ท่ามกลางเครือข่ายที่ซับซ้อนของผู้คน ความสามารถในการโต้ตอบและสื่อสารกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพเป็นทักษะพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ทักษะทางสังคมไม่ได้เป็นทักษะที่สามารถนิยามด้วยตัวเองได้ แต่มันหมายถึงกลุ่มความสามารถ หรือความสามารถหลาย ๆ อย่างที่ถูกรวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งความสามารถเหล่านั้นจะช่วยให้เราได้สามารถนำทาง (หรือที่เราเรียกว่า อยู่เป็น) ณ ท่ามกลางผู้คน ได้มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ และได้มีส่วนร่วมกับผู้อื่นอย่างกลมกลืน ลื่นไหล ทักษะเหล่านี้ ทั้งทางวาจาและทั้งทางอวัจนภาษา จำเป็นสำหรับการสร้างความสัมพันธ์ การสื่อสารระหว่างกันได้ด้วยดีจะช่วยให้เราได้มีความสบายใจในการปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ทางสังคม และยังช่วยให้เราได้สามารถที่จะจัดการกับความสัมพันธ์อันซับซ้อนได้ ที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนแต่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มันมีอยู่จริง กระบวนการเพื่อที่จะได้มาและฝึกฝนกลุ่มทักษะเหล่านี้เรียกมันว่า "Social Skill" ในบทความนี้ เราจะมาดูกันให้เห็นถึงความสำคัญของ Social Skill ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ประเภทต่าง ๆ และความสำคัญของทักษะเหล่านั้น
ก่อนอื่น อยากจะเจาะลึกลงไปในประเด็นของ Social Skill ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรกัน และรวมถึงประเภทของ Social ว่าจริง ๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่
อันแรกที่อยากเน้นย้ำกันก็คือ Social Skill คือการกระทำและพฤติกรรมที่บุคคลใช้เพื่อโต้ตอบกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ แตกต่างจากการเป็นคนดีย์ในอุดมคติ ระวังจะสับสนนะครับ การเป็นคนดี ไม่จะเป็นว่าจะต้องมีทักษะทางสังคมที่ดี และในทางกลับกัน การมีทักษะทางสังคมที่ดี ก็ไม่ได้ต้องการคนดีเช่นกัน Social Skill ที่แท้หมายถึงความสามารถในการสร้างสมดุลย์ของอารมณ์ระหว่างเราและ People ต่าง ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เรา (ซึ่งหากมีเวลา โอกาสต่อ ๆ ไปจะขอมาเล่าเรื่อง "สนามอารมณ์" ให้ฟัง) ความสมดุลของอารมณ์คืออะไร ก็ยกตัวอย่างง่าย ๆ ได้เช่น การครอบงำXการยอมจำนน ความรักXความเกลียดชัง ความผูกพันXความก้าวร้าว หรือการควบคุมXความเป็นอิสระ จะเห็นได้ว่าทุกอย่างล้วนมีขั้วตรงข้ามของมันเองด้วยกันทั้งสิ้น และการสร้าง Balance ระหว่างอารมณ์นี้เองก็ คือหัวใจของการมี Social Skill คิดดี ๆ จะเห็นได้ว่า Balance ของอารมณ์นี้เองที่จะเป็นเครื่องมือในการกำหนดวิธีที่เราได้มีความเกี่ยวข้องและได้สื่อสารกับผู้อื่น ซึ่งในตอนท้ายมันจะมีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อคุณภาพของสังคมที่ตัวเราอาศัยอยู่
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เราก็ย่อมจะเห็นได้แล้วว่า การมี Social Skill ที่ดีจะสามารถเอามาปรับใช้เพื่อให้ได้ผลทางเชิงบวก และหากใช้ไม่ดี มันก็อาจจะเกิดผลในเชิงลบก็เป็นไปได้ เอาเป็นว่าเรื่องเชิงลบเราขอละเอาไว้แป๊บ ในที่นี้เราจะมาพูดเรื่องเชิงบวกันก่อน
Social Skill เชิงบวก มักหมายถึง ความสามารถในการโน้มน้าวใจ การฟังอย่างกระตือรือร้น การมีภาวะผู้นำ และการเป็นผู้พิทักษ์ ปกป้อง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถที่จะสร้างและรักษาสายสัมพันธ์ระหว่าง People ได้เป็นอย่างดี อันที่ควรพัฒนาก็คือ ความสามารถในการใช้ Social Skill ได้ในยามวิกฤติ การใช้มันได้อย่างฉับไวในสถาณการณ์ Live หรืออะไรที่เป็นเรื่องหน้าสิ่วหน้าขวานได้อย่างมีไหวพริบก็เป็นความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ผมมักจะคิดง่าย ๆ ว่า ในสถานการณ์ด้นสด ทุกอย่างที่เกี่ยวกับผู้คนคือการชิงไหว ชิงพริบเสมอ นอกจากการตอบสนองอย่างฉับไวแล้ว อีกทักษะหนึ่งที่จะช่วยเสริม Social Skill ได้เป็นอย่างดีก็คือ "การฟังอย่างกระตือรือร้น" การฟังอย่างกระตือรือร้น