Evaluations
EPA 10 ข้อ
ทางรังสีวินิจฉัยกำหนดให้มี Entrustable Professional Activities (EPA) 10 ข้อ ได้แก่
Collaborates as a member of an interprofessional team
Specifications
เข้าใจขอบเขตการปฏิบัติที่หลากหลายของผู้เชี่ยวชาญในทีมดูแลสุขภาพ ที่ทำงานร่วมกัน
การทำงานเป็นทีม ที่ดูแลผู้ป่วยซึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง patient center ร่วมกันดูแล ปรับปรุง สนับสนุนเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดี อย่างเหมาะสมกับผู้ป่วย
ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาที่มีเหมาะสม ประสิทธิภาพเพื่อการดูแลผู้ป่วย เข้าใจบริบทของทีมและความเหมาะสมในการจัดการกับปัญหาสุขภาพ
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
นำความรู้ด้านรังสีวิทยามาร่วมในการวินิจฉัย ดูแลรักษาผู้ป่วยและจัดลำดับความสำคัญของการวินิจฉัยแยกโรค และแนะนำการตรวจหรือดำเนินการต่อ
สามารถสื่อสาร ประสานงานกับทีม เป็นส่วนหนึ่งของทีมดูแลสุขภาพ
เป็นหัวหน้าทีม มีใจพร้อมบริบาล
Triages and protocols exams
Interprets examinations and prioritizes a differential diagnosis
Communicates diagnostic imaging findings
Recommends appropriate next steps
Specifications
ค้นหาข้อมูลของผู้ป่วยที่สำคัญ ข้อมูลทางคลินิกจากแพทย์เจ้าของไข้ เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยแนะนำแพทย์ในการส่งการตรวจที่เหมาะสมที่สุด
การใช้ข้อมูลทางการแพทย์พื้นฐาน และทางด้าน medical physic and biology เพื่อเลือก protocol การตรวจที่เหมาะสม รวมถึงการ contrast agent/dose การปรับคุณภาพของภาพให้เหมาะสม
ทบทวนกระบวนการตรวจ เพื่อประเมินผลการปรับเทคนิคยังคงให้คุณภาพของภาพที่เหมาะสม และเพียงพอกับการวินิจฉัยโรค
ประยุกต์ความรู้ทางรังสีวิทยาในแต่ละวิชา นำมาวิเคราะห์ แปลผลภาพรังสี และการตรวงทางรังสีวิทยา
รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้การวินิจฉัยที่เป็นไปได้มากที่สุดและจัดลำดับความสำคัญของการวินิจฉัยแยกโรค
แจ้งผลการตรวจให้ทีมรักษาอย่างเหมาะสมเวลาและทันท่วงที
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
ข้อกำหนด แนวทาง หลักปฏิบัติต่าง ๆ ในการคัดเลือกและออกแบบการตรวจที่เหมาะสม อาทิเช่น Established evidence-based image guidelines, such as the American College of Radiology (ACR) Appropriateness Criteria
ความรู้ทางรังสีวิทยาครอบคลุมเรื่อง normal anatomy, normal variant และ pathology
ข้อบ่งชี้และข้อห้ามในการตรวจ
ระบบรายงานผล Reporting system: Standard framework report, report style, structural report แบบทั่วไปหรือเฉพาะโรค เช่น การรายงานโรคของเต้านมด้วยระบบ BIRADS ฯลฯ, Written, electronic and verbal communication, Report appropriated time: emergency or scheduling report
คำแนะนำ แนวทาง หรือการจัดการในแต่ละโรค หรือภาวะต่าง ๆ รวมถึงการส่งตรวจต่อที่เกี่ยวข้อง
การสังเกต ค้นหาพยาธิสภาพบนภาพทางรังสีวิทยา เพื่อการวินิจฉัย / วินิจฉัยแยกโรค เริ่มจากขั้นต้นของรังสีกายวิภาค จนถึงทักษะขั้นสูงของสัญญาณภาพรังสี (sign) หรือภาพรังสีของพยาธิวิทยา รอยโรคต่าง ๆ หรือการตรวจพิเศษที่ซับซ้อน
ทักษะการรายงาน/แปลผลการตรวจ นำเสนออย่างกระชับและเหมาะสมกับเวลา ตรงประเด็น สามารถให้ลำดับการวินิจฉัยและวินิจฉัยแยกโรคได้ตรงจุด
ทักษะการเขียนรายงาน การใช้ระบบ electronic หรือ standard/ system structural report
ทักษะการสื่อสาร / การพูดอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพแก่ผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแล
Minimised communication error
ความเป็นมืออาชีพและวัฒนธรรมความปลอดภัย
Obtains informed consent and performs diagnostic/ interventional procedures
Manages patients undergoing imaging and procedures
Specifications
อธิบายวิธีการตรวจ ความเสี่ยง และการป้องกันความเสี่ยง การใช้การตรวจอื่นทดแทนข้อจำกัด ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเพื่อตัดสินใจร่วม
