ต้นกำเนิดการทำหม้อห้อม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาช้านาน หลายชั่วอายุคน และเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดแพร่ จนได้รับการคัดเลือกเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโอทอปเชิงหัตถกรรม และยังมีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยคำอธิบายการทำ "หม้อห้อม" ของนางเหลือง ทองสุข วัย 73 ปี ที่สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษ ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในหมู่บ้านทุ่งโฮ้ง จังหวัดแพร่แห่งนี้ โดยนางเหลือง เล่าว่า เราต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกต้นคราม เพื่อให้ได้สีคราม ก่อนจะนำไปใช้ย้อมผ้าในรูปแบบต่างๆหลังจากเตรียมน้ำหม้อห้อมได้แล้ว ต่อไปก็คือขั้นตอนวิธีการยอม อันดับแรกควรใส่ถุงมือก่อนย้อม เพื่อไม่ให้สีครามนั้นติดมือ การย้อมนั้นต้องนำผ้าทอ หรือผ้าดิบ ที่ตัดตามรูปแบบที่ต้องการ แล้วนำมาใส่ลงไปในตะกร้า ที่ทำมาจากไม้ไผ่สาน มีลักษณะขนาดของรูที่มีความกว้าง และห่างค่อนข้างมาก แล้วนำลงไปย้อมในโอ่งที่เตรียมน้ำหม้อห้อมไว้เรียบร้อยแล้ว ควรย้อมอย่างน้อยประมาณ 2–3 ครั้ง เพื่อให้ได้สีที่สวยตามที่ต้องการ ซึ่งในแต่ละครั้งต้องนำไปตากให้แห้งก่อน แล้วค่อยนำกลับมายอมใหม่ วิธีการตากก็ต้องมีเทคนิคและขั้นตอนที่แตกต่างกันไปเพื่อคงความสวยงามของลวดลายบนผืนผ้า ขั้นตอนการพิมพ์ลายเขียนเทียน ซึ่งลายนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว และยังเป็นสินค้าที่จำหน่ายอยู่ในดิวตี้ฟรีช็อป ที่สนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย นางสาวพรรณี ทองสุข ลูกสาวผู้สืบทอดภูมิปัญญาการทำหม้อห้อมมาเกือบ 20ปี เล่าว่า ตัวเองเป็นผู้คิดค้นลายเขียนเทียน ซึ่งนำลวดลายเหล่านั้นมาประทับบนผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าพันคอ ที่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ดีทีเดียว
นอกจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาช้านานจากรุ่นสู่รุ่นแล้ว บ้านทุ่งโฮ้งยังมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสำหรับบริการให้ข้อมูล และเอกสารแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงยังเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าโอทอปภายในหมู่บ้านอีกด้วย จนกลายเป็นหมู่บ้านเชิงหัตถกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถ แวะเข้ามาชมกระบวนการผลิตผ้าหม้อห้อมได้ทุกขั้นตอน และสามารถเลือกซื้อได้โดยตรงจากชาวบ้าน ตลอดจนมีสถานที่สไตล์โฮมสเตย์ ไว้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่จังหวัดน่าน นี่แหละคะความสวยงามของจังหวัดแพร่ ที่มีมูลค่ามากกว่าทางผ่าน
ป้าเหงี่ยม คุณประภาพรรณ ศรีตรัย หัวหน้ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนหม้อห้อมทุ่งเจริญย้อมสีธรรมชาติ ผู้ถ่ายทอดวิธีการย้อมผ้าหม้อห้อมให้เด็กๆ บอกว่าการย้อมห้อมต้องมีวิธีการละเอียดราวกับห้อมเป็นสิ่งมีชีวิต จากใบห้อมและใบครามสีเขียวๆ ต้องนำทั้งกิ่งและใบมามัดแช่น้ำเปล่าไว้สามวัน เมื่อแช่ครบแล้ว นำกากต้นห้อมออก นำน้ำปูนขาว น้ำมะขามเปียก น้ำซาวข้าวมาผสมรวมกัน ส่วนผสมเหล่านี้ให้ความเป็น กรดด่างต่างกันอย่างลงตัว เป็นอีกภูมิปัญญาที่น่าค้นหา
