ในโลกอันกว้างใหญ่ของอินเทอร์เน็ต ที่ซึ่งข้อมูลไหลเวียนได้อย่างอิสระและความสนใจเป็นสินค้าที่มีค่า ปรากฏการณ์คลิกเบทจึงได้ถือกำเนิดเกิดขึ้น มันเป็นทั้งพรและเป็นทั้งทำสาป จริง ๆ แล้ว คลิกเบทเป็นกลยุทธ์ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อเป็นเหยื่อล่อให้ผู้ใช้ “คลิก” ด้วยการใช้หัวข้อที่กระตุ้น กระตุก ให้ความรู้สึกตื่นเต้น มีการใช้รูปภาพที่ท้าทาย และให้คำอธิบายที่หลอกลวง ในขณะที่คลิกเบทที่ไร้พิษอย่างที่ได้กล่าวมาอาจเป็นเพียงอาหารการเสียเวลา คลิกเบทพิษนั้นถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรง น่ากลัว มันอันตรายต่อความน่าเชื่อถือของการสนทนาออนไลน์และสวัสดิภาพของบุคคลรวมไปถึงชุมชนเลยทีเดียว
คลิกเบทพิษ แตกต่างจากคลิกเบทธรรมดา (ซึ่งเดิมทีก็แย่อยู่แล้ว) ตรงที่มันไปไกลกว่าการกระตุ้นความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่คลิกเบทพิษพวกนี้ยังพาผู้คนจมลงไปในสิ่งที่เรียกว่า “ข้อมูลเท็จ” “การแสวงประโยชน์” และ “การหลอกลวง” ด้วย มันฉวยโอกาสจากความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของเรา มันจะเข้าแสวงผลประโยชน์จากจุดอ่อน และเผยแพร่เรื่องราวที่เป็นอันตรายภายใต้หน้ากากของการมีส่วนร่วมในตอนท้าย การหลอกลวงทางข้อมูล ซึ่งเป็นสารอาหารหลักของคลิกเบทพิษ เมื่อได้แพร่เข้าสู่โลกดิจิทัล มันจะทำให้สมองของผู้เสพเป็นพิษและถูกบิดเบือนออกไปจากความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด ค่านิยมที่ผิดศิลธรรม จรรยาบรรญแปลก ๆ การเผยแพร่ข้อมูลด้านสุขภาพที่เป็นเท็จ หรือการบิดเบือนการสนทนาด้านการเมือง คลิกเบทพิษนับได้ว่าเป็นเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่ถูกนำมาใช้เพื่อการหว่านเมล็ดแห่งความขัดแย้ง สับสน และแตกแยก
นอกจากนี้ลักษณะที่ได้กล่าวมา คลิกเบทพิษจะเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้นเมื่อมีสิ่งล่อใจ มีการแสวงประโยชน์จากบุคคล และปลุกปั่นชุมชนที่เปราะบาง ตั้งแต่การนำเสนอเรื่องราวร้ายแรงส่วนตัวให้กลายเป็นที่สนใจ ไปจนถึงการเข้าจู่โจมเป้าหมายกลุ่มชนชายขอบด้วยการใช้ Covert Agression เช่น เพื่อประชดประชันหรือการกล่าวโทษ เป็นต้น คลิกเบทพิษจะหากินจากความทุกข์ยากของผู้อื่นเพื่อหวังคลิกและวิว การกระทำนี้ได้ทำให้วงจรการแสวงประโยชน์ด้วย Content ต่ำตม ละเมิดหลักศีลธรรมจรรยาต่าง ๆ และทำให้ความไร้ความเป็นมนุษย์ดำเนินต่อไป คลิกเบทพิษคือตัวการสำคัญที่เข้ามากัดกร่อนความเห็นอกเห็นใจและความเมตตาของผู้คนในโลกออนไลน์
