Health and Wellness
บริการด้านสุขภาพกาย
แนะนำให้แพทย์ประจำบ้านประสานงานกับทีมธุรการการศึกษาหลังปริญญา หรืออาจารย์ผู้ดูแลด้านสุขภาพ ทีมการศึกษาหลังปริญญา ในทันทีที่สามารถแจ้งได้ กรณีที่พบปัญหาสุขภาพของแพทย์ประจำบ้าน แนะนำให้ดำเนินการตามที่ระบุในประกาศภาควิชารังสีวิทยา เรื่อง แนวปฏิบัติด้านสุขภาพสำหรับแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ลงวันที่ 19 ก.พ. 2567
มีสวัสดิการการรักษาพยาบาล สำหรับแพทย์ประจำบ้าน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
แพทย์ประจำบ้านประเภทต้นสังกัดอิสระ (สถานภาพเป็นลูกจ้างชั่วคราวของคณะ)
ให้ใช้สิทธิประกันสังคม
สำหรับผู้ที่ไม่เคยยื่นทำประกันสังคม ดังนี้
ผู้ที่เคยทำประสังคมมาแล้ว
ให้กรอกแบบฟอร์ม สปส.1-03 (แบบขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน)
พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน
ผู้ที่ยังไม่เคยทำประกันสังคม
ให้กรอกแบบฟอร์ม สปส.9-02 (แบบขอบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล)
พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน และแนบบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลตัวจริงมาด้วย (กรณีต้องการเปลี่ยนสถานพยาบาล)
หากไม่ต้องการเปลี่ยนสถานพยาบาลให้แนบแต่สำเนาบัตรประชาชนมาอย่างเดียว
มีข้อสงสัยในการรักษาพยาบาลเรื่องสิทธิต่างๆ
โปรดติดต่อ คุณพอพลอย วงศ์สุวรรณเดชา โทร.02-419-7420 (เพื่อขอคำแนะนำสิทธิประกันสังคม ในการใช้บริการตรวจรักษาของบุคลากร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล)
ขั้นตอนการใช้บริการ
ให้แพทย์ประจำบ้าน ติดต่อ ณ หน่วยเวชระเบียน ชั้น 1 ห้อง 100 ตึกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลศิริราช เพื่อติดต่อขอทำประวัติเวชระเบียนผู้ป่วย หรือกรอกทางระบบ Online ได้ที่หน้า Website ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
วัน/เวลาทำการ
สามารถมารับการตรวจรักษา ดังนี้
วันทำการ (ในเวลาราชการ) เวลา 07.00 – 12.00 น.
วันทำการ (นอกเวลาราชการ) เวลา 12.00 – 21.00 น. ติดต่อ ห้องแพทย์เวร ชั้น 1 ตึกผู้ป่วยนอก
วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00 – 12.00 น. หากต้องการตรวจเฉพาะโรคให้ใช้บริการ STAFF Center
กรณียังไม่ได้รับสิทธิประกันสังคม
สามารถรับการตรวจรักษาผ่านสวัสดิการ STAFF Center โดยให้นำใบสั่งยาพร้อมเวชระเบียนที่บันทึกรายละเอียดการตรวจรักษา ใบขอตรวจต่าง ๆ เช่น ใบตรวจทางห้องปฏิบัติการ ใบเอ็กซเรย์ หรือใบแจ้งค่าตรวจรักษา เช่น ค่าผ่าตัดเล็ก ค่าทำฟัน มาประทับตราสวัสดิการโดยผ่านความเห็นชอบของภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม ที่ตึกผู้ป่วยนอก ชั้น 4 ห้อง 434 คุณดุจปรารถนา พิศาลสารกิจ (พยาบาลหน่วยบริการสุขภาพเจ้าหน้าที่และอาชีวอนามัย) โทร.02-419-7392
สามารถรับยาสวัสดิการได้ที่ห้องยาชั้น 1 ช่อง 12 ตึกผู้ป่วยนอก หรือฝากเจ้าหน้าที่หน่วยบริการสุขภาพฯ รับยาให้และมาเซ็นชื่อรับยาในวันนั้น ก่อนเวลา 16.00 น.
