อาณาจักรโยนก เชียงแสน และล้านนา
(พ.ศ. ๑๘๓๕–๒๔๓๕)
ในตำนานและพงศาวดารล้านนาหลายฉบับ เล่าว่า นานมาแล้ว (ราวต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๓) มีพวกลัวะ หรือละว้า
ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณใกล้ดอยตุง มีปู่เจ้าลาวจกหรือลวจักราช เป็นหัวหน้า(จกคือจอบขุดดิน) ต่อมาได้สร้างบ้านเมือง
ในทุ่งราบเรียกชื่อว่า “หิรัญนครเงินยางเชียงแสน” ลูกหลานของปู่เจ้าลาวจกหรือลวจักราช ได้ขึ้นครองเมืองต่อเนื่อง
กันมาหลายสิบคน และได้มีการสร้างเมืองใหม่เรียกว่า “ภูกามยาวหรือพะเยา” มีผู้ครองเมืองต่อมาหลายคนจนถึง
ขุนเจือง (พุทธศตวรรษที่ ๑๗) และพญางำเมือง
อาณาจักรหิรัญนครเงินยางเชียงแสนหรืออาณาจักรเงินยางนี้ประกอบด้วย เมืองเงินยาง เมืองไชยนารายณ์
เมืองล้านช้าง และเมืองเชียงรุ้งในสิบสองพันนา
พุทธศตวรรษที่ ๑๑–๑๘นั้นในพงศาวดารโยนก ได้กล่าวไว้ว่า ได้เกิดชุมชนนครสุวรรณโคมคำ
เมืองโยนกนาคนคร เชียงแสน และอาณาจักรล้านนาไทยขึ้น บริเวณ ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก แม่น้ำอิง
และแม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำยม แม่น้ำน่าน ตั้งแต่สิบสองปันนาลงมาจนถึงเมืองหริภุญชัย(ลำพูน)
นั้นได้มีเจ้าผู้ครองนครคนสำคัญคือ พญาสิงหนวัติ พระเจ้าพังคราช พระเจ้าพรหม และ
พระเจ้าเม็งรายมหาราช(ครองราชย์ที่เมืองเงินยางเมื่อ พ.ศ.๑๘๐๔)
พญาสิงหนวัติได้สถาปนาเมืองโยนกนาคพันธุสิงหนวัตินครขึ้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ดินแดนที่ราบ
ในเมืองเชียงราย ใน พ.ศ. ๑๑๑๗ โดยทำการแย่งชิงดินแดนมาจากพวกที่มีอิทธิพลอยู่ก่อนคือ
พวกขอมดำหรือกล๋อม ที่พากันหนีไปตั้งหลักแหล่งอยู่ทางใต้บริเวณถ้ำอุโมงค์เสลานคร พญาสิงหนวัติ
ทรงรวบรวมพวกมิลักขุหรือคนป่าคนดอยเข้ามาอยู่ในอำนาจของเมืองโยนกนาคนคร
มีอาณาเขตทิศเหนือจดเมืองน่าน ทิศใต้จดปากน้ำโพ ทิศตะวันออกจดแม่น้ำดำในตังเกี๋ย
ทิศตะวันตกจดแม่น้ำสาละวิน มีเมืองสำคัญ คือเมืองเวียงไชยปราการ อยู่บริเวณแม่น้ำฝางและแม่น้ำกก
ดินแดนทางใต้สุดคือที่เมืองกำแพงเพชร อาณาจักรโยนกนาคนครนี้มีพระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์
เช่น พระเจ้าพังคราช พระเจ้าพรหม พระเจ้าไชยสิริ ต่อมาประมาณ พ.ศ.๑๕๕๒
อาณาจักรโยนกนาคนครในสมัยพระเจ้ามหาชัยชนะ ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เนื่องมาจากพนังกั้นน้ำหรือ
เขื่อนเหนือน้ำพังทลายลง จนทำให้ที่ตั้งเมืองกลายเป็นหนองน้ำใหญ่ (เข้าใจว่าจะเป็นบริเวณที่เรียกว่าเวียงหนองล่ม