มีความกระเหี้ยนกระหือรือ จะช่วยให้เราได้มีส่วนร่วมกับผู้อื่นอย่างแท้จริง เป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้าง Social Skill อยากให้ทุกคนได้รู้ว่า ก่อนที่เราจะพูดหรือแสดงอะไรออกไป ให้รับข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนเสมอ พูดง่าย ๆ ก็คือ Listen, then decide ครับ นอกจากนั้น เรายังสามารถเพิ่มขีดความสามารถของ Social Skill ได้ด้วยการใช้การเสริมความเข้าใจมากกว่าการต่อต้านหรือขัดขวาง ตลอดไปจนการแสดงความเห็นอกเห็นใจด้วย และถ้าไม่มากจนเกินไป หากสามารถที่จะตบท้ายด้วยการแสดงออกให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ (ในที่นี้ไม่ใช่ผู้นำเผด็จการ แต่หมายถึงเป็น "จุดยืน" ในแผนการต่าง ๆ) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการมอบหมายงาน การช่วยกระจายงานอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดไปจนถึงการโน้มน้าวใจ People ก็ล้วนแล้วแต่เป็น Cherry on top ที่สามารถจะสามารถ Social Skill ของเราให้มีความสวยงามได้เป็นอย่างดี
หลาย ๆ คนอาจจะถามว่า แล้วไม่มีได้ไหม ตอบได้เลยครับว่า ได้ Social Skill จะมีหรือไม่มีก็ได้ เพียงแต่ว่าต้องไม่สับสนนะครับว่า หากไม่มี Social Skill แล้วโลกนี้จะไม่เหลือดีอะไรเลย คิดกันไปถึงขนาดนั้นก็คงไม่ถูกต้องนัก อยากให้คิดว่า Social Skill เป็นเหมือนกับการตกแต่งทาสี จะไม่มีก็ได้ ถ้ามันก็ยังใช้งานได้อยู่ก็ OK... แล้วกระนั้น Social Skill มีประโยชน์อย่างไร แล้วถ้ามี มันจะดีกว่าไม่มี หรือไม่ อย่างไร
อยากจะเล่าให้ฟังอย่างนี้ครับว่า
Social Skill มีส่วนช่วยในชีวิตของเราหลายด้าน ตั้งแต่ความสัมพันธ์ส่วนตัว ไปตลอดจนถึงความสำเร็จทางสายงานอาชีพ Social Skill ช่วยให้เราสามารถที่จะสื่อสารระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น การขอความช่วยเหลือ การผูกมิตรไมตรี ตลอดไปจกถึงการสร้างสุขภาวะทางความสัมพันธ์อันดี นอกจากนี้ Social Skill ก็ยังมีคุณประโยชน์ต่อยอดไปได้อีก Social Skill ส่งผลต่อ People ได้ เช่น การสร้างความน่าเชื่อถือ การให้ความเคารพ การมีความรับผิดชอบ การให้ความเป็นธรรม การแสดงออกถึงความเอาใจใส่ และความยังสามารถส่งผลต่อความเป็นพลเมืองที่ดีได้ด้วย นอกจากนั้น ประโยชน์ของ Social Skill ไม่ได้มีดีเพียงแค่การประคอง People เท่านั้น แต่มันยังส่งผลกลับ สร้างผลดีต่อที่ข้างในของเราด้วย ด้วยการมี Social Skill ที่ดี การมีลักษณะอย่างที่ได้กล่าวมา ในตอนท้าย สิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยในการสร้างเข็มทิศทางศีลธรรมภายใน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันอย่างหรูหราว่า Moral Compass ที่มันจะช่วยนำทางเราไปสู่การตัดสินใจทางจริยธรรมในความคิดและเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมอันพึงประสงค์ของพวกเราด้วย
Social Skill ในที่ทำงาน เป็นทักษะที่มีความสิ่งสำคัญยิ่ง หลาย ๆ บริษัทระบุมาเลยว่า Social Skill เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับความสำเร็จ Social Skill สำหรับที่ทำงานจะช่วยให้หลายอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลต่อผลผลิตให้เห็นได้อย่างชัดเจน Work Place Social Skill มันจะพูดถึงสิ่งเหล่านี้ ได้แก่ การประสานงานกัน การให้คำปรึกษา การเจรจาต่อรอง การโน้มน้าวใจ การวางแผนการให้บริการ และการตระหนักรู้เราเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสังคม ผลลัพธ์ของการมี Work Place Social Skill ที่ดีจะช่วยให้แต่ละบุคคลสามารถทำงานร่วมกันกลมเกลียว แก้ไขข้อขัดแย้ง สร้างสายสัมพันธ์ และสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกสำหรับการทำงาน
ทีนี้ เราจะไปดูกันบ้างว่า หากขาด หรือบกพร้องทาง Social Skill แล้ว อะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง
การขาดทักษะทางสังคมอาจส่งผลให้เกิดความอึดอัดใจ และขัดขวางการเติบโตทั้งในระดับปัจเจกไปจนถึงระดับสายการงานอาชีพ เช่นเดียวกันกับการสร้าง การขาดทักษะทางสังคมอาจจะเกิดจากหลากหลายต้นตอ เช่น ความล้มเหลวในการรับรู้และการแสดงออกของ Social Skill การแสดงของบทบาทที่ไม่เพียงพอ รวมถึงความยากลำบากในการแสดงพฤติกรรมที่สังคมยอมรับได้ โดยส่วนใหญ่ความบกพร่องไม่อาจจะแก้ได้โดยง่ายเพราะความบกพร่องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมานานแสนนาน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดในช่วงการพัฒนาการตั้งแต่ยังเล็ก ไปจนถึงระยะวัยรุ่น หรือมันอาจจะคือบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่าการเปลี่ยนผ่านที่ไม่ได้รับการจัดการกันเป็นอย่างดีกับเหตุการณ์ที่รุนแรงที่เกิดขึ้นในชีวิต
ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ ปัจจัยที่ก่อเกิด การขาด Social Skill ไม่ได้มาจากปัจจัยจากภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่พฤติกรรมบางอย่างยังสามารถที่จะเปิดประตู (หรือ Gate Way) นำไปสู่ความบกพร่องทาง Social Skill ทั้งในระดับพฤติกรรมกรีดลึกลงไปจนถึงระดับจิตใจได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น คนที่ติดเหล้าหรือยามักมีภาวะของความบกพร่องด้าน Social Skill เนื่องจากพิษของสุราที่ได้ส่งผลต่อระบบประสาทและทำสาย Cell ในสมอง หรือบุคคลที่เป็นโรคสมาธิสั้น ADHD รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะอาการอยู่ไม่นิ่ง (Hyperactive) ก็อาจเผชิญกับความยากลำบากในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ซึ่งนำไปสู่การถูกปฏิเสธจากคนรอบข้างและอาจเผชิญกับความท้าทายทางสังคมในระยะยาว นอกจากนี้ ก็ยังมีบุคคลในกลุ่มออทิสติกที่จะต้องเผชิญชะตากรรมที่ยากลำบากเช่นเดียวกัน เช่น ผู้ที่เป็นออทิสติก โดยเฉพาะกลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ มักจะต้องเผชิญกันภาวะความบกพร่องทางสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นบุคคลแปลกประหลาด เป็นตัวตลก เป็นต้น
และเพราะความบกพร่องที่ภายในมันเป็น Gate Way (ซึ่งในนิยามหมายถึง มันสามารถที่จะนำไปสู่ความซับซ้อนต่อเนื่องต่อไป) การขาด Social Skill จะนำไปสู่ความหวาดวิตกทางสังคม กระทั่งนำเข้าสู่ภาวะซึมเศร้าได้ ซึ่งสภาวะแบบนี้ ภายใต้แรงกดทับและการขาดการดูแลอย่างเหมาสมสามารถนำไปสู่การหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมได้ ส่งผลให้เกิดวงจรอุบาทว์เชิงลบ ซึ่งการขาดการเข้าสังคมหรือการถูกปฏิเสธนี่เองที่จะทำให้เกิดเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิตรุนแรงยิ่งขึ้นต่อไปในตอนท้าย
บทสรุป
Social Skill เป็นรากฐานของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่กลมกลืน และส่งเสริมการเติบโตของเรา การมีทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางสังคมที่ดี มีความหลากหลายจะช่วยให้เราสามารถที่จะโต้ตอบและมีส่วนร่วมกับ People ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะความสัมพันธ์ระหว่าง People เชิงบวกมีความสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิตส่วนตัวและทางการงานอาชีพ เนื่องจากทักษะเหล่านี้เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน การแก้ไขข้อขัดแย้ง ยังเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมทางสังคมอันน่าพึงประสงค์ได้ด้วย
ที่ควรจะตระหนักรู้ก็คือ เราต้องตระหนักว่า การขาดทักษะทางสังคมสามารถนำไปสู่ความท้าทายต่าง ๆ ตั้งแต่ความยากลำบากในการสร้างมิตรภาพตลอดไปจนถึงผลที่จะตามมาในระยะยาว เช่น ภาวะโรคซึมเศร้าและภาวะการแยกตัวออกจากสังคม การจัดการกับความบกพร่องเหล่านี้มีความสำคัญต่อการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ที่กำลังประสพปัญหา สำหรับเรา เราคงยังต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับ Social Dynamic ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างผันผวนตลอดเวลา การมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างและ People การเพาะบ่มและการเพิ่มพูน Social Skill จะยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสังคมที่เจริญรุ่งเรืองตลอดมาและตลอดไป