กรณีนอกเวลาราชการและยังไม่ได้รับสิทธิประกันสังคม
โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและหัวหน้าพยาบาลห้องตรวจแพทย์เวรฉุกเฉิน ห้องตรวจโรคอุบัติเหตุ เพื่อขอใช้สิทธิ์ประกันสังคม หรือสวัสดิการของคณะฯ
ระเบียบการใช้สิทธิสวัสดิการ
แพทย์ประจำบ้านที่ไม่มีต้นสังกัด
การตรวจรักษาเทียบเท่าข้าราชการและสามารถได้รับภูมิคุ้มกันตามระเบียบกระทรวงการคลัง
การบริการไม่ครอบคลุมค่ายาเกี่ยวกับการเสริมสวย หรือการรักษาภาวะมีบุตรยาก หรือการรักษาที่อยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง
การบริการทางทันตกรรม บริการตามระเบียบของข้าราชการ สามารถถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ไม่ครอบคลุมการครอบฟัน จัดฟัน รักษารากฟัน
แพทย์ประจำบ้านที่มีต้นสังกัด
ต้องใช้ต้นสังกัดของตนเอง ตามระเบียบกรมบัญชีกลาง หรือเข้าสู่ระบบจ่ายตรงของคณะฯ โดยนำ
บัตรประชาชนของตนเอง มาเปิดสิทธิเพื่อขอตรวจ ยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เปิดให้บริการตามจุดที่กำหนด
ให้ทำเวชระเบียนและสามารถไปตรวจตามแผนกที่ต้องการปรึกษาเฉพาะทางและซื้อยาเองโดยนำใบเสร็จไปเบิกต้นสังกัดของตนเอง (ใบเสร็จสามารถเบิกได้ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ตรวจ)
ศูนย์บริการสุขภาพแก่บุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล (STAFF Center)
STAFF Center ต้องการอำนวยความสะดวก ให้กับบุคลากรในการรับบริการตรวจรักษา ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดองค์กรแห่งความสุข (Happy Workplace) และด้านสุขภาพกายใจแข็งแรง (Happy Body) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ารับการตรวจรักษาพยาบาลครบวงจร ในระบบการตรวจรักษา
ประเภทผู้ป่วยนอก สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 02-419-9977 ในวันและเวลาราชการ
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ตั้งแต่เวลา 07.00 – 12.00 น.
กรณีติดต่อนัดหมายล่วงหน้า ตั้งแต่เวลา 13.00 – 15.00 น.
ขั้นตอนการขอรับบริการ
ผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับบริการ ให้โทรไปที่เบอร์ 02-419-9977
แจ้งรายละเอียด ข้อมูลส่วนตัว คือ เลขบัตรประจำตัวพนักงาน SAP ID, เลข HN (ถ้ามี), สิทธิการรักษา (เบิกจ่ายตรง หรือประกันสังคม) และเบอร์โทรศัพท์หน่วยงานหรือเบอร์มือถือเพื่อติดต่อกลับ
แจ้งอาการที่ป่วย
รอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ เพื่อบอกเวลาและสถานที่ที่บุคลากรต้องไปพบแพทย์
บุคลากรไปพบแพทย์ ณ จุดที่เจ้าหน้าที่ Staff Center ได้แจ้งไว้ โดยไม่ต้องไปรับแฟ้มประวัติผู้ป่วยโดยทางเจ้าหน้าที่จะทำการส่งแฟ้มดังกล่าวไปให้ทางหน่วยตรวจเอง
กรณีที่ไม่สามารถไปตามวัน และเวลาที่นัดได้ โปรดแจ้งกลับทาง STAFF Center ทันที
บริการด้านสุขภาพจิต
แนะนำให้แพทย์ประจำบ้านประสานงานกับทีมธุรการการศึกษาหลังปริญญา หรืออาจารย์ผู้ดูแลด้านสุขภาพ ทีมการศึกษาหลังปริญญา ในทันทีที่สามารถแจ้งได้ กรณีที่พบปัญหาสุขภาพของแพทย์ประจำบ้าน แนะนำให้ดำเนินการตามที่ระบุในประกาศภาควิชารังสีวิทยา เรื่อง แนวปฏิบัติด้านสุขภาพสำหรับแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม (19 ก.พ. 2567)
ระบบสวัสดิการด้านสุขภาพสำหรับแพทย์ผู้เข้ารับการฝึกอบรม (ด้านสุขภาพจิต) ดังประกาศคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พ.ศ. 2556
Guidelines for Blood/Secretion Contamination
แนวปฏิบัติเมื่อสัมผัสเลือดหรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วยขณะปฏิบัติงาน
Guidelines for Radiation Contamination แนวปฏิบัติเพื่อขจัดรังสีเปรอะเปื้อน
เมื่อมีการเปรอะเปื้อนตัวบุคคล
ต้องรีบชำระล้างโดยทันที (ก่อนชำระล้างสถานที่หรือเครื่องมือ)
