การออกแบบลวดลาย ผ้า หม้อห้อม
ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบของผ้าหม้อห้อมไปหลากหลายรูปแบบ โดยการปรับวิธีการและเทคนิคในผลิต เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานและยุคสมัย ซึ่งมี 3 รูปแบบหลัก คือ
1. หม้อห้อมที่ย้อมครามจากสีธรรมชาติ
2. หม้อห้อมสังเคราะห์ มีทั้งการใช้ผ้าย้อมสีครามมาจากโรงงาน หรือ การนำผ้าดิบมา
ย้อมเอง บ้างก็ย้อมแบบบาติก เย็บแล้วก็ผ่านกรรมวิธีฟอกให้นุ่ม ฟอกป้องกันสีตก ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อ
3. หม้อห้อมที่นำเนื้อผ้าทั้งสองแบบมาใช้ผสมผสานกัน ซึ่งเป็นโอกาสให้ลูกค้าเลือกได้ตามรสนิยม ตามโอกาสแห่งการใช้สอยผู้ผลิตและร้านค้า ต่างก็ได้มีการออกแบบ ตกแต่งผ้าหม้อห้อมเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกตามรสนิยม และโอกาสในการใช้ รวมไปถึง การใช้ลวดลายเทคนิคการทอ การเพ้นท์ลาย สกรีนลาย มัดย้อมจุ่มย้อม เพื่อให้เป็นไปตามยุคสมัย และความต้องการของลูกค้าทุกเพศ ทุกวัย และทุกเทศกาล
วิธีการทำผ้าหม้อห้อมบ้านทุ่งโฮ้ง
จังหวัดแพร่มีชื่อเสียงด้านผ้าหม้อห้อม ซึ่งบ้านทุ่งโฮ้งเป็นแหล่งผลิตผ้าหม้อห้อม ที่ใหญ่ที่สุด มีการสืบทอดกันมายาวนาน สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชนด้วยเสน่ห์ของการย้อมผ้าแบบธรรมชาติ โดยใช้วัตถุดิบจากต้นฮ่อม ในอดีตนั้นผ้าหม้อห้อม เป็นผ้าฝ้ายทอมือหรือผ้าดิบสีขาว ผ้าหม้อห้อม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาของชาวไทพวนบ้านทุ่งโฮ้ง ผ้าหม้อห้อม เป็นภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดมายาวนาน ปัจจุบันได้มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและเทคนิคมากมาย
ต้นห้อม เป็นพืชล้มลุก ชอบความชุ่มชื้น มักจะขึ้นอยู่บริเวณป่าต้นน้ำลำธาร ต้นโตเต็มที่จะสูงประมาณ 1 เมตร และถ้าแก่เต็มที่จะสังเกตได้จากรอยหยดน้ำสีน้ำเงินที่แห้งอยู่บนพื้นดินใต้ต้นห้อม
สีที่ใช้ในการย้อมผ้าแบบโบราณดั้งเดิมนั้นได้จากพืช 3 ชนิด
1.ต้นห้อม
2.ต้นห้อมเครือหรือต้นเบิก
3.ต้นคราม
วิธีการทำห้อม
1.ตัดต้นห้อม นำใบ และต้นมามัดรวมกัน
2.นำห้อมที่มัดไว้ลงในโอ่งแล้วเทน้ำลงไปให้ท่วมห้อม ใช้ไม้ขัดปิดฝาหม้อไว้ไม่ให้ห้อมลอยขึ้นมา แช่ไว้ 1 คืน แล้วพลิกห้อมด้านบนลงล่างแช่ทิ้งไว้อีก 1 คืน จนต้นห้อมเน่าเปื่อย เมื่อฮ่อมส่งกลิ่นเหม็นให้เก็บเศษก้านห้อมทิ้งเหลือไว้แต่น้ำ
3.นำต้นห้อมชุดใหม่ลงแช่ในน้ำเดิมอีกครั้ง แช่ไว้ 1 คืน จากนั้นก็ผลิกต้นห้อมแล้วทิ้งไว้อีก 1 คืน แล้วบีบน้ำออกจากต้นห้อมที่เปื่อย แล้วนำเศษก้านทิ้ง น้ำที่ได้จะมีสีน้ำเงินและกลิ่นเหม็น
4.ผสมปูนขาวที่ใช้ทานกับหมากและกวนให้เขากัน จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง น้ำห้อมจะตกตะกอนให้เทน้ำใสๆทิ้งไป กรองเอาแค่ส่วนที่เป็นตะกอนเก็บไว้ทั้งเปียกๆ สามารถเก็บไว้ในโหลหรือกระป๋องปิดฝาให้มิดชิด เก็บไว้ใช้ได้หลายปี
