ศิลปินทัศนศิลป์สาขาจิตรกรรม

1. ศิลปินทัศนศิลป์สาขาจิตรกรรม

ประวัติ

ชื่อ : เฟื้อง หริพิทักษ์

เกิด : ๒๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๓

สถานที่เกิด : จังหวัดธนบุรี ประเทศไทย

การศึกษา : ระดับประถมศึกษาที่วัดสุทัศน์ ระดับมัธยมที่โรงเรียนวัดราชบพิธ และโรงเรียนวัดเบญจมบพิตร เข้าทำงานที่วิทยาลัยช่างศิลป์กรมศิลปากร พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้เดินทางไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยวิศวะ – ภารติ ที่ประเทศอินเดีย และได้รับทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศอิตาลี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๗

อาชีพ : ศิลปิน, จิตรกร

คู่สมรส : ม.ร.ว.ถนอมศักดิ์ กฤดากร

เสียชีวิต : ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖

ผลงานและเกียรติคุณ

ผลงานจิตรกรรมที่ได้สร้างสรรค์ไว้มีมากมาย มีการนำผลงานไปแสดงในโอกาสสำคัญๆ หลายครั้ง เช่น จัดแสดงผลงานร่วมกับคณะศิลปินภายในบริเวณค่ายกักกัน ประเทศอินเดีย การจัดแสดงภาพคัดลอกภาพเขียนโบราณ ณ สถานทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ร่วมจัดแสดงงานศิลปกรรมแห่งชาติหอศิลป กรมศิลปากร รวมทั้งแสดงผลงานเดี่ยวอีกหลายครั้ง เป็นต้น เกียรติคุณสำคัญที่ได้รับ เช่น

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญทอง ประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๓ ครั้ง คือ ครั้งที่ ๑ พ.ศ. ๒๔๙๒ ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๔๙๓ และครั้งที่ ๘ พ.ศ. ๒๕๐๐

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๓ เหรียญทองแดง ประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๙๖

• ได้รับเกียรติยกย่องให้เป็นศิลปินชั้นเยี่ยม ประเภทจิตรกรรม พ.ศ. ๒๕๐๐

• ได้รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการชุมชน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๖ จากมูลนิธิแมกไซไซ ประเทศฟิลิปปินส์

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๘

"คุณยายกับอีสี" เทคนิคสีน้ำมัน

'สะพานที่โรม'

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

เป็นศิลปินที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรมสูง ผลงานส่วนใหญ่จะเป็นภาพวาดด้วยสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ โดยอุปกรณ์ในการวาดภาพจะใช้พู่กันและแปรงขนาดต่างๆ เนื่องจากท่านมีความฉับไวในการปาดป้ายฝีแปรงและพู่กัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับแนวคิดของท่านที่ต้องการถ่ายทอด หากเป็นภาพเหมือนจริง เช่น ภาพคุณยายกับอีสี (อีสีคือแมวของคุณยาย) ลักษณะภาพที่ท่านสื่อออกมา จะสื่อให้เห็นรายละเอียดทุกส่วน จึงใช้พู่กันขนาดเล็กเพื่อใช้ในการเก็บรายละเอียด ผลงานของท่านจะแบ่งเป็น ๓ ระยะ คือ

1. ระยะแรกประมาณ พ.ศ.๒๔๗๐-๒๔๘๔ เป็นแนวอิมเพรสชันนิสม์ ( Impressionism)

2. ระยะที่สอง ประมาณพ.ศ.๒๔๙๒ มีลักษณะเป็นงานทิวทัศน์สมัยใหม่

3. ระยะที่สาม ประมาณ พ.ศ.๒๔๙๘ มีลักษณะหลากหลายแนวทาง

ประวัติ

ชื่อ : สวัสดิ์ ตันติสุข

เกิด : ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๔๖๘

สถานที่เกิด : เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

การศึกษา : จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดรางบัว โรงเรียนวัดนวลนรดิศ สำเร็จการศึกษาศิลปะจากโรงเรียนเพาะช่าง ได้รับอนุปริญญาศิลปบัณฑิต สาขาจิตรกรรมและประติมากรรม จากมหาวิทยาลัย จากนั้นได้ไปศึกษาต่อด้านจิตรกรรมที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งกรุงโรม(Academy of Fine Arts in Rome) ประเทศอิตาลี

