บรรดาโรงละคร โรงมหรสพในที่ต่าง ๆ บนโลกนี้ล้วนถูกเติมเต็มด้วยบทกวี ท่วงทำนอง งานศิลปะ และการแสดงในรูปแบบต่าง ๆ มากมาย    เรื่องราวร่ำร้องขับขานที่ถ่ายทอดออกมาล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่อาจจะเคยเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่ง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง    แม้จะไม่ทั้งหมด แต่เรื่องราวเหล่านั้นที่เกิดขึ้นเหล่านั้น สุดท้าย ก็ได้ถูกถ่ายทอดร้อยเรื่องราวโดยศิลปินและจิตกรแห่งงานศิลป์เพื่อบอกกล่าวเล่าเรื่องราวผ่านการแสดงต่าง ๆ เพื่อให้เรื่องราวเหล่านั้นเป็นที่จดจำ ตราตรึง และได้เป็นที่รักในหัวใจของผู้คนที่มาดูเสมอมา    ตั้งแต่โรงละคร The Ambassador Theatre ใน New York ไปจนถึงอีสตั้นบูลอันเป็นที่ตั้งของศูนย์ศิลปะ Zorlu Center ตั้งแต่ผืนทะเลเมดิเตอเรเนียน ไปยังลุ่มน้ำไทกริส-ยูเฟคริส ไล่มาจนพระราชวัง Grand Kremlin ไปจรดจนเรื่องราวของ The Forbidden City ที่ขับขานโดยอุปรากรจีน    เรื่องราวของวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าต่าง ๆ บนโลกนี้ต่างได้ถูกร้อยเรียงถ่ายทอดออกไปสู่หัวใจของชาวโลกด้วยกันแล้วทั้งสิ้น การถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ที่กล่าวมาล้วนเป็นไปได้ด้วยการผสานความเป็นเอกลักษณ์ของชาติเผ่ากับความเป็นสากลดนตรี ในที่สุดเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกด้วยกันทั้งสิ้น    คำถามสุดท้ายสำหรับเราชาวไทยคือ "เราได้ทำให้เรื่องราวของเราเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้อย่างแท้จริงแล้วหรือยัง ?" เพราะหากเราทำให้เรื่องราวของเราให้ได้เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกได้ นั่นก็หมายความว่าความเป็นไทยก็จะกลายเป็นสิ่งที่ถาวร มีความเป็น "อมตะ" อยู่เหนือกาลเวลาได้