5.นำตะกอนห้อมที่ได้มาผสมกับน้ำด่างที่ได้จากขี้เถ้าและปูนขาวในสัดส่วนที่พอดีแล้วคนให้เข้ากันจนเกิดฟอง ถ้าฟองยังไม่มีฟองก็เติมปูนขาวเข้าไปอีกจนกว่าจะเกิดฟองและน้ำมีสีเขียวเข้ม ทิ้งไว้ 1 คืน ก็สามารถนำมาย้อมผ้าได้ ซึ่งจะได้สีที่ติดทนทาน
การเตรียมผ้าสำหรับย้อม
ก่อนจะนำผ้าไปย้อมห้อมนั้น จะต้องทำการกำจัดสิ่งสกปรก เช่นกาวหรือไขมันออกจากผ้าก่อน
1.นำผ้าไปแช่ในน้ำผงซักฟอกทิ้งไว้สักครู่
2.จากนั้นนำผ้าไปต้มที่อุณหภูมิ 60-70 องศาเซลเซียส ประมาณ 1 ชั่วโมง
3.หลังจากต้มเสร็จแล้วให้นำผ้าไปซักล้างด้วยน้ำสะอาดประมาณ 6-7 ครั้ง
4.นำผ้าไปตากไว้จนแห้ง
การตัดเย็บการออกแบบผ้าหม้อห้อม
ในปัจจุบันการตัดเย็บเสื้อผ้าหม้อฮ่อม นับได้ว่าสร้างงานและทำรายได้ ให้กับชาวบ้านทุ่ง โฮ้งเป็นอย่างมาก
ทำให้หมู่บ้านนี้ประชาชนมีฐานะทางเศรษฐกิจดีบ้านทุ่งโฮ้งได้เป็นเขตสุขาภิบาลแห่งหนึ่งของจังหวัดแพร่
ซึ่งมีร้านตัดเย็บเสื้อผ้าหม้อฮ่อมตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละร้านต่างก็มีเครื่องหมายและชื่อร้านแตกต่างกันออกไป
ส่วนในด้านรูปแบบ ได้มีการปรับปรุงเสื้อผ้าหม้อฮ่อมให้มีแบบที่แตกต่างไปจากเดิมตามความต้องการของตลาดผู้บริโภค
ตัดเย็บเป็นเสื้อซาฟารี เสื้อคอเชิร์ต มีทั้งที่เป็นแบบแขนสั้นและแขนยาว เป็นต้น
ตีนจกหม้อฮ่อม การพัฒนางานทอผ้าพื้นเมือง โดยเฉพาะตีนจกในจังหวัดแพร่ ในขณะนี้มีการพัฒนาผ้าตีนจกที่ใช้
เส้นใยฝ้ายแท้ๆ ย้อมด้วยฮ่อม และสีธรรมชาติที่ได้จากเปลือกของต้นไม้หลายชนิด ถึงแม้ลวดลายยังไม่เข้าขั้น แต่ก็เคย
ได้รางวัลประเภทความคิดสร้างสรรค์มาแล้ว หากการทอผ้าตีนจกหม้อฮ่อมนำโดย นางรัตนา เรือนศักดิ์ จากกลุ่มอาชีพ
บ้านน้ำรัด ตำบลน้ำรัด อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ได้รับการพัฒนาลวดลายอย่างในอำเภอลอง ผ้าจกหม้อฮ่อม
ก็จะสวยงามและมีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นอีกแห่งของจังหวัดแพร่ สีคราม ได้จากฮ่อม สีน้ำตาลอ่อน ได้จากเปลือก
ต้นลำใย เปลือกต้นสะเดา เปลือกต้นประดู่ สีน้ำตาลอมส้ม ได้จากเปลือกต้นกระท้อนและสีเสียด
เกิดจากการรวมกลุ่มของคนในชุมชนประกอบการเพื่อการจัดการกองทุนของชุมชนอย่างสร้างสรรค์ โดยคนในชุมชน
เพื่อตอบสนองการพึ่งพาตนเอง และความพอเพียงของครอบครัวและชุมชน เกิดจากทุนของชุมชน ซึ่งมีทั้งทุนที่เน้น
ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ทุนที่เป็นผลผลิต ทุนความรู้ภูมิปัญญา ทักษะต่างๆ ประเพณีวัฒนธรรม คน ความเป็น
พี่น้อง ความไว้ใจของชุมชนและทุนเงินตรา จึงได้จัดตั้งเป็นกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนหม้อห้อมทุ่งเจริญย้อมสี