อาชีพ : ศิลปิน, จิตรกร

เสียชีวิต : ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๒

ผลงานและเกียรติคุณ

ท่านได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่องผลงานหลายชิ้นของท่านได้รับการยกย่องและชนะการประกวดในระดับชาติหลายครั้งที่สำคัญ เช่น

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญทองประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๒ ครั้ง คือ ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๙๗ ครั้งที่ ๖ พ.ศ. ๒๔๙๘

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงินประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม

๓ ครั้ง

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญทองแดงประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติรวม ๒ ครั้ง

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญทองแดงประเภทจิตรกรรม ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติรวม ๒ ครั้ง

• รางวัลที่ ๑ ประเภทจิตรกรรมจากมหาวิทยาลัยแห่งกรุงโรม ประเทศอิตาลี ปี พ.ศ. ๒๕๐๓

• รางวัลที่ ๑ ประเภทสีน้ำในการประกวดภาพเขียนที่จัดโดย อ.ส.ท. ปี พ.ศ. ๒๕๐๔

• รางวัลที่ ๒ การแสดงศิลปะระหว่างชาติ กรุงไซง่อน ประเทศเวียดนาม ปี พ.ศ. ๒๕๐๕

ผลงานจิตรกรรมของท่านที่สร้างสรรค์ออกมา มีอยู่หลายภาพที่มีความงดงาม เช่น ภาพสายลม ภาพสู่สวรรค์ ภาพหมู่เรือประมง ภาพชายทะเลยามพายุมา ภาพทะเลสีเงิน ผลงานที่สร้างสรรค์ส่วนใหญ่ใช้ทั้งเทคนิคสีน้ำ สีน้ำมัน โดยใช้เส้นน้อยเส้น แต่ดูมีชีวิตชีวาสดใส ท่านได้สร้างสรรค์ผลงานจำนวนมากให้แก่วงการศิลปะไทย ซึ่งเกียรติคุณที่ท่านได้รับ มีดังนี้

• ศิลปินชั้นเยี่ยม (สาขาจิตรกรรม) จากการแสดงงานศิลปกรรมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๙๘

• ศิลปินดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๒๗

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พ.ศ. ๒๕๓๔

• ราชบัณฑิตสำนักศิลปกรรม ประเภทวิจิตรศิลป์

• ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา สาขาวิจิตรศิลป์

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ท่านได้สร้างสรรค์ผลงานจิตรกรรม โดยใช้สีน้ำและสีน้ำมันเป็นหลัก อุปกรณ์มีทั้งกระดาษ และผ้าใบ ในด้านสีน้ำจะใช้วิธีระบายแบบเปียกและแห้ง ทั้งการใช้พู่กันปาดสี หยด พรม เช็ด ทิ้งรอยเปื้อน รวมทั้งใช้พู่กันแต่งแต้มและวาดระบาย บางภาพจะเป็นสีน้ำผสมกับปากกาบนกระดาษ ภาพวาดส่วนใหญ่เป็นภาพเกี่ยวกับทิวทัศน์ มีรายละเอียดของภาพไม่มาก ใช้เส้นน้อย ใช้สีไม่มาก โดยสื่อให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวเหมือนจริงตามธรรมชาติ รูปแบบของงานจิตรกรรมมีทั้งภาพธรรมชาติ กึ่งนามธรรมและภาพนามธรรม ลักษณะเฉพาะของงานจิตรกรรมของท่านที่คุ้นตากันดี ก็คือ ลายเส้นสีที่ใช้พู่กันปาดหวัดๆ อย่างฉับไว แสดงรูปร่าง โครงสร้างของรูปทรงอย่างคร่าวๆ แต่มีความแม่นยำในสัดส่วน เป็นความตั้งใจที่จะไม่เก็บรายละเอียดให้สมบูรณ์ เพื่อแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาในภาพ ภาพของท่านจึงทำให้ผู้ชมได้ใช้จินตนาการดูได้ไม่รู้เบื่อ