กระบวนการขอความยินยอมจากผู้ป่วยในการตรวจ เข้าใจและดำเนินการตามขั้นตอนสำหรับผู้ป่วยทุกกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง ความอ่อนไหว ประเด็นความเสมอภาคและความหลากหลายในด้านต่าง ๆ (Diversity)
ทราบและสามารถเตรียมผู้ป่วยก่อนตรวจได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม อาทิเช่น การหยุดยาที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ และทำขั้นตอน ต่าง ๆ อย่างปลอดภัยตามความเหมาะสม
จัดการอาการข้างเคียง (รวมถึง anaphylaxis) จาก contrast และ drugs
ฝึกและทบทวน การช่วยฟื้นคืนชีพที่ทันสมัย Up to date CPR รวมถึง ความปลอดภัยและการควบคุมการติดเชื้อ โดยเฉพาะในบริบทของการตรวจทางรังสีวิทยา
ความเข้าใจในระดับของความเชี่ยวชาญส่วนบุคคล และการอ้างอิง/แสวงหาความคิดเห็นที่สอง อย่างเหมาะสม
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
ข้อกำหนดด้านวิชาชีพและกฎหมายระดับชาติpatient safety
ความปลอดภัยของผู้ป่วย
Indication and contraindication for the procedure
ขั้นตอนและการจัดการภาวะแทรกซ้อน สถิติอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน
ความอ่อนไหวต่อประเด็นทางเพศ เชื้อชาติ ศาสนา ความแตกต่างทางวัฒนธรรม และรสนิยมทางเพศ
ทักษะการปฏิบัติ และ ทักษะการสื่อสารและมนุษยสัมพันธ์
การฝึกจัดการกับปัญหา ความซับซ้อนและความไม่แน่นอน
ทักษะทางคลินิก: การใช้แนวปฏิบัติสำหรับโรคหรือ ภาวะต่าง ๆ เพื่อแนะนำการจัดการ, การตรวจทางรังสีวิทยาเพิ่มเติม
Professionalism, safety culture
Formulates clinical questions and retrieves evidence to advance patient care
Specifications
ศึกษาและติดตามองค์ความรู้จากวารสารต่าง ๆ และการฝึกทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
ฝึกกำหนดคำถามทางคลินิกและตรวจสอบคำตอบ โดยใช้หลักฐานที่เชื่อถือได้และผลการวิจัยที่ถูกต้อง และดำเนินการทำวิจัยของตนเอง
การเรียนรู้ตลอดชีวิตในฐานะรังสีแพทย์
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
หลักการรักษาตามมาตรฐาน รวมถึงผลการวิจัยที่มีหลักฐานอ้างอิง
พื้นฐานการเกิดโรค pathophysiological processes และการเกิด normal variants
หลักการทำงานวิจัย การนำเสนองานในรูปแบบต่าง ๆ
Cost effectiveness
การฝึกฝนในประเด็นคุณภาพ ความปลอดภัย เกณฑ์ความเหมาะสมในเรื่องที่เกี่ยวข้องและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ทักษะ ฝีกประสบการณ์ ในการอ่าน ศึกษางานวิจัย อย่างมีวิจารณญาณ
Professionalism
Commitment to life-long learning and self-improvement
Behaves professionally
Specifications
ตระหนักถึงความสำคัญและลำดับความสำคัญของการดูแลผู้ป่วย สิทธิผู้ป่วย พร้อมปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ
ทราบขอบเขตความสามารถ หรือขีอจำกัดของตนเอง และการร้องขอความช่วยเหลือออย่างเหมาะสม
แสดงออกอย่างเหมาะสมและวิจาร์ณอย่างสร้างสรร
ใส่ใจความต้องการของผู้ป่วยก่อนตนเอง
รักษาขอบเขตความเหมาะสมกับผู้ป่วย เพื่อนร่วมงาน และผู้อื่น
ยอมรับความหลากหลาย แตกต่างในแต่ละบุคคลหรือกลุ่มคน
การรักษาความลับของผู้ป่วย
ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถาบันและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพและจริยธรรม
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
ทราบถึงพฤติกรรมที่เป็นมืออาชีพและไม่เป็นมืออาชีพ
เข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบในฐานะผู้นำทีมแพทย์ ซึ่งถูกคาดหวังและจัดระดับความไว้วางใจ น่าเชื่อถือสูงสุด ในระบบสาธารณสุข
เข้าใจความคาดหวังต่อพฤติกรรมและผลการปฏิบัติงานตามหลักจริยธรรมของแพทย์
ความเคารพซึ่งกันและกัน ค่านิยมร่วมกัน ตระหนักถึงข้อจำกัดของตัวเอง
Contributes to a culture of safety and improvement
Specifications
ระบุความล้มเหลวของระบบ และมีส่วนร่วมในการแก้ไข
ความเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยง
ทำงานโดยยึดหลักความปลอดภัยของตนเอง เพื่อนร่วมงานและผู้ป่วย
