เมื่อคริปโตถูกนำใช้เพื่องานศิลปะ เราจะเรียกกันว่า NFT     หลักการทำงานค่อนข้างตรงไปตรงมาคือ หากส่องสำรวจลงไปในชิ้นงานแล้ว เราจะสามารถรู้ได้ว่าชิ้นงานนั้น ๆ เป็นชิ้นงานแท้หรือไม่ โดยสำรวจได้จากลายผืนผ้าที่ผลงานได้จารึกลงไป    ผลงานชิ้นที่แท้จะปรากฏข้อมูลยืนยันทางดิจิทัลแสดงให้เห็นว่าผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นที่แท้    โดยสำหรับผลงานชิ้นที่ทำสำเนา ไม่ว่าจะมีการกระทำในความพยายามในการทำซ้ำอย่างไร ในตอนท้าย ก็มิอาจจะทำซ้ำอัตลักษณ์ของผลงานชิ้นจริงได้ และนั้นทำให้ศิลปะและวงการนักสะสมได้กลับมาอีกครั้งอย่างสง่างาม    NFT ผืนผ้าใบไม่ได้รองรับงานสร้างสรรค์งานภาพวาดเท่านั้น แต่เป็นงานใด ๆ ก็ตามที่ได้ทำการจารึกลงบนผืนผ้าใบ NFT ต่างก็ได้รับความเป็นเอกลักษณ์กลับคืนมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นงานประพันธ์ งานเพลง หรืองานแสดงก็ตาม

สำหรับงานเพลงที่ได้สร้างสรรค์ผลผืนผ้าใบ NFT เราจะเรียกกันว่า Sound Canvas หรือผืนผ้าใบแห่งเสียงเพลง เช่นเดียวกัน หากเป็นงานภาพยนตร์ หากได้รับการจารึกลงบนฟิล์ม NFT เราก็จะเรียกว่า Film Canvas หรือคริปโตฟิล์ม จะเห็นได้ว่าด้วยความเป็นอัตลักษณ์ที่ได้กล่าวมา ทำให้ศิลปินรู้ได้ว่าผลงานของพวกเข้าได้เคลื่อนย้ายไปอยู่ ณ แห่งหนใด และใครกำลังเป็นผู้อุปถัมภ์งานของพวกเขาอยู่    เมื่อเป็นอย่างนั้น สายสัมพันธ์ก็ย่อมบังเกิด    ความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินและผู้อุปถัมภ์งานได้ถูกทำให้กลับคืนมาอีกครั้ง หลังจากที่ความสัมพันธ์นั้นได้ตายจากพวกเราไปเป็นเวลาเกือบ 30 ปี

"ผ่านผืนผ้าใบ NFT ความฝัน ความคิด และจิตวิญญาณอันแรงกล้าของเหล่าศิลปิน บัดนี้ได้ถูกจารึกเอาไว้ในชิ้นงานอีกครั้ง เพื่อให้พร้อมเป็นพลัง เป็นความหวัง และเป็นเครื่องย้ำเตือนให้แก่ผู้อุปถัมภ์ ครอบครอง"

Hana by Khun-in To-Sanga