บ้านท่าข้าวเปลือก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากทะเลสาปเชียงแสน และบริเวณที่แม่น้ำกกต่อกับแม่น้ำโขง
ใกล้วัดพระธาตุผาเงาและพระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย) จนเป็นเหตุให้บรรดาราชวงศ์กษัตริย์และ
ขุนนางของโยนกนาคนครเสียชีวิตด้วยเหตุน้ำท่วมเมืองทั้งหมด พวกชาวบ้านที่เหลือรอดชีวิต
ได้ประชุมปรึกษากันเลือกตั้งให้คนกลุ่มหนึ่งที่มิใช่เชื้อสายราชวงศ์ขึ้นดูแลพวกตน เรียกว่า ขุนแต่งเมือง
และเรียกชุมชนแห่งนั้นว่า “เวียงปรึกษา”เป็นเวลาต่อไปอีก ๙๔ ปี อาณาจักรโยนกนาคนครจึงสิ้นสุดลง
ตอนต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๓ พระยาเม็งราย(หรือพ่อขุนมังราย) ผู้สืบเชื้อสายมาจาก
ผู้ครองเมืองเงินยางเชียงแสน ได้ทรงทำการรวบรวมอาณาจักรล้านนาไทยที่กระจัดกระจายให้เป็นปึกแผ่นขึ้นมาใหม่
และทำการสร้างเมืองเชียงรายเมื่อ พ.ศ. ๑๘๐๕ ครั้งนั้นพระองค์ทรงยกทัพเข้ายึดเอาอาณาจักรหริภุญชัย
จากพวกมอญเชื้อสายของพระนางจามเทวีได้ใน พ.ศ. ๑๘๓๕ แล้วทำการตั้งอาณาจักรใหม่ขึ้นเรียกชื่อว่า
อาณาจักรล้านนา
เรื่องราวของอาณาจักรแห่งนี้มีปรากฏในตำนานสุวรรณโคมคำ หิรัญนครเงินยางเชียงแสน
ตำนานพระธาตุดอยตุง ตำนานสิงหนวัติกุมาร ตำนานเมืองพะเยา ตำนานเมืองเชียงใหม่และวรรณคดีล้านช้าง
เรื่องท้าวฮุ่ง หรือเจือง รวมทั้งพงศาวดารโยนก เรียบเรียงโดย พระยาประชากิจกรจักร์ (แช่ม บุนนาค)
ศิลาจารึกที่วัดเชียงมั่น จังหวัดเชียงใหม่ ได้บันทึกไว้ว่า พ่อขุนเม็งรายแห่งแคว้นล้านนา
พ่อขุนงำเมืองแห่งแคว้นพะเยาและพ่อขุนรามคำแหงแห่งแคว้นสุโขทัย ได้ร่วมกันวางแผนสร้างเมือง
“นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่”เริ่มสร้างเมื่อวันที่๑๒เมษายนพ.ศ.๑๘๓๙ แล้วให้ย้ายเมืองหลวงของล้านนา
มาอยู่ที่เมืองนพบุรีนครพิงค์เชียงใหม่
พญาเม็งรายทรงเป็นนักรบและนักปกครองที่สามารถ ทรงขยายอาณาเขตไปครอบครอง
เมืองแม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงใหม่ เชียงราย จดเขตแดนเมืองเชียงตุง เชียงรุ้ง
สิบสองพันนา ทรงครองราชย์อยู่ประมาณ ๕๐ ปี ปัจจุบันได้สร้างอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย
อยู่กลางเมืองเชียงราย ส่วนกษัตริย์ล้านนาองค์ต่อมาที่มีชื่อเสียงได้แก่พระเจ้าแสนภู
พระองค์ทรงสร้างเมืองเชียงแสนขึ้น บนสถานที่ที่เคยเป็นเมืองเก่ามาก่อนราว พ.ศ.๑๘๗๑
ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๖๑ กล่าวว่า พระเจ้าแสนภู(หลานพ่อขุนเม็งราย)ทรงสร้างเมืองเชียงแสน
ทรงสร้างวัดป่าสัก และครองเมืองอยู่ ๒๕ ปี แล้วจึงไปครองเมืองเชียงใหม่ในปีพ.ศ.๑๘๕๖
