๑. ชื่อข้อมูล ศิลปะการแสดงตีกลองปูจา
๒. ลักษณะ c วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา
þ ศิลปะการแสดง
c แนวปฏิบัติทางสังคมพิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
c อาหาร/ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล
c งานช่างฝีมือดั้งเดิม
c การละเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว
๓. รายละเอียดข้อมูล
๓.๑) ประวัติความเป็นมาข้อมูล
กลองบูชา หรือกลองปู่จา มีประวัติและความเป็นมา ไม่ชัดเจนว่าเกิดขึ้นในสมัยใด รู้แต่ เพียงว่าเป็นกลองโบราณชนิดหนึ่ง ซึ่งได้มีการพัฒนารูปร่าง และลักษณะการตีของกลองมาอย่างต่อเนื่อง โดย จากกลองใบใหญ่ใบเดียว ที่ใช้ตีเป็นเครื่องส่งสัญญาณในการโจมตีข้าศึกของกองทัพในเวลาสงคราม ตีส่ง สัญญาณบอกข่าวแก่ชุมชน ใช้เป็นเครื่องดนตรีมหรสพ เป็นเครื่องประโคมฉลองชัยชนะ และความสนุกสนาน ฯลฯ วิธีตีหรือจังหวะการตี เรียกว่า “สะบัดชัย” กลองชนิดนี้ จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กลองสะบัดชัย เมื่อไม่มี การรบทัพจับศึก ก็ได้พัฒนาทั้งรูปร่างลักษณะ จังหวะการตี และได้น ามาอยู่กับฝ่ายศาสนจักรใช้ในพิธีกรรม ทางศาสนา เรียกว่า กลองบูชา ก๋องปู่จา หรือ กลองปู่จา ต่อมาได้พัฒนาเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การตี เพื่อให้เกิดความบันเทิงสนุกสนาน ตามงานบันเทิงต่าง ๆ สามารถพบเห็นได้ในขบวนแห่ หรืองานแสดงศิลปะ พื้นบ้านโดยทั่วไป กลองบูชาใช้ตีได้หลายโอกาสทั้งในพิธีกรรมทางศาสนาและงานต่าง ๆ ของชาวบ้าน และ งานพิธีเปิดของทางราชการ
ขณะเดียวกันในอดีตกลองชนิดนี้ ยังมีบทบาทต่อสังคม ไม่จำเป็นต้องใช้กับพุทธศาสนา เท่านั้น ยังคงใช้เป็นสัญญาณบอกให้คนในชุมชนได้รับรู้อาทิ หากอยู่ในช่วงศึกสงคราม ได้ยินเสียงตีกลอง บูชา (กลองปู่จา) รัวเร็ว เป็นสัญญาณบอกว่าข้าศึกบุกเข้าเมือง ในช่วงเวลาปกติได้ยินเสียงตีกลองรัวเร็ว เป็น สัญญาณว่า อาจเกิดเหตุไฟไหม้ที่วัด หรือในหมู่บ้าน หรือในเมือง โจรปล้นบ้านหรือเมือง หากอยู่ในช่วงฤดู ฝน ก็เป็นสัญญาณบอกเหตุน้ำท่วม เป็นต้น
๓.๒) ขั้นตอน/วิธีการ/ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูล
จุดประสงค์และช่วงเวลาการตีกลองบูชา (กลองปู่จา)
๑. ตีกลองเพื่อบอกวันพระ วันโกน กล่าวคือ เป็นการตีเพื่อเตือนศรัทธาชาวบ้านให้รู้ว่าพรุ่งนี้จะ ถึงวันพระ ให้เตรียมตัวมาทำ บุญตักบาตร ฟังธรรม ถือศีลภาวนา โดยจะตีใน วันแรม ๗ ค่ำ วันแรม ๑๔ ค่ำ หรือ วันขึ้น ๗ ค่ำ วันแรม ๑๔ ค่ำ เพราะในสมัยก่อนไม่มีสื่อใด ๆ ที่จะบอกวัน เดือน ปี นอกจากปฏิทิน แต่บางครอบครัวปฏิทินก็ไม่มี จะใช้วิธีตีกลองนี้ตอนค่ำก่อนชาวบ้านจะเข้านอน โดยตีเป็นจังหวะช้า ๆ เนิบนาบ นุ่มนวลและลุ่มลึก น่าฟัง ผู้ตีจะตีกลองแม่ แล้วไล่ตีตามลูกตูบแล้ว มาลงท้ายด้วยการตีฆ้องโหม่ง ซึ่งฆ้องโหม่ง นี้จะมีคนตีอีกคนหนึ่ง
