G6
G6
architecture as argument
G6 ในปีการศึกษานี้ยังทำงานต่อเนื่องจากธีม "architecture as argument" โดยกลุ่มมองว่า การสร้าง “argument” ต่อประเด็นที่นักศึกษาแต่ละคนสนใจเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษาสถาปัตยกรรม และการออกแบบสถาปัตยกรรม การทำงานภายในกลุ่มจึงเริ่มต้นจากประเด็นที่นักศึกษาแต่ละคนสนใจเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเริ่มศึกษา ค้นคว้า สร้างคำถามต่อประเด็นนั้น เพื่อเริ่มสร้างมุมมองเฉพาะของตัวเองลงไปเราเรียกมุมมองเฉพาะนี้ว่า "argument" การสร้าง argument จึงเป็นสิ่งที่มีมุมมองเฉพาะของนักศึกษา (a student subjective point of view) จากนั้นจึงขยาย argument ไปเป็น objective ของสาธารณะ ของผู้คน สังคมที่อยู่ในบริบทเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกัน ดังนั้น การออกแบบสถาปัตยกรรมในมุมมองนี้ ก็คือ การเปลี่ยนจาก "a private creation" ของนักศึกษาแต่ละคน ไปสู่ "a public object"*
Study process
การศึกษาของกลุ่มแบ่งเป็นสองช่วงคือ วิจัย (research) และ ออกแบบ (design) โดยมี argument เป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน หลังจากได้ argument นักศึกษาจะเริ่มศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์เป็นโครงการสถาปัตยกรรมในภาคการศึกษาแรก และจะแปลผลจากงานศึกษามาเป็นงานออกแบบสถาปัตยกรรมในภาคการศึกษาสุดท้าย กลุ่มจะให้ความสำคัญกับกระบวนการตีความ กระบวนการถ่ายทอดความคิด กระบวนการออกแบบ และการเลือกใช้เครื่องมือ สื่อ วิธีการนำเสนอที่มีความหลากหลาย และเฉพาะเหมาะสมกับแต่ละโครงการ
Area of interest
ความสนใจของกลุ่มอยู่ภายใต้ศาสตร์วัฒนธรรมศึกษา (cultural studies) กลุ่มมีพื้นฐานความสนใจ สถาปัตยกรรม กับวิธีการศึกษาเชิงมานุษยวิทยา และการยืมแนวคิด วิธีการศึกษาในสาขาวิชาอื่น เช่น ศิลปะ ภาษา วรรณกรรม จิต อาหาร และปรัชญา มาใช้เป็นเครี่องมือในการศึกษาสถาปัตยกรรม เราสนใจการใช้สอยที่ว่างในวัฒนธรรมร่วมสมัย และวัฒนธรรมสมัยใหม่นิยมโดยเฉพาะการศึกษาผ่านกิจกรรมในระดับชีวิตประจำวัน การศึกษาระบบเวลาเฉพาะ ที่ว่างทางสถาปัตยกรรมที่เป็นทั้ง spaces places และ events เราสนใจศึกษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวในชีวิตประวันของผู้คนในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความฝัน จินตนาการ การเดินทาง ท่าทาง การเคลื่อนตัว ข้าวของเครื่องใช้ รอยสัก เสื้อผ้า อาภรณ์ ไพ่ สวน ภาพยนตร์ เกมส์ การแต่งหน้า เค้ก กระรอก นกพิราบ การจัดดอกไม้ หนังสือ อาหาร และการจัดจาน
ยกตัวอย่างเช่นความสัมพันธ์ระหว่าง การประกอบอาหาร กับการออกแบบสถาปัตยกรรม - มนุษย์เราเริ่มต้นการประกอบอาหารโดยมี “วัตถุดิบ” ที่หาได้จาก “พื้นที่” “ความสามารถ” และ “ศักยภาพ” ของตน ผ่านการ “ประกอบ” อาหารโดยอาศัยจุดเริ่มต้นจาก “ไฟ” “เครื่องเทศ” “เครื่องปรุง” และ “เครื่องมือ” ไปจนถึง “ฝีมือ”ของแต่ละบุคคล เพื่อ “ปรุง” วัตถุดิบให้ “สุข" และนำมา “เรียบเรียง” ลงบน “ภาชนะ” ที่มีทั้ง ไม่มีราคา ราคาไม่แพง ไปจนถึง ประเมินราคาไม่ได้ ซึ่งมนุษย์เราไม่เพียงแต่สามารถนำเสนอ “รส-ชาด” ของเมนูอาหารได้ แต่ยังสามารถนำเสนอ“ความ-งาม” ของเมนูอาหารนั้นๆ ได้ ....งานสถาปัตยกรรมก็เช่นกัน
ในภาพรวมเราสนใจมองหาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเราในระดับชีวิตประจำวัน แล้วจึงนำมาเชื่อมโยงสู่ที่ว่าง และการออกแบบที่ว่างทางสถาปัตยกรรม ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการออกแบบ และเพื่อสร้างนิยามที่หลากหลายให้กับสถาปัตยกรรม
Note:
*A guide to essay writing and referencing: writing and essay prepared by Mark Cousins - Director of History and Theory Studies, Architectural Association (AA).
อ.ดร. ดำเนิน เต๋จ๊ะใหม่
(หัวหน้ากลุ่ม)
damnoen.t@cmu.ac.th
อ.ธนพร พรเทวกุล
thanaporn.porn@cmu.ac.th