ปีนี้ เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นบน Platform Social Media นั่นก็คือ การจากไปของผู้ผลิต Content หลาย ๆ คน เราเริ่มเห็นถึงความเหนื่อยล้าจากความทุ่มเทที่ไร้ปลายทาง เราเริ่มเห็นความพยายยามไม่ที่มีผลลัพธ์ ท่ามกลางความท้อแท้นี้ เชื่อหรือไม่ว่าไม่มีอะไรไม่มีที่มา วันนี้ UWP ขอนำเสนอที่มาของปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อที่จะได้เป็นแนวทางให้เพื่อน ๆ นักผลิต Content ได้ตระหนักรู้ว่าอะไรกันคือหุบเหวที่รออยู่ข้างหน้า การรู้ดีกว่าการไม่รู้ เพราะอย่างน้อยที่สุด เราจะได้เห็นความจริงว่า เราจะต้องทำอะไรต่อไปอย่างไร สำหรับวันนี้เสนอตอน 2024 การเดินทางจากสื่อใหม่สู่สื่อเก่า
ขอเล่าให้ฟังอย่างนี้ครับว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, YouTube และอื่นๆ ได้ปฏิวัติวิธีที่เราสื่อสาร แบ่งปันข้อมูล และบริโภคเนื้อหา แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็น Platform ที่มีความเป็น Viral สูง แปลว่า ใครดี ใครได้ ใครผลิต Content ดี ๆ เจ๋ง ๆ ก็ย่อมจะได้ยอด Follow ที่สูง ๆ ขึ้น ๆ ไป เป็นอะไรที่เป็นประชาธิปไตย โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง แต่เชื่อหรือไม่ว่า เมื่อมันเติบโตถึงจุดหนึ่ง เมื่อผู้ผลิต Content มีจำนวนมากขึ้น หลักการคัดสรรค์ตามธรรมชาติก็จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ เราเริ่มจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างความแปลกใจได้ไม่น้อย แทนที่ผู้ผลิต Content จะสามารถสร้าง Content ได้อย่างมีความสุข มีอิสระตามใจ ทำได้ด้วยความสบาย ๆ ไม่ยากเข็ญ ในทางตรงกันข้าม ผู้ผลิต Content กลับต้องทำงานหนักมากขึ้น ทำงานเป็นระบบ คิดหนักเพื่อสร้าง Content ที่มีคุณภาพที่สูงเพื่อการแข็งขันระหว่างผู้ผลิต Content ด้วยกัน ด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมา ทำให้ในที่สุด Social Media จะเริ่มดูมีลักษณะคล้ายกับสื่อกระจายเสียงแบบเก่ามากขึ้นไปโดยปริยาย การเปลี่ยนแปลงนี้ท้าทายแนวคิดดั้งเดิมของความเป็นโซเชียลมีเดียที่เน้นย้ำถึงการแสดงออกที่ดิบและเน้นที่ความเป็นเนื้อแท้ ไม่ปั้นปรุ่งแต่งเติม
สิ่งดึงดูดใจหลักประการหนึ่งของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในยุคแรก ๆ คือความสามารถในการสร้างเนื้อหาที่เป็นเสียงของผู้คน เป็นเสียงของความเป็นประชาธิปไตย แนวคิดตั้งต้น ถ้าใครยังจำมันได้ก็คือ ถ้าใครก็ตามที่มีสมาร์ทโฟนและสามารถที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ก็จะสามารถที่จะเป็นผู้สร้างเนื้อหาได้ พวกเขาสามารถแบ่งปันความคิด บอกเล่าประสบการณ์ และแสดงความสามารถของพวกเขากับคนทั้งโลกได้ Social แบบที่เราจำได้ก็คือ Social Media ที่มีเน้นหาเน้นที่ความถูกต้อง มีความเป็นธรรมชาติ และสามารถเขาถึงจิตวิญญาณ เชื่อมโยงกันในระดับส่วนบุคคล
อย่างไรก็ตาม ผ่านกาลเวลาไป เมื่อโซเชียลมีเดียพัฒนาขึ้น ผู้สร้างเนื้อหาก็เริ่มตระหนักถึงประโยชน์ได้รับจากการผลิต Content ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ความปรารถนาที่จะเพิ่มการมองเห็น มีผู้ติดตาม และมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ก็เริ่มเข้ามาสู่ใจของผู้ผลิต Content สิ่งเหล่านี้นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ มันทำให้ผู้ผลิต Content เริ่มมองหาการสร้าง Content ที่สวยงามและเป็นมืออาชีพมากขึ้น Content Creator เริ่มลงทุนในอุปกรณ์ที่ดีขึ้น มีการใช้เทคนิกการตัดต่อที่ล้ำสมัย และมีแม้แต่การจ้างทีมผู้ผลิตมืออาชีพมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลงาน
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ก็คือ แพลตฟอร์มอย่าง TikTok และ YouTube ได้กลายเป็นแหล่งรวมสำหรับการสร้างสรรค์เนื้อหาด้วยคุณภาพระดับภาพยนตร์ ทุกวันนี้เราจะพบได้ทั่ว ๆ ไปไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์สั้น มิวสิกวิดีโอ และ vlog คุณภาพสูงที่ได้รับการผลิตด้วยความใส่ใจในรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ หากมองดี ๆ มันก็มีคุณภาพซึ่งทัดเทียมหรืออาจจะสูงกว่าสื่อเก่าเสียด้วยซ้ำกับมาตรฐานการผลิตของสื่อกระจายภาพและเสียงแบบสื่อ Mass Media แบบเดิม ๆ ที่เคย ๆ เป็นมา ธรรมชาติของโซเชียลมีเดียที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น Production ระดับรากหญ้า ในวันนี้มันไม่ใช่รากหญ้าอีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นต้นไม่ใหญ่ มันได้เปิดประตูและใช้โอกาสที่มีเดินทางสู่โลกใหม่ โลกใบเดิม โลกที่ใช้ความคิด ใช้เวลา ใช้ความวิริยะ อุตสาหะในการสร้าง Content ที่มีความประณีต สะท้อนความสวยงามของโทรทัศน์และภาพยนตร์แบบเดิม ๆ ไปเสียแล้วโดยปริยาย
อยากให้ลองสังเกตุดูดี ๆ ว่า ความชัดเจนในการเปลี่ยนถ่ายจากโลกใหม่สู่โลกเก่ามันชัดเจนขึ้นแค่ไหน โดยเราสามารถสังเกตุได้จาก VDO ที่เคยมีความเป็นธรรมชาติสูงสุด อย่างเช่นการฝึกสอนการแต่งหน้าหรือการการสเก็ตช์ภาพเป็นต้น มันเคยเป็นอะไรที่ Organic และดูจริงมาก ๆ แต่ก็อย่างที่เห็น ปัจจุบันมันก็ไม่ใช้อย่างนั้นแล้วอีกต่อไป ซึ่งครีเอเตอร์ต่างพากันใช้การจัดแสง ใช้อุปกรณ์เสียง และมีการใช้เทคนิคการตัดต่อระดับมืออาชีพด้วยกันทั้งสิ้น ที่น่าสนใจที่สุดก็คือการแสวงหาความสมบูรณ์แบบไม่เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบการผลิตและเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ที่ปรากฏเท่านั้น แต่มันยังมีอิทธิพลต่อการสร้าง “เนื้อหาสาระ” ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องนี้เองที่เป็นหัวใจของการสร้าง Content เรียกได้ว่า ปัจจุบัน Content ที่เรากำลังได้รับฟังรับชมอยู่ แทบจะไม่เหลือความเป็นเค้าโครงเดิมของความเป็นสื่อใหม่อยู่เลย
เมื่อ Influencer หรือ KOL ในโซเชียลมีเดียเริ่มสะสมผู้ติดตามจำนวนมาก โอกาสในการสร้างรายได้ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างเท่าทวีคูณ แบรนด์และผู้โฆษณาที่สังเกตเห็นสิ่งนี้จะต่างพากันตบเท้าเข้ามาเพื่อสร้าง Deal หรือความร่วมมือระหว่างผู้สร้างเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการ Sponsoring หรือที่เรารู้จักกันภายใต้คำว่าผู้การสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เป็นเหมือนการเอากองไปมาใกล้เชื้อเพลิง การแสวงหาข้อตกลงกับแบรนด์ที่ย่อมสร้างกำไร และกำไรที่มีก็จะถูกนำไปลงทุนในอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้สร้างสามารถที่จะสร้างมูลค่าการผลิตเนื้อหาของตนให้สูงขึ้นได้ จนในที่สุด ภาพที่ปรากฏก็คือ ภาพที่ออกมาดูดี เป็นมืออาชีพ มีการจัด Script ปั่นแต่งเนื้อหา จนสุดท้าย สื่อใหม่ที่ผ่านการจัดคุณภาพ ก็จะได้กลายเป็นสื่อเก่าแบบดั้งเดิมไปในที่สุด มันก็ตลกดีนะครับ