ก่อนจะนำห้อมเปียกไปใช้ต้องทำการผสมก่อน โดยกวนน้ำด่างเข้มข้นกับเนื้อห้อมหรือเนื้อครามเปียกให้เข้ากัน เติมน้ำซาวข้าว ปูนขาว และน้ำมะขามเปียกลงไป กวนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน ประมาณ 30-40 นาที หรือจนกระทั่งเกิดฟองสีน้ำเงินเข้ม ตั้งทิ้งไว้และล้างทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จนกระทั่งค่า pH ของน้ำย้อมลดลงเหลือ 10.0 – 10.5 โดยที่น้ำย้อมจะต้องมีสีน้ำเงินเข้มและมีตะกอนสีเหลืองขมิ้น แสดงว่าน้ำย้อมนั้นสามารถย้อมผ้าและฝ้ายได้
การย้อมผ้าหรือเส้นด้าย ให้เป็นสีหม้อห้อม จะต้องย้อมหลายๆ ครั้ง โดยผสมขมิ้น ฝักส้มป่อยเผา หรือน้ำมะขามเปียก และน้ำด่างที่ได้จากการเกรอะขี้เถ้าและเหล้าป่า หรือน้ำอ้อยผ้าหม้อห้อมเมื่อใช้งานไปนานๆ สีจะซีดลง และต้องนำกลับมาย้อมใหม่อยู่เสมอ ซึ่งต่างจากผ้าสีครามที่ได้จากการย้อมด้วยสีสังเคราะห์ทางเคมี ซึ่งสีจะไม่ซีด เมื่อผ่านการซักล้าง
แวะไปเยี่ยมชมหรืออุดหนุนผ้าหม้อห้อมของกลุ่มป้าเหงี่ยมได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหม้อห้อมทุ่งเจริญย้อมสีธรรมชาติ 291 หมู่ 5 ตำบลทุ่งโฮ้งอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โทรศัพท์ 089-8513048
ชื่อ-นามสกุล:นางยุพิน สายสำเภา
สัญชาติ : ไทย เชื้อชาติ: ไทย วันเกิด 26 มิถุนายน พ.ศ.2506
ที่อยู่ปัจจุบัน 147/2 บ้านทุ่งโฮ้ง หมู่ 5 ตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่
ที่อยู่สถานที่ทำงานบ้านเลขที่ 268/5 บ้านทุ่งโฮ้ง หมู่ 5 ตำบล ทุ่งโฮ้ง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ 54000
วุฒิการศึกษาสูงสุด: ประกาศนียบัตรวิชาชีพ อาชีพ: ค้าขาย
ข้อมูลครอบครัว
บิดาชื่อ นายสิงโต จักรบุตร อาชีพบิดา ทำนา
มารดาชื่อ นางเกียน จักรบุตร อาชีพ มารดา ทำนา
เป็นบุตรคนที่ 1 จำนวนพี่น้อง 2 คน สามีชื่อ นายสุวิท สายสำเภา มีบุตรชาย - คน บุตรหญิง 2 คน
ความรู้ความสามารถ/ความเชี่ยวชาญ
-มีความรู้สามารถในการทำน้ำครามเพื่อนำมาย้อมเส้นไหมและมีความเชี่ยวชาญทางด้านการทอผ้าเป็นอย่างดี
วิธีการเรียนรู้ภูมิปัญญา
- ได้เรียนรู้ภูมิปัญญาและสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ กระทั่งเกิดความรู้ ความเชี่ยวชาญความชำนาญ เกี่ยวกับการทอผ้าและนำภูมิปัญญานั้นมาถ่ายทอดแก่ชาวบ้านและชุมชนเพื่อให้ภูมิปัญญานั้นคงอยู่สืบไป
การถ่ายทอดภูมิปัญญา
- การถ่ายทอดความรู้เรื่อง การทำน้ำคราม การย้อมเส้นไหม การทอผ้า ถ่ายทอดด้วยวิธี การสอนและให้ลงมือปฏิบัติ โดยถ่ายทอดให้กับชาวบ้าน ชุมชน บุคคลที่สนใจการทำให้ภูมิปัญญาคงอยู่
มีการถ่ายทอดให้คนในครอบครัว และลูกหลานชุมชนชาวบ้านและผู้ที่สนใจได้รับรู้และให้สืบทอดต่อๆกันไป
ผลงาน/เกียรติประวัติ
- ได้รับมาตรฐาน มภช. มาตรฐานผลิตภัณฑ์ในชุมชนและผ้าทอมือ