหลักประกันสุขภาพแห่งชาติน้อยมาก....ไม่พอเพียง จนสร้างภาระมหาศาลแก่ โรงพยาบาลทั่วประเทศ ทำให้มีหนี้สินรุงรัง
ในขณะที่ ทักษิณและพวก กวาดซื้อโรงพยาบาลเอกชนที่เจ๊ง
มาเป็นโรงพยาบาล เครือข่ายของตน ที่ให้บริการดี แก่คนรวย
12)ขายชาติ ทรยศแผ่นดิน
-ทำหนังสือไปเชิญสหรัฐมาตั้งกองทัพเรือในอ่าวไทย และยอมให้ สหรัฐมาใช้ สนามบินอู่ตะเา โดยอ้างว่า นาสา มาเช็คปริมาณฝุ่นในเอเซีย ...แต่ที่แท้เพื่อสอดแนมจีน
-แอบไปพบสหรัฐ เอื้อประโยชน์ ด้านพลังงาน เชพรอน และ FTA แก่สหรัฐที่กัมพูชา ทำให้ทักษิณได้วิซ่าเข้าสหรัฐนาน 10 ปี
13)เอาโฉนดในอวกาศของไทย ที่เป็นสิทธิวงโคจรของไทย ..ไปเอื้อให้กับ บริษัท ในฮ่องกง ...ทำให้การรับสัญญานดาวเทียมของไทยลดลงจากครึ่งโลก (120 องศาตะวันออก) เหลือแค่ อินเดีย-ไทย และคลื่นความถี่ของไทยลดลง....นอกจากนั้น ยังแอบต่อสัมปทานล่วงหน้า (ทั้งที่สัมปทานเดิมยังไม่หมดอายุ) แก่ บริษัทไทยคม ของ ชินคอร์ป ไปอีก 20 ปี ...ทำลายความมั่นคงของไทยและราคาอินเทอร์เนตของคนไทย ราคาสูงกว่าปกติ
14)คนพรรคเพื่อไทย ประกาศแบ่งแยกดินแดน มีการตั้งกองกำลัง ทั่วประเทศโดยเฉพาะทางเหนือ นปช. ประกาศแบ่งประเทศ
15)มีกองกำลังลับ (นปช) ที่ใช้อาวุธสงคราม แก่ผู้ประท้วง จนเจ็บและตาย นับพันคน....รังแก และข่มขู่ศาล...ทั้งนี้พรรคเพื่อไทย ยังประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล รัฐธรรมนูญ
16)รังแก สมเด็จพระเทพ โดยการเวนคืนวังสระปทุม จนคนไทยต้องออกมาร้องเรียน
17)ให้ตำรวจมารักษาดูแลความปลอดภัย สถาบัน ตามคำสั่งนายกรับมนตรี แทนทหารรักษาพระองค์
18)มีการออก พรบ ขายชาติ แก้รธน และใบอนุญาติเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชน จากสมบัติชาติ :
18.1)ออก พรบ แก้ รธน เพื่อการยึดครองประเทศ:
-แก้ไข รธน มาตรา ที่มาของ สว โดยยกเลิก สว สรรหา ให้เหลือแต่ สว เลือกตั้ง เพื่อให้ทำสภาผัวเมีย เอื้อประโยชน์แก่กันได้ ระหว่าง สส และ สว
การแก้ไขที่มาของวุฒิสภาให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้ระบอบทักษิณสถาปนา “สภาทาส” หรือ “สภาผัวเมีย”เหมือนในอดีตเพื่อยึดครองวุฒิสภาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งนี้วุฒิสภามีอำนาจสำคัญในการถอดถอนนักการเมืองและแต่งตั้งตัวแทนในองค์กรอิสระต่างๆ อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากระบอบทักษิณยึดวุฒิสภาได้สำเร็จเท่ากับผูกขาดอำนาจอยู่ในกำมือจนไร้ระบบตรวจสอบถ่วงดุลอีกต่อไปอย่างสิ้นเชิง
นอกจากนั้น ยิ่งลักษณ์ ยังปลอมร่าง รธน เพื่อหลอกในหลวง เรื่องการล้ม สว.สรรหา
-แก้ มาตรา 68 ให้ยกเลิก การร้องเรียนผ่านศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้ร้องเรียนผ่าน อัยการสูงสุดเท่านั้น...ทั้งนี้เพราะจุดอ่อนของกระบวนการยุติธรรมไทย อยู่ที่ ตำรวจและอัยการสูงสุด เช่นตำรวจทำสำนวนให้อ่อน มีจุดโหว่มากๆ และอัยการสูงสุด ใช้ดุลยพินิจในการตัดสิน...ทักษิณ จึงซื้ออัยการสูงสุด และตำรวจ ไว้เป็นพวก และพยายาม กำจัดศาล รัฐธรรมนูญ ที่ต้องมีกระบวนการและหลักฐาน ให้เป็นไปตามกฏหมาย
ลดอำนาจศาล รธน (โดยให้ กระบวนการตำรวจและอัยการสูงสุด มามีอำนาจเหนือ เพราะทักษิณ มีอัยการสูงสุดหลายคนเป็นพวก จึงมักมี ดุลยพินิจของอัยการสูงสุด ที่พิลึก และเป็นคุณต่อทักษิณและพวก มาโดยตลอด )
ทั้งนี้ ในการยุติคดี หรือ เบี่ยงเบนคำตัดสินใดๆ ... สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ การร่วมมือระหว่าง อัยการสูงสุด กับตำรวจชั่ว ...โดยตำรวจทำสำนวนฟ้องให้อ่อน มีจุดอ่อนเยอะๆ ...อัยการสูงสุดแค่ใช้ดุลยพินิจตัดสิน ตามสำนวนแค่นั้น