ถ้าถามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มาจาก Content Creator ไหม ตอบแลยว่าไม่ทั้งหมด เพราะมันยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำงานอยู่เบื่องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ ใช่แล้วครับ การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีปัจจัยหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยปัจจัยใหญ่ที่สุดที่ว่านั้นก็คือ ตัว Platform เอง โดยตัวแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเองที่แหล่ะที่เป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด ด้วยอัลกอริทึมแบบ Auto Feed ที่ลำเอียง มีอคติ ส่งเสริมเนื้อหาผ่านจำนวน Engage ของผู้ชมและผ่านพฤติกรรมที่ระบบได้เก็บสะสมเอาไว้ Platform จะนำส่ง Content ที่มีศักยภาพในการขายสินค้ามาให้กับผู้ชมโดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอน Content ที่จะได้รับการสนับสนุนก็จะต้องเป็นวิดีโอคุณภาพสูงและดึงดูดสายตา อีกทั้งยังส่งเสริมต้องส่งเสริมการขาย สร้างรายได้ให้นักลงทุนของ Platform ด้วย ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของการเดินทางสู่โลกเก่าก็คือตัว Platform นั่นเอง
ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้
ทั้งนี้ แม้ว่าการวิวัฒนาการจาก Content บ้าน ๆ ไปสู่มูลการมี Content ที่มีมูลค่ามันได้เกิดขึ้นแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ก็ยังทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้ สิ่งที่น่ากังวลก็คือ การเปลี่ยนแปลงไปสู่สุนทรียศาสตร์ที่สวยงามยิ่งขึ้นอาจส่งผลให้เกิดความรู้สึกไม่น่าเชื่อถือโดยไม่ได้ตั้งใจ และทำให้ผู้สร้างเนื้อหาที่มี Ego เริ่มฉีกขาด ดีดตัวออกจากผู้ชม
ผู้ชมที่คุ้นเคยกับธรรมชาติของโซเชียลมีเดียยุคแรก ๆ ที่ดิบและไม่มีการขัดเกลา กลั่นกรองอาจเริ่มรู้ตัวแล้วก็ได้ว่าตนเองกำลังอยู่ท่างกลางเนื้อหาที่ปั่นแต่งโดย Creator และถูกยัดเยียดผ่าน Platform ความเป็นธรรมชาติและความสัมพันธ์ที่เป็นเสน่ห์เริ่มต้นของโซเชียลมีเดียกำลังถูกบดบังด้วยการแสวงหารายได้และความสมบูรณ์แบบ
โดยสรุป วิวัฒนาการของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมุ่งไปสู่มูลค่าการผลิตที่สูงขึ้น มันเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการออกจากจุดกำเนิดที่สำคัญ ออกจากจุดเริ่มต้น ออกจากความหวังที่ต้องการหาความถูกต้องและความเป็นธรรมชาติ TikTok, YouTube และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ต่างพากันกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้สร้างเนื้อหาใช้เทคนิคการผลิตในระดับมืออาชีพ ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้เส้นแบ่งระหว่างความเป็นสื่อใหม่อย่างโซเชียลมีเดียและสื่อเก่าอย่าง TV งานโฆษณา และภาพยนตร์เริ่มเจือจาง เบาบางลง แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะนำมาซึ่งยุคใหม่ ยุคที่เนื้อหามีความสวยงามและน่าดึงดูดอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันก็ยังเป็นการกระตุ้นให้เราได้ฉุกคิด ไตร่ตรองถึงความเปลี่ยนแปลงของการสื่อสารออนไลน์ทีมีผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ไปในคราวเดียวกัน สุดท้ายก็คือ ความท้าทายสำหรับ Content Creator อยู่ที่การสร้างสมดุลระหว่างการแสวงหาผลกำไรและการรักษาความสัมพันธ์ส่วนตัวที่แท้ สมดุลย์ระหว่างสองสิ่งนี้เองที่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของสื่ออย่างแท้จริง