การส่งเสริมการ Bully ด้วยวาจาคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ มันเป็นลักษณะอีกประการหนึ่งที่น่ากลัวของคลิกเบทพิษ Toxic Clickbait จะซ่อนกายอยู่ภายใต้หน้ากากของการใช้สิทธิ เสรีภาพในการพูดผ่านเนื้อหาที่ท้าทาย แพลตฟอร์มคลิกเบทพิษมักเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ความเป็นอคติและความคิดหัวรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นผ่านวาทกรรมที่กระตุ้นความแตกแยก การมุ่งเน้นประเด็นของการถูกเลือกปฏิบัติ หรือการคุกคามเป้าหมาย เมื่อรุนแรงขึ้น มันก็ย่อมสร้างไฟแห่งความขัดแย้งและฝังความโกรธแค้น เกลียดชังในใจของผู้คน ส่งเสริมวัฒนธรรมของความรุนแรงออนไลน์ ความชอบธรรมที่จะตั้งตนเป็นปรปักษ์ผ่าน Toxic Clickbait เหล่านี้
นอกจากนี้ คลิกเบทพิษยังแพร่กระจายไปได้ไกลภายใต้ความตื่นตระหนก ตกใจ ครอบงำทางอารมณ์ของผู้ชม และกระตุ้นการมีส่วนร่วม Toxic Clickbait ทำได้โดยการนำเสนอภาพที่รุนแรง การใช้หัวข้อที่กระตุ้นอารมณ์ และเทคนิคการเล่าเรื่องที่คลุมเครือแบบตรรกวิบัติ คลิกเบทพิษแสวงประโยชน์จากสัญชาตญาณพื้นฐานและจุดอ่อนทางอารมณ์ของเรา ทำให้เราสูญเสียความมันใจในการตัดสินใจ สร้างความสงสัยในตนเอง ทำให้เราคิดมาก ขาดความเป็นเนื้อแท้ต่อการตอบสนองต่อสิ่งเร้าหรือข้อมูลที่เกิดขึ้น
การเผชิญหน้ากับการรุกรานของคลิกเบทพิษ เป็นสิ่งสำคัญที่เรา ในฐานะพลเมืองดิจิทัล จะต้องระมัดระวังและใช้วิจารณญาณ เราต้องเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์และการรู้เท่าทันสื่อ เพื่อแยกแยะข้อเท็จจริงจากเรื่องแต่ง ระบุแยกให้ได้ระหว่างความจริงหรือมันคือการโฆษณาชวนเชื่อ เราต้องเรียกร้องให้แพลตฟอร์มดิจิทัลรวมถึงผู้สร้างเนื้อหาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนในการส่งเสริมและสร้างคลิกเบทพิษ เราควรจะเรียกร้องความโปร่งใสและมาตรฐานจริยธรรมมากขึ้นในการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ต่อสังคมวงกว้าง ย้ำอีกครั้ง เจ้าของ Platform เป็นอันดับแรก
สุดท้ายนี้ การต่อสู้กับคลิกเบทพิษคือความพยายามร่วมกันที่ต้องการความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกส่วน ทั้งปัจเจกบุคคล ชุมชน รัฐบาล และบริษัทเทคโนโลยีเช่นกัน โดยการส่งเสริมวัฒนธรรมของการมีส่วนร่วมออนไลน์อย่างมีความรับผิดชอบและส่งเสริมการให้ความรู้เพื่อการรู้เท่าทันโลกดิจิทัล เราสามารถหยุดยั้งคลื่นคลิกเบทพิษและส่งคืนอินเทอร์เน็ตที่เป็นพื้นที่สำหรับการสนทนาที่มีความหมาย มีความเห็นใจ และการเป็นโลกแห่งการเชื่อมโยงถึงกัน
สรุปแล้ว ผลกระทบของคลิกเบทพิษต่อชีวิตดิจิทัลของเราเป็นสิ่งที่เราไม่อาจมองข้ามได้ มันท้าทายความน่าเชื่อถือของข้อมูล มันแสวงประโยชน์จากความเปราะบางของบุคคลและชุมชน Toxic Clickbait ส่งเสริมการพูดกลั่นแกล้งและความหัวรุนแรง มันครอบงำสัญชาตญาณทางอารมณ์ของเราเพื่อให้เราเกิดความพึงพอใจโดยที่เราไม่เต็มใจ ในขณะที่เราเดินทางผ่านภัยคุกคามของการกระตุ้นความรู้สึกผ่านโลกออนไลน์ อยากให้เราคงความมุ่งมั่นในการยืนหยัดต่อความจริง ความเมตตา และการมีศีลธรรมที่ถูกต้อง เพื่อที่เราจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคลิกเบทพิษที่ล่อลวง เลวร้ายเหล่านี้ได้