ในยุคทักษิณญิ่งลักษณื มีการใช้เงินซื้อคำตัดสิน จากผู้พพากษาบางคน อัยการบางคน ตำรวจชั่วและ DSI ชั่่ว มาเป็นพวก
-รัฐบาลยิ่งลักษณ์ แก้ รธน 190 เพื่อให้ระบอบทักษิณ สามารถทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ ได้โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
การแก้ไขมาตรา 190 เพื่อเปิดทางให้ระบอบทักษิณสามารถทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆ โดยนำทรัพยากรของประเทศแลกกับผลประโยชน์ทับซ้อนที่ตัวเองจะได้รับ
-ยกเลิก มาตรา 237 ที่ให้การยุบพรรคการเมือง กรณีซื้อเสียงหรือทำผิดกฏหมาย...เพราะเป็นยาที่แรงเกินไปสำหรับนักการเมืองชั่ว
-ยกเลิก องคมนตรี
ฯลฯ
18.2)ออก พรบ. นิรโทษสุดซอยแก่ทักษิณและพวก ย้อนหลังจากปี 2547 ถึงปี 2557
โครงการฟอกขาวแบบนิรโทษสุดซอย ให้ทักษิณและพวกจากคดีทั้งหมดในอดีต
18.3)เปลี่ยน สัมปทาน ที่เป็นสิทธิ์เป็นของรัฐ ...ให้เป็นใบอนุญาต ที่เป็นสิทธิ์เป็นของเอกชน เพื่อไปลากเอาดาวเทียมของ บริษัทฮ่องกงมาใช้สิทธิในวงโคจรที่เป็นโฉนดในอวกาศของไทย ทำให้พื้นที่รับสัญญาณของไทยลดจากครึ่งโลก เหลือแค่ ไทย-อินเดีย ทำให้คลื่นความถี่ของไทยลดลง
19)ดันตั้งนครรัฐปัตตานี (ทั้งนี้เพราะมีบ่อปิโตรเลียมชื่อแอ่งปัตตานี)....ทักษิณไปเจรจากับโจรใต้....สื่อนอกระบุุว่า ความวุ่นวายในประเทศไทย ที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา/ไทย-มาเลเซีย...ทั้งหมดมาจากทักษิณและตระกูลชินวัตร ไปเจรจาทำธุรกิจกับเพื่อนบ้านของไทย โดยฮุบพลังงานน้ำมันและแก๊สในอ่าวไทย ไว้ทั้งหมด แล้วให้เพื่อนบ้านปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน โดยทำให้ชายแดนไทย กัมพูชา และมาเลเซียวุ่นวาย ทั้งสงครามและก่อการร้าย เหมือนที่เคยเผาประเทศไทยในปี 53...ทำให้ไทยวุ่นวาย จะได้หาประโยชน์จากประเทศไทย ได้สะดวก
การบริหารแบบเละในทุกมิติของยิ่งลักษณ์
ยิ่งลักษณ์ผลาญเงินไปท่องเที่ยวรอบโลก โดยถลุงเงินภาษีของคนไทย ทำการบินไทยเจ๊งจากการเช่าเหมาลำตลอด
ทักษิณในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทย อยู่เบื้องหลัง ในการบงการบริหารประเทศของยิ่งลักษณ์ ในขณะที่ยิ่งลักษณ์ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเที่ยวรอบโลก โดยใช้ภาษีประชาชน
นายก ยิ่งลักษณ์ ผลาญงบชาติ ภาษี อย่างไม่เกรงใจของประชาชน
ผลงานร่วมมือ กับสหรัฐในการแสวงประโยชน์จากแผ่นดินไทย
ยิ่งลักษณ์ ทำหนังสือเชิญ สหรัฐมาตั้งกองทัพเรือในอ่าวไทย เพื่อดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐในไทย และยอมให้สหรัฐใช้สนามบินอู่ตะเภา ในการสอดแนมและปิดล้อมจีน โดยอ้างว่า NASA ขอใช้ตรวจสภาพฝุ่นในเอเซีย...เบื้องหลังแลกผลประโยชน์ให้ทักษิณ สหรัฐต่อวิซา 10ปีให้ทักษิณ
ยิ่งลักษณ์ ดำเนิน ต่อ เรื่องผลประโยชน์ ด้านพลังงานให้ทักษิณ
ในยุคยิ่งลักษณ์ ทักษิณดันตั้ง นครปัตตานี (เพราะที่นั่นมีแอ่ง ปิโตรเลียมขนาดใหญ่ชื่อ แอ่งปัตตานี)....ทักษิณไปคุยกับโจรใต้ หว้งร่วมมือกันฮุบ "แก๊ส น้ำมัน"
ในยุคยิ่งลักษณ์ เป็นครั้งแรกในประว้ติศาสตร์ชาติไทย ที่มีการรับรองสถานะของโจรใต้ โดยก่อนหน้านั้น ทักษิณได้เดินสายติดต่อเข้าหา ระหว่าง มาเลเซียและโจรใต้