มีส่วนร่วมในระบบ Quality Improvement/Quality and Patient Safety (QI/QPS) ของส่วนงาน
Knowledge, skills, attitudes and behaviour
ความผิดพลาดของบุคคล หรือระบบงาน
การมีระบบ peer review
ระบบความปลอดภัย Radiation safety, patient safety
การทำ root cause analysis
ระบบของแผนก หรือ Imaging workflow or chain เช่น การทราบหรือไม่มีข้อมูลทางคลินิก examination protocoling, ระยะเวลาการตรวจที่เหมาะสม ความเร่งด่วน ระยะเวลาการออกรายงานผล รายงานการแปรผลที่อย่างเหมาะสม และการสื่อสารกลับให้ทีมผู้ดูแล หรือการส่งต่อเพื่อการรักษาบริบาล
การบันทึกข้อผิดพลาดและแจ้งแพทย์ที่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากตำหนิ สำหรับการบันทึกข้อผิดพลาดและแจ้งแพทย์ที่เหมาะสมในสภาพแวดล้อมที่ปราศจากตำหนิ
อภิปรายข้อผิดพลาดและผลที่ตามมากับผู้ป่วยและสมาชิกในครอบครัวตามที่เพมาะสม
กระบวนการคุณภาพ การจัดการความเสี่ยง ได้แก่ การระบุตัวผู้ป่วยที่ถูกต้อง การตรวจที่ถูกต้อง การเฝ้าติดตามผู้ป่วยขณะอยู่ภายใต้การดูแลของแผนกรังสีวิทยา การแพร้สารทึบรังสี ปริมาณรังสี และความปลอดภัยของ MR
Morbidity and mortality rounds
สุนทรียสนทนา การสื่อสารอย่างมืออาชีพกับทีมรักษาพยาบาลและผู้ป่วยและญาติ
ขั้นขีดความสามารถ (level of entrustment)
แต่ละหัวข้อมีระดับขั้นขีดความสามารถ (level of entrustment) 1 ถึง 5 และแสดงถึง competencies แตกต่างกันไป ดังนี้
ขั้นที่ 1 สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ภายใต้การควบคุมของอาจารย์อย่างใกล้ชิด
ขั้นที่ 2 สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ภายใต้การชี้แนะของอาจารย์
ขั้นที่ 3 สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้โดยมีของอาจารย์ให้ความช่วยเหลือเมื่อต้องการ
ขั้นที่ 4 สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องกำกับดูแล
ขั้นที่ 5 สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องกำกับดูแล และควบคุมผู้มีประสบการณ์น้อยกว่าได้
ระดับชั้นความรู้
ตั้งแต่ชั้น 1 ถึง 3 มีความหมายดังนี้
ระดับชั้นที่ 1 “ต้องรู้” หมายถึง มีความสำคัญและพบบ่อย ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องสามารถตรวจวินิจฉัยได้ด้วยตนเอง
ระดับชั้นที่ 2 “ควรรู้” หมายถึง โรคที่พบน้อยกว่าระดับ 1 แต่มีความสำคัญ ซึ่งแพทย์ประจำบ้านควรตรวจวินิจฉัยได้ ภายใต้การควบคุมของอาจารย์
ระดับชั้นที่ 3 “น่ารู้” หมายถึง โรคหรือหัตถการที่ซับซ้อนซึ่งแพทย์ประจำบ้าน อาจตรวจวินิจฉัยได้ หรือสามารถเรียนรู้โดยการศึกษาด้วยตนเอง หรือจากการฟังบรรยาย และสถาบันฝึกอบรมควรจัดให้มีการเรียนรู้โรคในระดับนี้อย่างพอเพียง
การวัดและประเมินระหว่างการฝึกอบรม
ผู้รับการฝึกอบรมจะได้รับการประเมินระหว่างการฝึกอบรมครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ เจตคติ และกิจกรรมทางการแพทย์ ในมิติต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับ competency ที่กำหนดไว้ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ประเมินสมรรถนะ EPA โดยอาจารย์ผู้ฝึกอบรมที่กำหนดในหลักสูตร เป็นการวัดความรู้ ทักษะ และเจตคติ ภายใต้ competency A, B, C, D, E และ F
การสอบภายในภาควิชาฯ และการสอบของคณะฯ เป็นการวัดความรู้และทักษะ ภายใต้ competency B
การรายงานประสบการณ์เรียนรู้จากผู้ป่วย เป็นการวัดความรู้ และเจตคติ ภายใต้ competency A, C, D, E และ F
การรายงานประสบการณ์วิจัยและความก้าวหน้าของงานวิจัย เป็นการวัดทักษะ และเจตคติ ภายใต้ competency C และ F
การร่วมกิจกรรมประชุมวิชาการทางรังสีวิทยา เป็นการวัดทักษะ และเจตคติ ภายใต้ competency A, B, C, D, E และ F
การรายงานประสบการณ์เรียนรู้จาก counselling, non-technical skills และ workshop เป็นการวัดทักษะ และเจตคติ ภายใต้ competency A, B, C, D และ E
การประเมินสมรรถนะด้าน professionalism และ interpersonal and communication skills โดยอาจารย์และผู้ร่วมงาน เป็นการวัดทักษะ และเจตคติ ภายใต้ competency D และ E
ประเมินอะไร อย่างไร เมื่อไร โปรดศึกษาใน Resident Hub/Evaluation