๒. พระสงฆ์ตีกลอง เพื่ออนุโมทนาอุบาสกอุบาสิกาที่ได้มาทำบุญ และใส่บาตรในวันพระ โดยจะตีในตอนกลางคืนวันพระ
๓. ตีกลองเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาที่พระสงฆ์จะเริ่มเทศนาพระธรรมคำสอน ซึ่ง ภาษาพูด เรียกว่า “ธรรมลง”
๔. ตีกลองเพื่อเป็นสัญญาณบอกกล่าวเทวดาทุกชั้นฟ้าได้มาร่วมอนุโมทนา การทำบุญในครั้ง นั้น ๆ ซึ่งภาษาพูดว่า “ป่าวอินทร์ป่าวพรหม”
๕. ตีเพื่อเป็นสัญญาณบอกเหตุ หรือมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เช่น ไฟ ไหม้ ระดมคนไล่ล่าโจรที่มาปล้นวัวปล้นควายของชาวบ้าน
๖. ตีประโคมในเทศกาลต่าง ๆ เช่น งานทำบุญกินข้าวสลากภัต งานบุญเฉลิมฉลองกุฏิ วิหาร ศาลาการเปรียญ เป็นต้น การตีแบบนี้ไม่มีแบบอย่างหรือกติกาใด ๆ ผู้ตีจะตีตามความถนัด ตามท่วงทีลีลาของ ตนเอง
การตีกลองบูชา (กลองปู่จา) มีทั้งหมด ๓ รูปแบบ
๑. การตีแบบบูชา เพื่อเป็นพุทธบูชา และเพื่อเตือนให้พุทธศาสนิกชนได้ทราบ ล่วงหน้าว่า ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันธรรมสวนะ หรือตีป่าวอินทร์ป่าวพรหม จะตีกลองอยู่ ๒ วัน คือ วันขึ้น ๑๔ ค่ำ กับ ๑๕ ค่ำ และวันแรก ๗ ค่ำ กับ ๘ ค่ำ โดยจะตีกลองในวันโกน เรียกว่า ตีกลองรับ ส่วนการตีกลองในวันพระ เรียกว่า ตีกลองส่ง จะตีในเวลากลางคืนราว ๒๐.๐๐ น. – ๒๑.๐๐ น. การตีแบบบูชาจะประกอบด้วยฆ้องขนาด เล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ และฉาบประกอบการตี มีหลายทำนองเรียกว่า “ระบำ” ได้แก่ ระบำเสือขบจ้าง ระบำเสือขบตุ๊ ระบำสาวน้อยเก็บผัก ระบำแม่ฮ้างติ้วซิ่น ระบำสิกตุ๊ปี้สิก ระบำลุกตางเหนือมาสุม ระบำล่องสา และระบำล่องน่าน
๒. การตีแบบสะบัดชัย ใช้สำหรับบอกเหตุนัดหมาย เฉลิมฉลองงานบุญงานกุศล รับแขกบ้านแขกเมือง รับขบวนแห่ ครัวตาน ขบวนกฐิน ขบวนผ้าป่า ก่อน-หลังฟังเทศน์ฟังธรรม โดยใช้คนตี ๒ คน คือ คนตีกลอง และคนตีแซะ เคาะจังหวะ นอกจากเรียกว่า การตีกลองสะบัดชัย บางแห่งเรียกว่า ตุบต้าง , ม้าย่ำไฟ
๓. การตีแบบบอกเหตุ หรือการตีกลองหน้าเดียว เพื่อบอกเหตุร้ายแรง หรือเจ้าอาวาสมรณภาพ
๔. ชื่อผู้ถือปฏิบัติและสืบทอด
๔.๑ ผู้ที่ถือปฏิบัติ
ชื่อ.............สภาวัฒนธรรมตำบลป่าหุ่ง………
วัน เดือน ปีเกิด ...............................
ที่อยู่.......... หมู่ ๑ ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์...๐๕๓ ๖๗๖๔๖๘......................
๔.๒ ผู้สืบทอด
ชื่อ.............องค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่ง……………………..
วัน เดือน ปีเกิด .................................................
ที่อยู่............ หมู่ ๑ ตำบลป่าหุ่ง อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
หมายเลขโทรศัพท์...๐๕๓ ๖๗๖๔๖๘.......................
๕. สถานการณ์คงอยู่ c ปฏิบัติอย่างแพร่หลาย þ เสี่ยงต่อการสูญหาย c ไม่มีปฏิบัติแล้ว