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จุดชนวนสุมไฟก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ลุกโชนรุนแรงยิ่งขึ้นจากผลพวงการจัดฉากปาหี่สร้างภาพพูดคุยสันติภาพกับแกนนำรุ่นเก่ากลุ่มบีอาร์เอ็นโคออดิเนทที่ล้วนชราภาพและไร้บทบาทอย่างแท้จริงที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งผลก็คือถูกตอบโต้อย่างรุนแรงจากขบวนการโจรก่อการร้ายที่เป็นฝ่ายปฏิบัติการตัวจริงในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ด้วยการลอบวางระเบิดและสังหารเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงและประชาชนเฉลี่ยวันละศพตลอดช่วง 1 เดือน ของการพูดคุยสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลนำโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) และแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นฯรุ่นเก่านำโดย นายฮัสซัน ตอยิบ
สื่อนอกระบุุว่า ความวุ่นวายในประเทศไทย ที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา/ไทย-มาเลเซีย...ทั้งหมดมาจากทักษิณและตระกูลชินวัตร ไปเจรจาทำธุรกิจกับเพื่อนบ้านของไทย โดยฮุบพลังงานน้ำมันและแก๊สในอ่าวไทย ไว้ทั้งหมด แล้วให้เพื่อนบ้านปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน โดยทำให้ชายแดนไทย กัมพูชา และมาเลเซียวุ่นวาย ทั้งสงครามและก่อการร้าย เหมือนที่เคยเผาประเทศไทยในปี 53...ทำให้ไทยวุ่นวาย จะได้หาประโยชน์จากประเทศไทย ได้สะดวก
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกา มีความสนใจในแอ่งน้ำมันนี่ด้วยเช่นกัน จนมีการจ้างนักข่าวให้หาข้อมูลสถถานที่ตั้งของทหารไทยในเขต 3 จังหวัดภาคใต้ โดยมี NGO ของจอร์จ โซรอส คอยปกป้องเหล่าโจรใต้ และว่าร้ายทหารไทยมาโดยตลอด
มีการรวมหัวกันแก้ รธน และ ออก พรบ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเองและพวก....ยึดครองประเทศ
วงจรกินรวบประเทศไทย แบบยกครอกมาโกง
นักการเมือง ที่เป็นลูกจ้าง ของทักษิณ ยกมือให้ผ่านทุกความต้องการของทักษิณ
-กู้ในระบบ ได้แก่ โครงการจำนำข้าว 9.8 แสนล้าน โดยโกงไป 7 แสนล้าน เพราะใช้จริงแค่ 2.9 แสนล้าน ... ให้คนไทยทั้งแผ่นดินชดใช้หนี้แทนปีละ 3 หมื่นล้าน ทุกปี นานหลายสิบปี
-กู้นอกระบบ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า 2 ล้านล้าน บาทและโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านโดยงานนี้ทักษิณ บินไปกินเปอร์เซนต์กับบริษัทที่ได้งานประมูลไป ถึงที่เกาหลี
เปรียบเทียบระหว่าง กู้นอกระบบที่ออกเป็น พรบ โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และกู้ในระบบแบบเดิม
การออก พรบ เงินกู้นอกระบบ ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ .... ส่อเจตนาโกง เพื่อปล้นประเทศ เพราะเป็นการกู้ที่แปลกมากดังนี้
1)กู้ครั้งเดียว จำนวนมหาศาล อ้างเอาไปใช้ 7 ปี
2)กู้แล้ว ไม่ต้องเอาเงินเข้าครั้ง
3)เงินไม่ต้องผ่านสำนักงบประมาณ
4)ไม่มีรายละเอียดโครงการ
5)สภาไม่มีสิทธิ ตรวจสอบ
6)สามารถเอาเงินไปใช้อะไรก็ได้ โดยคนอื่นไม่มีสิทธิแก้ไข
7)มีการจ่ายค่าที่ปรึกษา 3% คือ 6 หมื่นล้าน จากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
8)ไม่มีรัฐบาลชุดไหน ในภายหลัง จะไปเปลี่ยนได้
ทั้งนี้ นักการเมืองของทักษิณ โหวตให้ พรบ ชุดนี้ผ่าน
งานนี้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไช้เงินรัฐ จ้าง มติชน-สยามสปอร์ต ทำโฆษณาชวนเชื่อ หลอก ประชาชน สร้างภาพ 240 ล้านบาท...ทั้งนี้ ทักษิณ ใช้ มติชน และข่าวสด ประกาศ ถึงนักการเมืองในสังกัด ให้ทำตามความประสงค์ ของตนด้วย
เมื่อเจ้าของพรรค ต้องการกู้นอกระบบ เพื่อให้สามารถกู้ได้ในครั้งละปริมาณมากมาก โดย เลี่ยงการตรวจสอบ อันเป็นการกู้มาโกง