ไทย

Landscape Ruins. 38x50 cm. oil on board

ประวัติ

ชื่อ : ถวัลย์ ดัชนี

เกิด : ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒

สถานที่เกิด : จังหวัดเชียงราย

การศึกษา : ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ได้รับทุนการศึกษาของจังหวัดให้ศึกษาที่โรงเรียนเพาะช่าง เรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับทุนจากกระทรวงวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และการศึกษาเนเธอร์แลนด์ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ราชวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

อาชีพ : ศิลปิน, จิตรกร

เสียชีวิต : 4 กันยายน 2557

ผลงานและเกียรติคุณ

ท่านได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะไว้อย่างมากมาย โดยท่านได้นำแนวปรัชญาในพระพุทธศาสนามาสร้างเป็นผลงานศิลปะไทยร่วมสมัย ซึ่งผลงานส่วนใหญ่มีเนื้อหาสาระและการแสดงออกที่สะท้อนจิตวิญญาณของความเป็นไทย ท่านเป็นศิลปินที่มีบทบาทอย่างสำคัญในการนำศิลปะไทยเสนอต่อสายตาชาวโลกด้วยวิธีการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน รางวัลเกียรติยศอย่างมากมาย เช่น

• รางวัลที่ ๒ การประกวดศิลปกรรม ณ วังสวนผักกาด พ.ศ. ๒๕๐๓

• รางวัลที่ ๑ การประกวดศิลปกรรม จัดโดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงเทพ พ.ศ. ๒๕๐๕

• รางวัลเกียรติยศเหรียญทอง จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในฐานะจิตรกรผู้สร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัยพ.ศ. ๒๕๓๘

• ได้รับรางวัลศิลปวัฒนธรรม (Arts andCulture Prize) จาก Fukuoka Asian Culture PrizeCommittee พ.ศ. ๒๕๔๔

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์(จิตรกรรม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๔

• ปริญญาศิลปะดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (สาขาวิชาจิตรกรรม) จากมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๔๕

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ท่านที่มีความถนัดและเชี่ยวชาญในด้านการวาดภาพลายเส้น (Drawing) และการใช้สีอย่างหาตัวจับได้ยาก จำนวนของภาพลายเส้นที่ท่านเขียนไว้มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับภาพเขียนสี สำหรับภาพลายเส้นท่านจะใช้ปากกาลูกลื่นเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงาน ด้วยเส้นที่อ่อนช้อยทั่วทั้งภาพ และมีรายละเอียดมากจนไม่สามารถที่จะนับจำนวนเส้นได้ ซึ่งเส้นจะให้ความรู้สึกที่มีความอ่อนไหวทั้งหมด แต่ประกอบเป็นรูปทรงแล้วกลับทำให้ดูมีพลังมหาศาล แสดงให้เห็นจิตวิญญาณ และความเคลื่อนไหว ภาพเขียนด้วยปากกาลูกลื่นจะเขียนบนกระดาษซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่วนภาพสีท่านจะวาดบนผ้าใบซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ นิยมใช้สีขาวกับหรือสีดำทับสีแดง หรือสีทอง ปาดและป้ายด้วยแปรงจุ่ม ภาพวาดท่านทุกภาพผู้ชมจะเห็นถึงความชำนาญของการใช้อุปกรณ์ซึ่งปรากฏให้เห็นถึงการวาดอย่างฉับพลัน แม่นยำ และแฝงไว้ด้วยพลัง