เมื่อมีการเปรอะเปื้อนบนผิวหนังล้างด้วยน้ำสะอาดและสบู่ (ห้ามใช้แอลกอฮอลล์เช็ดถู เพราะจะทำให้รูขุมขนปิด ไม่สามารถเช็ดออกได้)
ถ้าเปื้อนบนใบหน้าให้ซับความเปื้อนออกก่อน และใช้น้ำสะอาดและสบู่ ชำระล้างโดยใช้มือช่วยถูไม่ควรถูแรงจนกระทั่งเป็นรอยขีดข่วนหรือถลอก ขณะชำระล้างให้หลับตา ปิดปากให้สนิท หลังชำระล้าง ซับน้ำให้แห้งด้วยกระดาษหรือผ้าเช็ดหน้า
ถ้าเปื้อนเส้นผม ให้ชำระล้างด้วยแชมพูสระผมและน้ำปริมาณมากหลาย ๆ ครั้ง แต่ต้องระวังอย่าให้น้ำชำระล้างตกลงในช่องหู หรือบนใบหน้า ถ้าเปื้อนมากให้ตัดผมทิ้ง
ถ้ามีบาดแผลหรือรอยขีดข่วน ให้รีบทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำไหล คัดเลือดออกจากบาดแผล และดูแลบาดแผลเบื้องต้น
หากมีการเปรอะเปื้อนไอโอดีนรังสี (I-131) เข้าสู่ร่างกายทางปาก ให้ทำการล้างท้องเช่นเดียว กับการเปรอะเปื้อนสารพิษอื่นๆ และให้ดื่มสารละลาย KI 130 มิลลิกรัม หรือสารละลาย Lugol เพื่อ Block ต่อมไทรอยด์ทันที
เมื่อมีการเปรอะเปื้อนบริเวณปฏิบัติงาน
ใช้วัสดุที่ดูดซับได้ดี ดูดซับสารที่หกไว้ เพื่อป้องกันการกระจาย
กั้นบริเวณที่เปรอะเปื้อน โดยให้ห่างจากจุดเปรอะเปื้อนอย่างน้อย 15 เซนติเมตรทุกด้าน หรือใช้ปากกาเมจิกวงรอบบริเวณ
ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้ามาในบริเวณที่เปรอะเปื้อนรังสี
ผู้ที่จะทำการขจัดการเปรอะเปื้อนสวมเสื้อคลุม ถุงมือยาง บางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ถุงพลาสติก สวมหุ้มรองเท้า (Overshoes)
ใช้เครื่องวัดรังสีแบบสำรวจ (GM counter) ตรวจสอบบริเวณ โดยเคลื่อนหัววัดไปเหนือพื้นผิวที่ต้องการตรวจสอบช้าๆ และระวังอย่าให้หัววัดสัมผัสบริเวณเปรอะเปื้อน จดค่าการเปรอะเปื้อนก่อนชำระล้าง (Ao)
ถ้าเปรอะที่พื้นห้อง ให้เริ่มล้างพื้นผิวตรงจุดที่ใกล้กับทางเข้ามากที่สุดก่อน โดยสวมถุงมือยาง
2 ชั้น ใช้คีมคีบกระดาษชำระ ซับจุดเปรอะเปื้อน และทิ้งลงถุงขยะรังสี
ชุบกระดาษชำระลงในน้ำเปล่าหรือน้ำยาชำระล้าง (Decontamination) และซับลงบนพื้น
ห้ามถูวนไปมา ให้เช็ดจากรอบนอกเข้าหาด้านในโดยไม่ซ้ำที่
ทำซ้ำโดยเปลี่ยนกระดาษชำระ 8 - 10 ครั้ง และวัดปริมาณรังสี ณ บริเวณเปรอะเปื้อนรังสีอีกครั้งเทียบกับบริเวณนอกเขตเปรอะเปื้อน โดยค่าที่วัดได้หลังชำระล้าง (A) จะต้องวัดได้ใกล้เคียงกับบริเวณแวดล้อมนอกเขตเปรอะเปื้อน
นำค่าที่วัดได้ก่อนชำระล้าง (Ao) และหลังชำระล้าง (A) มาหาค่าประสิทธิภาพของการชำระล้าง [(Ao – A)/Ao] x 100 ต้องได้มากกว่าร้อยละ 50
ห้ามบุคคลใดๆ เข้ามาในบริเวณที่กั้นไว้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
ระดับรังสีบนพื้นผิวใดๆ ต้องไม่เกิน 0.5 Sv/h เมื่อวัดที่ระยะห่าง 0.5 เมตร ถ้าระดับรังสียังไม่ลดลง ให้ปิดบริเวณเปรอะเปื้อนไว้ก่อน
เมื่อมีการเปรอะเปื้อนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ เช่น อุปกรณ์ช่วยชีวิตที่เป็นโลหะ
ล้างในสารชำระล้างที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อชำระความสกปรกและไขมัน และเช็ดซับด้วยกระดาษ ผ้า หรือฟองน้ำ
ล้างด้วยน้ำ ทำให้แห้ง และตรวจดูว่ายังมีการเปรอะเปื้อนตกค้างอยู่หรือไม่
ถ้าความเปรอะเปื้อนยังคงอยู่ ให้แช่ในน้ำยาชำระนานขึ้นอีก หรือใช้อุปกรณ์ชำระล้างที่ใช้คลื่นความถี่สูง (ultrasonics) ช่วยในการชำระล้างบริเวณซอกมุมที่ทำความสะอาดไม่ถึง แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด ทำให้แห้ง และตรวจสอบปริมาณรังสีอีกครั้ง
หากความเปรอะเปื้อนยังคงอยู่ ควรพิจารณาว่าอุปกรณ์นั้นสมควรเก็บไว้เพื่อรอให้
สารกัมมัน ตรังสีสลายตัว ก่อนนำมาใช้อีกครั้ง
เมื่อมีการเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้า
ให้ซักล้างด้วยเครื่องซักผ้า
ใช้สารซักล้างที่เหมาะสม หรือสารซักฟอก (detergent)