เมื่อได้โอกาสกู้เงิน ก็ช่วยกันละเลง ผลาญเงิน แบบ ขัด รธน สร้างหนี้สินให้คนไทยชดใช้แทน
11 คดียิ่งลักษณ์ "ชั้นไต่สวน ป.ป.ช"
นิรโทษกรรมแบบสุดซอยให้ทักษิณและพวก โดยนิรโทษย้อนไปตั้งแต่ปี 2547(ก่อนรัฐประหาร ปี 49)ถึง ปี 2556 (รวมคดีจำนำข้าว)
เมื่อนายทุนเป็นเจ้าของพรรค สามารถบงการให้ สส และ สว ภายใต้อาณัติ สร้างผลประโยชน์ให้ในทุกด้าน
เมื่อเจ้าของพรรค ต้องการให้ทำนิรโทษกรรม ในความชั่วที่ได้ทำไว้แก่แผ่นดิน เรียกว่า นิรโทษสุดซอย หรือ นิรโทษยกเข่ง
มหากาพย์ แห่งการโกง ด้วยโครงการรับจำนำข้าว ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
โครงการรับจำนำข้าว ที่สุดท้ายโกงเอาเข้ากระเป๋าพวกกันเอง และทิ้งหนี้ให้คนไทยชดใช้แทน
โครงการรับจำนำข้าว คือ การหลอกเอาข้าวจากชาวนา โดยการให้ราคาสูงกว่าตลาด เพื่อเอาข้าวมาใช้เป็นข้ออ้างในการโกงรัฐไป 7.5 แสนล้าน ...โดยรัฐบาลแม้เอาเงินไปแล้ว แต่กลับไม่ยอมจ่ายชาวนาอีก 2 สนล้าน ทำให้ชาวนาฆ่าตัวตายกว่า 20 ศพ
โครงการรับจำนำข้าว...ทำให้ข้าวไทยเสียชื่อเสียง คุณภาพข้าวตกต่ำ จนเขมรแย่งแชมป์ ข้าว ไปได้, มีการเอาข้าวต่างชาติมาสวมสิทธิ์ (ข้าวเขมร ข้าวพม่า โดยข้าวพม่าตันละ 5 พันบาท ในขณะที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ราคาตันละ 1.5หมื่น จึงมีการลักลอบนำเข้าข้าวเขมร ข้าวพม่า มาสวมสิทธิ์ ข้าวของชาวนาไทย นำมาเวียนเทียนขาย ทำให้ข้าวหายจากโกดัง บ้างก็เน่าคาโกดัง จึงมีการลักลอบเผาโกดังข้าวเยอะมาก), มีการเผาโกดังข้าว เพื่อปกปิดความผิด ,มีการเอาข้าวไปเวียนเทียนขายหลายรอบ ,ข้าวเน่าจากความชื้นและรีบเก็บเกี่ยว ทำให้ไทยเต็มไปด้วยสารพิษตกค้างที่ใช้เก็บรักษาข้าว, มีการทำ จีทูจีเก๊ หลอกว่าขายข้าวให้จีน เพื่อให้ได้สิทธิ์ขายข้าวราคาถูก, ,เอกชนลักลอบเอาข้าวออกจากโกดังไปขายในตลาด, รัฐโกงชาวนา 2 แสนล้าน (ยิ่งลักษณ์เอาเงินไปแล้ว 7แสนล้านแต่ไม่ยอมเอาไปจ่ายชาวนา)...ชาวนาฆ่าตัวตายเพราะเครียดที่ถูกรัฐโกง กว่า 20 ศพ....
โครงการราคา 9.8 แสนล้าน จ่ายจริง 2.9 แสนล้าน เบิกเงินเกินไป 7 แสนล้าน.... ยิ่งลักษณ์เอาเงินไป 7 แสนล้าน แต่ไม่ยอมเอาไปจ่ายชาวนา... เมื่อ พลเอกประยุทธิ์ยึดอำนาจได้ จึงเอาเงินรัฐไปจ่ายแทนให้ชาวนา 2 แสนล้าน
โครงการรับจำนำข้าว คือการที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ หลอกเอาข้าวจากชาวนา (โดยล่อด้วยราคาที่สูงกว่าท้องตลาด) เพื่อเอาข้าวของชาวนาและของประเทศเพื่อนบ้านมาวนเวียนขาย หลอกเอาเงินจากคลัง จนสามารถโกงไปได้ 7.5 แสนล้านบาท (โกงชาวนา 2 แสนล้าน) ที่กลายเป็นหนี้ให้คนไทยชดใช้แทนชั่วลูกหลาน ในขณะที่นักการเมือง หอบเงินหนีไปได้ 7.5 แสนล้าน...ชาวนา ฆ่าตัวตาย 20 ศพ เพราะถูกรัฐบาลยิ่งลักษณ์โกงข้าว....กปปส ที่ประท้วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถูกฆ่าตาย 30 ศพ แและบาดเจ็บจากการถูกลอบโจมตีเกือบ พันคน โดยการ์ด นปช ....โครงการนี้ ทำให้เกิดข้าวเน่า ข้าวหาย มหาศาล และทำให้ไทยเสียแชมป์ข้าวหอมที่ดีที่สุด แก่ กัมพูชา 2 ปีซ้อน
16 ที่สุดของจำนำข้าว ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟชบุคถึงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่า ได้ก่อให้เกิด 16 ที่สุดของจำนำข้าว
1. ใช้เงินซื้อข้าวมากที่สุด ตลอดระยะเวลาสองปีเศษ ของการดำเนินโครงการจำนำข้าว เท่ากับห้าฤดูการผลิตคือนาปี2554/2555 นาปรัง2555 นาปี2555/2556 นาปรัง 2556 และนาปี2556/2557 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องใช้เงินซื้อข้าวเปลือกสูงถึง 870,000 ล้านบาท มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