หลังจากพ่อขุนเม็งราย และขุนคราม พระราชบิดาสิ้นพระชนม์ พ.ศ.๒๐๒๐
ในพงศาวดารเหนือ กล่าวไว้ว่า “พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกทรงสร้างเมืองพิษณุโลกและ
ทรงสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๔ ขึ้น ๑๕ ค่ำ ปีจอ
(ประมาณ พ.ศ.๑๙๐๗) แล้วปลูกต้นโพธิ์สามต้นไว้ที่หล่อพระพุทธรูปสามองค์นั้นเรียกว่า โพธิ์สามเส้า
สมัยพระเจ้าติโลกราชนั้นได้ มีการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๘ ของโลกขึ้นที่วัดโพธาราม(วัดเจดีย์เจ็ดยอด)
อาณาจักรล้านนามีภาษาพูดและอักษรเขียนของตนเอง เรียกว่าอักษรไทยยวน(ไทยโยนก) ศิลปกรรม
ล้านนาที่เหลือถึงปัจจุบันมีหลายแห่ง เช่น พระพุทธสิหิงค์ ที่เชียงใหม่ เจดีย์วัดป่าสักที่เชียงราย
เจดีย์วัดเจ็ดยอดที่เชียงใหม่ พระธาตุลำปางหลวงที่จังหวัดลำปาง สำหรับที่เมืองเชียงแสนนั้น
มีพระพุทธรูปโลหะขนาดใหญ่องค์หนึ่งชื่อพระเจ้าล้านทอง หน้าตัก ๔ ศอกปลาย ๒ กำ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๐๓๒
โดยพระยาศรีรัชฎเงินกองเจ้าเมืองเงินยางเชียงแสน และยังมีพระเมาฬี(ยอดผม)
ของพระพุทธรูปโลหะขนาดใหญ่มากชิ้นหนึ่งอยู่ในพิพิธภัณฑ์เชียงแสน เล่ากันว่า
มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งจมน้ำอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน ปัจจุบันยังสำรวจค้นหาไม่พบ
ในพ.ศ.๒๐๘๘ นั้นได้ เกิดแผ่นดินไหวในเชียงใหม่ จนทำให้ส่วนยอดของเจดีย์หลวงหักลง
กษัตริย์ราชวงศ์มังรายครองอาณาจักรล้านนาสืบต่อกันมาเป็นเวลา ๒๖๒ ปี จนถึง พ.ศ.๒๑๐๑
อาณาจักรล้านนาอ่อนแอ ในไม่ช้าก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์แห่งพม่า
ต่อมาได้เปลี่ยนสลับมาขึ้นกับอาณาจักรสยามกลับไปกลับมาหลายครั้ง ครั้งสุดท้าย พ.ศ.๒๓๑๗
เมืองเชียงใหม่ได้ตกเป็นประเทศราชขึ้นต่อกรุงธนบุรีจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้ทรงรวบรวมเมืองเชียงใหม่เป็นส่วนหนึ่ง
ของราชอาณาจักรไทย และได้มีการพัฒนาบ้านเมืองนี้ในสมัยต่อมาเช่น พ.ศ.๒๔๖๔
ได้สร้างทางรถไฟจากกรุงเทพผ่านดอยขุนตาลถึงเชียงใหม่ และ
พ.ศ.๒๕๓๙เมืองเชียงใหม่ได้จัดงานฉลอง ๗๐๐ปี นครเชียงใหม่
สำหรับเหตุการณ์สำคัญนั้นคือวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ ได้เกิดแผ่นดินไหวที่เชียงใหม่
ทำให้ลูกแก้วบนยอดพระธาตุดอยสุเทพตกลงมาแตก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้พระราชทานลูกแก้วดวงใหม่ไปทดแทน
<< ย้อนกลับ ต่อไป การสร้างชุมชนของชาวสยาม >>