เพลิงพยัคฆา


ม้า ผลงานสุดท้ายของอ.ถวัลย์

2. ศิลปินทัศนศิลป์สาขาประติมากรรมและสื่อผสม

ศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมและสื่อผสมในประเทศไทยมีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะสรุปประวัติผลงานบางท่านมานำเสนอเป็นตัวอย่าง โดยจะเน้นให้มีความรู้ความเข้าใจในประเด็นรูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์งานของศิลปินท่านนั้นๆ เป็นหลัก

ประวัติ

ชื่อ : ชำเรือง วิเชียรเขตต์

เกิด : ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๔

สถานที่เกิด : จังหวัดกาฬสินธุ์

การศึกษา : จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยา เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเพาะช่าง พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้เข้าศึกษาต่อทางด้านศิลปะ ที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร

อาชีพ : ศิลปิน, ปฏิมากร

ผลงานและเกียรติคุณ

ท่านมีผลงานแสดงในการแสดงศิลปะในระดับชาติและระดับนานาชาติหลายแห่งและหลายครั้ง เป็นศิลปินที่ทำงานต่อเนื่อง และสร้างสรรค์ผลงานตามความคิดและปรัชญาตามทัศนะของท่าน ออกมาเป็นผลงานศิลปะให้ผู้คนได้ชื่นชม รางวัลและเกียรติยศที่ท่านได้รับมีมากมาย เช่น

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๑ เหรียญทอง (ประติมากรรม) ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๖

พ.ศ. ๒๕๐๘

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงิน (ประติมากรรม) ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๘ ครั้ง

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๓ เหรียญทองแดง (ประติมากรรม) ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๒ครั้ง

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๓๙

• นักศึกษาเก่าดีเด่น คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาศิลปากร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๓

• ปริญญาศิลปดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ประติมากรรม) จากมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๔๗

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ท่านเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ด้านประติมากรรมแท้ โดยยืนหยัดสร้างสรรค์ผลงานด้านประติมากรรมปั้นและหล่อ การขึ้นรูปจะใช้การปั้นด้วยดินเหนียวก่อน แล้วหล่อด้วยวัสดุโลหะผสม หรือหล่อด้วยทองสำริด ผลงานของท่านมีทั้งประติมากรรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ประติมากรรมนูนสูง นูนต่ำ รอบตัว ลอยตัว ประติมากรรมอิสระ ประติมากรรมสาธารณะประติมากรรมอนุสาวรีย์ และพระพุทธรูป

ประวัติ

ชื่อ : นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน

เกิด : ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๙

สถานที่เกิด : เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

การศึกษา : สำเร็จการศึกษาระดับศิลปะบัณฑิต และมหาบัณฑิต สาขาประติมากรรม จากมหาวิทยาลัยศิลปากร รุ่นที่ ๒๑

อาชีพ : ศิลปิน, ปฏิมากร



ผลงานและเกียรติคุณ

ท่านเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลากว่า ๔๐ ปี โดยยึดหลักการสร้างสรรค์งานตามแนวของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี คือ ไม่ได้เน้นเรื่องวัสดุในการทำงานมากนัก แต่เน้นที่ความคิด วิธีนำเสนอ วิธีสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมที่เป็นตัวของตัวเอง รางวัลและเกียรติยศที่ท่านได้รับมีมากมาย เช่น

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญเงิน (ประติมากรรม) ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๓ ครั้ง

• รางวัลเกียรตินิยมอันดับ ๒ เหรียญทองแดง (ประติมากรรม)ในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ รวม ๒ ครั้ง

• รางวัลที่ ๒ การประกวดออกแบบพระพุทธรูป ณ วัดทองศาลางาม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (วิจิตรศิลป์) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๙

• ปริญญาศิลปะดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ประติมากรรม) จากมหาวิทยาลัยศิลปากร พ.ศ. ๒๕๕๓