สิ่งที่น่าสนใจคือเงินมหาศาลถึงเกือบเก้าแสนล้านบาท ถ้าถึงมือพี่น้องชาวนาทั้งหมดจริง ชีวิตพี่น้องชาวนาต้องดีกว่านี้ แต่กลายเป็นว่าชาวนาส่วนใหญ่ยังลำบาก อย่างไรก็ตามถือว่า เป็นการใช้เงินซื้อข้าวมากที่สุดในประวัติการณ์
2. ขาดสภาพคล่องเร็วที่สุด โครงการนี้ตั้งงบประมาณเงินกู้ไว้ 500,000 ล้านบาท ไม่รวมงบประมาณค่าบริหารจัดการและดอกเบี้ยรายปี หวังว่าจะบริหารโครงการให้ได้สี่ปี ด้วยการซื้อมาขายไป แต่เพราะทุจริต และขายข้าวไม่ได้ ไม่ทันถึง 2ปีก็ขาดสภาพคล่อง แทบจะปิดบัญชีวงเงินกู้ปลายเดือนธันวาคม 2556ไม่ได้
ที่สำคัญไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่าข้าวชาวนาได้ ในรอบนาปี2556/2557ตั้งแต่1 ตุลาคม 2556เป็นต้นมา เพราะขาดสภาพคล่อง จึงถือว่าเป็นโครงการที่ขาดสภาพคล่องเร็วที่สุด
3. โกงมากที่สุด เป็นวิธีโกงตั้งแต่ลงทะเบียนชาวนา โกงต้นน้ำ โกงกลางน้ำและโกงปลายน้ำ ถือได้ว่า เป็นการทุจริตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย กระจายไปทุกกลุ่ม จากชาวนา เจ้าของโรงสี เซอร์เวย์ เจ้าหน้าที่คลังอคส.หรืออตก. เจ้าของคลัง ข้าราชการจังหวัด ข้าราชการระดับสูง และที่สำคัญคือขาใหญ่วงการข้าวและนักการเมือง
4.ทำลายส่งออกมากที่สุด ปกติแล้วข้าวไทยถือว่าดีที่สุดในโลก สถิติการส่งออกของข้าวไทยถือว่ามากที่สุด เป็นแชมป์โลกมาตลอด แต่เพราะจำนำข้าวทำให้การส่งออกตกจากอันดับหนึ่ง มาสู่อันดับสามรองจากอินเดียและเวียตนาม ถ้าคิดเป็นปริมาณก่อนดำเนินการจำนำข้าว ไทยเราส่งออกสูงถึง10.6 ล้านตัน หลังจากปีถัดมาที่ทำจำนำข้าว ตัวเลขส่งออกตกลงเหลือ6.9ล้านตัน ถ้าคิดเป็นเงินบาทลดลงจาก192,000 ล้านบาท เหลือ145,000 ล้านบาท ลดทั้งเม็ดเงินและปริมาณข้าว จึงถือว่าเป็นการทำลายตลาดและโอกาสการส่งออกข้าวไทยมากที่สุด
5.ชาวนาตายมากที่สุด ในอดีตแทบจะไม่เคยพบชาวนาฆ่าตัวตายเพราะนโยบาย เพราะจำนำข้าวที่ปล่อยให้ทุจริต ตั้งราคาไว้สูง ข้าวเสื่อมสภาพ ขายข้าวไม่ได้ เมื่อขาดสภาพคล่อง พี่น้องชาวนาต้องลำบาก เงินขาดมือ ถูกทวงหนี้สิน เครียด สุดท้ายฆ่าตัวตายรวมถึง16รายมากที่สุดในประวัติศาสตร์
6.ใช้โกดังเก็บมากที่สุด เนื่องจากจำนำทุกเม็ด ข้าวขายไม่ได้ ที่เหลือจึงต้องเก็บไว้ พบว่ารัฐต้องใช้โกดังเก็บข้าวสารสูงถึง 1,800 โกดัง และไซโลระบบปรับอากาศอีก 137ไซโล มากที่สุดในการใช้โกดังเก็บข้าว(18ล้านตัน)ตั้งแต่มีประเทศไทยมา
7. ค่าใช้จ่ายจัดเก็บข้าวมากที่สุด ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้าวที่เป็นกระสอบ จะมีค่าขนลง ค่าตรวจคุณภาพ ค่าเก็บ ค่ารมยา ค่าประกันภัยน้ำท่วม คิดว่าเฉลี่ยตกประมาณ 100 บาทต่อตันข้าวสารต่อเดือน กรณีเก็บด้วยไซโลค่าใช้จ่ายตก1,092 บาทต่อตันต่อปี เฉลี่ยตันละ90บาทต่อเดือน คิดง่ายๆ ก็ตก100บาทต่อตันต่อเดือน ข้าว18ล้านตัน ตกค่าจัดเก็บประมาณเดือนละ 1,800ล้านบาท ปีหนึ่งนับหมื่นล้านบาท ถือว่ามากที่สุดที่เคยจ่าย
8. ใช้รัฐมนตรีดูแลมากที่สุด นอกจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกและประธานกขช. ในช่วงแรกมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายภูมิ สาระผล มาเปลี่ยนเป็นนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายยรรยง พวงราช รวมทั้งนายวราเทพ รัตนากร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถือว่าเป็นนโยบายที่ใช้รัฐมนตรีดูแลมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่การป้องกันทุจริตกลับไม่ได้รับการแก้ไข
