601710027
601710027
601710027 ธณพงษ์ สถาพรนานนท์
ธรรมสถานผ่านกิจกรรมร่วมสมัย
The Dhamma Place from Contemporary Events
จากสถานการณ์เกี่ยวกับเด็กรุ่นใหม่ที่มีความเครียด - หมดไฟจากการเรียน-การทำงานในปัจจุบัน และแนวโน้มของวัยรุ่นที่ค่อยๆ ห่างเหินจากธรรมะ ข้าพเจ้าจึงตั้งคำถามกับการก่อรูปของวิทยานิพนธ์ว่า ‘เราสามารถจะช่วยบรรเทาปัญหา โดยพาให้คนวัยรุ่นมาสัมผัสและเข้าถึงธรรมะให้มากขึ้นได้อย่างไร ?’
ดังนั้นวิทยานิพนธ์ชิ้นนี้จะทำหน้าที่เป็นรอยต่อระหว่างสิ่งคู่ตรงข้าม เด็ก - ธรรม นี้ เพราะความที่มันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะตรงข้ามกัน ข้าพเจ้าจึงคิดว่ามันจะ functional ก็ต่อเมื่อเรามีสิ่งที่กลุ่มคนวัยรุ่นชอบและสนใจ (ตัวล่อ) เพราะฉะนั้นในทีสิสของผมจะสร้างตัวล่อ เพื่อสร้างความเป็นไปได้ในการดึงดูดให้เด็กวัยรุ่นได้มีโอกาสเข้ามาคลุกคลีกับธรรมมะ ในรูปแบบใหม่ด้วยวิถีที่เด็กเหล่านั้นเป็น จากนั้นจึงสร้างแบบสอบถามเกี่ยวกับความชอบ/ กิจกรรม/ ความสนใจ และมุมมองต่อหลักธรรมะและศาสนา เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลปฐมภูมินำมาใช้ในการออกแบบโปรแกรม
ผมจึงวิเคราะห์ต่อจากข้อมูล แล้วจึงได้โปรแกรมการใช้งานหลักในโครงการประกอบด้วย ๕ กิจกรรม คือ
๑. อ่านหนังสือ
๒. ดื่มกาแฟ
๓. เดินเล่น - วิ่งเพื่อสุขภาพ
๔. ปั่นจักรยาน
๕. เล่นสเก็ตบอร์ด
สเต็ปต่อมาคือ ถึงแม้ว่าเราสามารถดึงดูดเด็กวัยรุ่นได้แล้ว แต่หลักธรรมะก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ซับซ้อน และน่าเบื่อ ผมจึงสนใจที่จะแฝง-ซ่อนธรรมะเข้าไปในกิจกรรมที่พวกเขาชอบ
ผมจึงไปค้นคว้าหลักธรรมที่จะนำมาสอดแทรกเข้าไปในกิจกรรมของวัยรุ่น และตกตะกอนออกมาได้ดังนี้ ‘วิธีการปฏิบัติ คือ กลับมารู้สึกตัว ทางร่างกาย - จิตใจ และเป็นไปเพื่อให้เข้าใจความจริงที่ว่า ร่างกาย-จิตใจนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ใช่ตัวเรา หรือที่เรียกว่า “ไตรลักษณ์” ’
สำหรับพื้นที่ตั้งของโครงการที่เหมาะสมจากกระบวนการคัดเลือกไซต์ คือ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เป็นอุทยานแหล่งเรียนรู้พันธุ์ไม้ที่เอื้อให้ผู้คนเข้ามาดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติ โดยวิทยานิพนธ์ของข้าพเจ้าจะมาขึ้นเป็น Permanent Exhibition เพื่อทั้งยกระดับความนิยมของทางอุทยาน และดึงดูดกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้งานหลักของทีสิส ให้มาใช้งานในที่แห่งนี้มากขึ้นอีกด้วย
จากกระบวนการการพัฒนาโปรแกรมการใช้งานไปบนโซนต่างๆที่คัดเลือกมาบนไซต์ขนาดใหญ่
โครงการ “ธรรมสถานผ่านกิจกรรมร่วมสมัย” นี้ประกอบด้วยพื้นที่ย่อยทั้งหมด ๔ โซน โดยทั้ง ๔ โซนนี้จะมีลำดับการเข้าถึงจากโซนที่ ๑ ไปถึงโซนที่ ๔ โดยวนทวนเข้มนาฬิกาอิงจากผังของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ดังนี้
โซนที่ ๑ มีชื่อว่า “สถาปัตยกรรมจับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติผ่านการเปรียบเทียบ” : สถาปัตยกรรมโซนนี้มีจุดเด่นคือ มีบริบทของไซต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอยู่ ๓ ซีรีย์’ คือ
๑. น้ำในแอ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
๒. แผ่นดินหยุดนิ่งอยู่ตลอดเวลา
๓. ท้องฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงแบบช้าๆ อยู่ตลอดเวลา
ซึ่ง ๓ สิ่งนี้สามารถถูกแสดงออกว่าเป็นหลักธรรม “ความอนิจจัง - เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”
ซึ่งประกอบด้วยการใช้งาน เดินจงกรม นั่งสมาธิ (ที่เป็นพื้นที่รองรับการปฏิบัติธรรม) คาเฟ่สำหรับดื่มกาแฟ และพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ
โซนที่ ๒ มีชื่อว่า “สถาปัตยกรรมดักเสียง เพื่อการรู้สึกตัว” : สถาปัตยกรรมนี้จะมีจุดเด่นคือ ระนาบที่ใช้ในการดักเสียงนกให้สะท้อนอยู่ในลู่ทางขับจักรยานเพื่อให้คนรู้สึกตัว
โซนที่ ๓ มีชื่อว่า “สถาปัตยกรรมที่สามารถเห็นภาพรวมของโครงการ” : เป็นโปรแกรมการใช้งานที่ดึกดูดกลุ่มคนวัยรุ่น โดยออกแบบลานสเก็ตบอร์ดซึ่งให้ล้อไปตามบริบท และทางเชื่อมลานสเก็ตบอร์ดกับทางสัญจรลอยตัวที่มีอยู่เดิมอย่างลงตัว
โซนที่ ๔ มีชื่อว่า “สถาปัตยกรรมกระเพื่อมกาย-ใจ” : โดยทางสัญจรเข้าของสถาปัตยกรรมนี้จะสัญจรแล้วให้ประสบการณ์ต่างๆ คือ “รู้สึกกระเพื่อมบนระดับฝ้าเพดานในสถาปัตยกรรม” “เห็นการกระเพื่อมบนน้ำ” และ “ออกจากการกระเพื่อม” ตามลำดับ
สรุป: “ธรรมสถานผ่านกิจกรรมร่วมสมัย” เป็นสถาปัตยกรรมเพื่อการฝึกจิตใจเบื้องต้นที่มีการออกแบบและถูกคิดค้นให้ตัวสถาปัตยกรรมทำหน้าที่เป็น “เครื่องมือเชื่อมต่อ” ระหว่างหลักธรรม และ ผู้คนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน โดยออกแบบจากธรรมชาติของลักษณะนิสัยกลุ่มผู้ใช้งานดังกล่าว