9.ชาวนาต่างชาติได้ประโยชน์มากที่สุด ถือว่าเป็นครั้งแรกที่นโยบายจำนำข้าวไทยกางร่มให้ชาวนาต่างชาติ เพราะข้าวไทยตั้งราคาสูง ทางจิตวิทยาข้าวต่างชาติก็ราคาสูงตามแต่ห่างจากราคาข้าวไทยสูงถึง150เหรียญ ทำให้ข้าวไทยขายไม่ได้เพราะราคาสูง ข้าวต่างชาติกลับขายดีโดยเฉพาะอินเดีย เวียตนาม แม้แต่กัมพูชา พม่าและลาว จึงถือว่านโยบายจำนำข้าวทำให้ชาวนาต่างชาติได้ประโยชน์มากที่สุด
10. มีข้าวต่างชาติส่งมาไทยมากที่สุด อดีตที่ผ่านมาไทยเราไม่จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ แต่เพราะรับจำนำสูงกว่าตลาดถึง50% จึงเกิดแรงจูงใจที่ข้าวต่างชาติถูกนำเข้ามาสวมสิทธิ์ในประเทศไทย ที่เห็นทั้งจากพม่า ลาว เขมร และเวียตนามผ่านมาทางเขมร จะเห็นว่าตัวเลขรายงานการส่งออกข้าวของเขมร พบว่าส่งออกข้าวมาประเทศไทยสูงเป็นอันดับสี่ของการส่งออก รวมทั้งมีการรายงานของสื่อต่างประเทศว่าข้าวเวียตนาม ข้าวพม่าและลาวที่มีการลักลอบส่งเข้ามาสวมสิทธิ์เข้าโครงการรับจำนำในประเทศไทย ถือว่าโครงการจำนำข้าวกลายเป็นแหล่งรวมข้าวของต่างชาติมากที่สุดที่เคยมี
11. หายนะต่อชาติมากที่สุด นับเป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวงของโครงการรับจำนำข้าว ที่มีตัวเลขความเสียหายไม่ต่ำกว่า500,000 ล้านบาท ยังไม่นับรวมค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กู้มาลงทุน 500,000 ล้านบาท และเงินที่เป็นค่าใช้จ่ายจากงบประมาณประจำปี ค่าเสียโอกาสจากการส่งออกและเงินตราต่างประเทศที่ควรได้รับ ความเชื่อถือต่อภาพลักษณ์ข้าวไทยและการพัฒนาสายพันธ์ที่เกษตกรไม่สนใจ จึงถือว่าเป็นหายนะต่อชาติมากที่สุดที่เกิดจากการจำนำ
12. วิธีโกงซับซ้อนที่สุด นอกจากโกงมากทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ วิธีการโกงยังสลับซับซ้อน ใช้ตัวละครมาตบตาจำนวนมาก เช่นนายปาล์ม นายโจ หรือแม้แต่ใช้ตัวละครจากต่างประเทศเช่น GSSG รวมทั้งการโกงข้าวถุงก็ใช้บางบริษัทมาตบตาเพื่อให้เกิดความซับซ้อน หรือแม้แต่มีการนำนั่งร้านมาซุกในกองข้าว จึงถือว่าเป็นวิธีซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยพบ
13.ข้าวหายมากที่สุด ปกติแล้วข้าวสารที่เก็บไว้ในโกดังกลาง จะมีการล็อคกุญแจ 3 ดอก โดยเซอร์เวเยอร์ หัวหน้าคลังและตัวแทนจังหวัด ดังนั้นข้าวสารจึงควรที่จะครบ พบว่ารายงานของประธานอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ได้รายงานการตรวจสอบและปิดบัญชีพบว่า ผลการปิดบัญชีเดือนมกราคม 2556 มีรายงานข้าวหาย 2.5 ล้านตัน เมื่อถึงเดือนพฤษภาคม 2556 ตัวเลขรายงานข้าวหายสูงขึ้นถึง 2.98 ล้านตัน แทนที่รัฐบาลจะต้องรีบแก้ไขดำเนินการ กลับตั้งพล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมาตรวจ แต่แล้วก็ไม่ได้รายงานให้ประชาชนทราบและเรื่องก็เงียบไปนาน ในความจริงแล้วกรรมการที่มีอำนาจและได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากประธานกขช.ก็คือประธานอนุกรรมการปิดบัญชี ต้องถือว่าข้อมูลของอนุปิดบัญชีต้องเป็นข้อมูลทางการที่น่าเชื่อถือที่สุด แต่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์กลับไม่พอใจผลดังกล่าว ดังนั้นจึงถือว่าผลการตรวจแสดงให้เห็นว่า มีตัวเลขข้าวหายมากที่สุด
14. ข้าวเน่าและเสื่อมสภาพมากที่สุด ได้รับการพิสูจน์รายวันที่คณะผู้ตรวจร่วมกับทหารตรวจโกดังและไซโลทั่วประเทศ แทบจะพบเห็นข้าวเน่า เหลือง ป่นเป็นแป้ง ข้าวจับเป็นก้อน กระจายไปทุกภาคของประเทศ จนคนในวงการข้าวบางท่านประเมินว่าข้าวดีกับข้าวต่ำมาตรฐานอาจสูงถึงสัดส่วน 50%ถ้าหากมีการตรวจอย่างละเอียด
15. ปกปิดมากที่สุด ไม่เคยมีนโยบายใดที่รัฐบาลปกปิดข้อมูลทุกอย่างมากเท่าครั้งนี้ ปกปิดตัวเลขข้าวในโกดัง การระบายข้าว ราคาที่ระบาย ปกปิดแม้แต่รายงานตัวเลขการส่งออกข้าว ปกติกรมการค้าต่างประเทศจะรายงานตัวเลขส่งออกข้าว แต่สุดท้ายถูกปกปิดหมด
16. ตอบคำถามไม่ได้มากที่สุด ปกติแล้วรัฐบาลจะต้องตอบคำถามฝ่ายค้านและฝ่ายตรวจสอบในประเด็นต่างๆในสภาหรือนอกสภา นโยบายนี้เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลไม่สามารถตอบคำถามใดๆของฝ่ายตรวจสอบได้เลย ทั้งการอภิปรายหรือกระทู้ แม้แต่การชี้แจงปปช.ก็ไม่สามารถชี้แจงได้ มีแต่วาทกรรม กล่าวหาว่าเร่งรีบ รวบรัด ไม่ได้ความเป็นธรรม
-ยิ่งลักษณ์และพวก หว้งยึดครองประเทศ ดังนี้:
1)แก้ พรบ หลายฉบับเพื่อการ ยึดครองประเทศ
2)เปลี่ยนสัมปทาน (สิทธิ์เป็นของรัฐ)....เป็นใบอนุญาต (สิทธิ์เป็นของเอกชน)เพื่อเอาสิทธิวงโคจรดาวเทียมของรัฐไปเอื้อแก่ต่างชาติ เอื้อประโยชน์ แก่ บริษัทไทยคม ของ ชินวัตร
3)รวบอำนาจ ตั้งกองกำลังในช่วงมีอำนาจ ให้กองกำลังตำรวจเป็นหลัก ประกาศรับสมัครเพิ่มคนอีกแสนนาย ...และทำการผลักดันให้พี่เขยเป็น ผบ.ตำรวจ โดยย้ายนายถวิล เปลี่ยนสี ออกไป
4)มีการรังแก กปปส ดังนี้:
-มีกองกำลังลับ พร้อมอาวุธสงคราม มาทำร้ายและฆ่า กปปส จนตายไป 30 ศพ และบาดเจ็บนับพัน...ต่อมาเมื่อมือปืนและมือระเบิดเหล่านี้ถูกจับได้ ปรากฏว่า เป็น นปช ที่บางคนได้รับเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ
-ตั้ง ศอ รส มาข่มขู่ รังแก และใช้ทุกช่องทางกฏหมายเพื่อปิดปาก รังแกใส่ความ ต้ังข้อหา เรียกร้องค่าเสียหาย เกินจริง โดยความร่วมมือจาก เคริอข่ายทักษิณ ทุกภาคส่วน
5)ประกาศแบ่งแยกดินแดน อย่างชัดเจนโดยคนของพรรค เพื่อไทย หลังยิ่งลักษณ์ ยุบสภา เพื่อหนีปัญหา หนีการประท้วงของ กปปสและชาวนา....แบ่งแยกดินแดน ล้มเจ้า ตั้งสาธารณะรัฐทักษิณ เป้าหมายให้ทักษิณเป็นประธานาธิบดี
6)ยิ่งลักษณ์ แอบลักไก่ ....ยกเลิก ราชองครักษ์ ทั้งทหารและตำรวจ ให้เหลือแค่ อารักขาด้วยตำรวจตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี เท่านั้น ...นอกจากนั้น ยังทำการเวนคืนวังสระปทุมที่สมเด็จพระเทพ ทรงประทับ
7)หลังจากที่ยิ่งลักษณ์ยุบสภา เพื่อหนีปัญหาเรื่องโกงชาวนาและออก พรก นิรโทษสุดซอยแก่ทักษิณ ตั้งแต่ปี 2547-2557 จนมีผู้ประท้วงกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ ...รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลายเป็นรัฐบาลรักษาการ (ที่มีอำนาจจำกัด) ต่อมาผลจากการ ประพฤติมิชอบ เลือกปฏิบัติ โดยดัน พี่เขยของตนเอง ('เพรียวพันธ์์ ดามาพงศ์ เป็นพี่ชาย พจมาน ชินวัตร'...) ให้มาเป็น ผบ.ตำรวจ อันเป็นการข้ามหลายตำแหน่ง ทำให้ นายถวิล เปลี่ยนสีได้รับผลกระทบ ...จึงฟ้องร้องเอาความ และเมื่อศาลทำการตรวจสอบ ก็พบว่า ยิิ่งลักษณ์ทำผิดจริงในการเอื้อตำแหน่งแก่ญาติตนเอง ...ทำให้ยิ่งลักษณ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี....จึงเกิดเป็นรัฐบาลสุญญากาศ...ทักษิณจึงสั่งให้ "นายนิวัฒน์ธำรงค์บุญทรงไพศาล" คนสนิทของตน ...มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน โดยไม่ผ่าน ครม... ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรงค์บุญทรงไพศาล ไม่ได้เป็น ส.ส และไม่ได้มาจาก มาตรา7 ....จึงกลายเป็นรัฐบาลเถื่อน ที่ถ้าใครปฏิบัติตามคำสั่ง ก็จะมีความผิดทันที....นอกจากนั้น ในระหว่างนั้น กองกำลัง นปช ยังรังแก กปปส อย่างดุเดือด มี ระเบิดลง กปปส ทุกวัน มีคนล้มบาดเจ็บ ล้มตาย เพิ่มมากขึ้น ....พลเอกประยุกต์ จึงทำการยึดอำนาจ รัฐบาลเถื่อนนี้
ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ติดสินบน ตำรวจให้ปราบ กปปส
ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา ไปที่ขตพระราชฐานและพระราชวังสวนจิตรลดา
คู่ขนานกันไฟ ก็คือ การที่ยิ่งลักษณ์ คิดตั้งกองกำลังกองทัพเอง วันที่ 19 พ.ย. 56 โดย ยิ่งลักษณ์ ในอีกฐานะคือ รมต.กลาโหม เสนอจัดตั้งกองกำลังสำรอง ในขณะเดียวกันก็มีเสียงร่ำลือว่า จะออกเป็น พรก.....เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬารของประเทศไทย ของกองทัพไทยแและของประชาชนชาวไทย ทั้งประเทศ และจะกำหนดอนาคตของสถาบันพระมหากษัตริย์
ยิ่งลักษณ์ เหลิงอำนาจ
ยิ่งลักษณ์เวนคืนวังสระปทุม
มันเป็นประชาธิปไตยหรือ ที่เสียงข้างมากนำไปสู่ การทุจริต คอรัปชั่น
ประเทศไม่ได้อยู่ได้เพราะประชาธิปไตย ไม่ได้อยู่ได้เพราะรัฐธรรมนูญ ไม่ได้อยู่ได้เพราะกฏหมาย แต่ประเทศจะยั่งยืนอยู่ได้ด้วยกำลังของพลเมืองดี ที่ไม่ดูดายและยอมแพ้ต่อคนชั่ว ต่อคนทุจริต ที่กัดกร่อนทำลายประเทศชาติ พลเมืองดี จึงต้องยืนหยัดรักษาบ้านเมืองไว้ให้มั่นคงเพื่อลูกหลานรุ่นต่อไป
มีการใช้อาวุธสงคราม ลอบฆ่า กปปส ตลอดเวลาในการชุมนุม จนบาดเจ็บเกือบพันคนและเสียชีวิต 30 ศพ
มือระเบิดเป็น นปช
เหิมเกริม ถึงขนาดล้มเจ้า และขอแบ่งแผ่นดิน
ขั้นตอนในการแบ่งแยกแผ่นดินไทย เพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองชั่ว
การแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิลดังกล่าว เป็นการลดบทบาทและอำนาจหน้าที่ลง โดยไม่แสดงเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายและไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายถวิล ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพ มีข้อบกพร่องหรือไม่สนองนโยบายของรัฐบาล จึงถือได้ว่าเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 9/2557 ว่า การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นเครือญาติ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ การกระทำทั้งหมดมิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และของประชาชนแต่อย่างใด อันแสดงให้เห็นถึงการมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีวาระซ่อนเร้น ถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยทุจริต....
ทักษิณดัน นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาลที่เป็นคนสนิท ขึ้นมาดำรงค์ ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีรักษาการ... ทำให้ ครม กลายเป็น ครม.เถื่อนที่ไม่มีอำนาจบริหาร เพราะนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล ไม่ได้เป็น สส. และไม่ได้มาจากมาตรา 7
ที่มาในการยึดอำนาจจาก นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ท้้งนี้ บิฺ๊กตู่ไม่ได้ยึดอำนาจจาก ยิ่งลักษณ์ เพราะยิ่งลักษณ์ถูกคำสั่งศาลให้พ้นจากอำนาจ เพราะใช้อำนาจในทางมิชอบในการแต่งตั้งพี่เขยของตนเองเป็น ผบ ตร ด้วยการเขี่ยนาย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งโดยมิชอบ
ใช้อำนาจที่มี ในการต้มตุ๋นชาติ ภายใต้โครงการ รับจำนำข้าว จนสามารถปล้นชาติ ไปได้ ประมาณ 7.5 แสนล้านบาทของยิ่งลักษณ์และพวก
เงินมหาศาล ที่ไหลออกนอกประเทศ ทำลายฐานเศรษฐกิจไทยในยุคถัดมา