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ท่านเป็นศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นทางด้านประติมากรรมอย่าง วัสดุ อุปกรณ์ที่นำมาใช้ก็จะมีปูนปลาสเตอร์ รวมทั้งวัสดุสมัยใหม่ เช่น โลหะอะลูมิเนียม ทองเหลืองชุบโครเมียม โลหะผสมดีบุก สำริด ทองแดง รวมทั้งการแกะไม้ ผลงานมีทั้งแสดงให้เห็นถึงทักษะในการปั้น การหล่อ และการแกะของศิลปิน จุดเด่นงานของท่าน คือ ดูเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน ผู้ชมสามารถใช้จินตนาการของตนสัมผัสความงามได้ตามมุมมองตน โดยเน้นสื่อความคิด เรื่องราวผ่านทาง ในช่วงแรกของสร้างสรรค์ประติมากรรมผลงานที่เป็นรูปคน ท่านจะพยายามศึกษาข้อมูลรูปทรงของมนุษย์ทุกอย่าง เพื่อให้เข้าใจเรื่องของปริมาตร รูปทรง โครงสร้าง กิริยาอาการการเคลื่อนไหวตามที่เป็นจริงในธรรมชาติหลังจากที่เข้าใจถึงเนื้อหาเกี่ยวกับหลักของการสร้างประติมากรรม โดยอาศัยคนเป็นแบบแล้ว จากนั้นก็ค่อยๆ ลบลักษณะความเป็นคนออกไป คงเหลือไว้แต่รูปทรง ที่สื่อความหมายทางความรู้สึกออกมา

ชื่อ : กมล ทัศนาญชลี

เกิด : ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗ สถานที่เกิด : กรุงเทพฯ

การศึกษา : จบการศึกษาจากวิทยาลัยเพาะช่างในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ และสำเร็จปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนคริน-ทรวิโรฒ ประสานมิตร ในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี และปริญญาโทด้านศิลปะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ๒๕๒๐ ที่สถาบันศิลปะโอติสแห่งลอสแอนเจลิส (Otis Art Instituteof Los Angeles ) รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

อาชีพ : ศิลปิน, จิตรกร

ผลงานและเกียรติคุณ

การนำเสนอผลงานในรูปแบบตามจินตนาการของท่าน ได้รับรางวัลจากการสร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะมากมาย เช่น

• ศิลปินประจำปีของพิพิธภัณฑ์เมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. ๒๕๒๓

• รางวัลศิษย์เก่าดีเด่นจากวิทยาลัยเพาะช่าง กรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๙

• ได้รับทุนสนับสนุนพิเศษของ ดร.เฮเบิร์ธ ฟิลลิป จากกองทุนแห่งชาติด้านวิชามนุษยศาสตร์ร่วมกับ

โครงการบูรณาการวิชาศิลปะไทยสมัยใหม่ ประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. ๒๕๓๔

• ปริญญาศิลปกรรมศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาจิตรกรรม จากสภามหาวิทยาลัยบูรพา

พ.ศ. ๒๕๔๐

• ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๐

รูปแบบการใช้วัสดุอุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน

ท่านเป็นศิลปินที่มีทักษะความเชี่ยวชาญกับการสร้างสรรค์ผลงานที่แปลกใหม่ โดดเด่นมากในผลงานศิลปะสื่อผสม มีทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ประกอบอยู่ในชิ้นงานเดียวกัน วัสดุอุปกรณ์ที่ท่านใช้ มีหลายรูปแบบ เช่น กระดาษ โลหะ พลาสติก วัสดุสังเคราะห์ ผ้าใบ เป็นต้น อย่างผลงานที่นำเสนอแนวคิดผ่านทางหลอดสีนั้น หลอดสีถูกสร้างสรรค์ด้วยวัสดุสังเคราะห์ บนตัวของหลอดสีใช้ภาพพิมพ์แกะไม้ โดยมีการผสมผสานกับการวาดภาพสีนำมันและประติมากรรมลงไปด้วย บางชิ้นงานก็นำเอาไม้และกระดาษมาสร้างเป็นโครงร่างของรูปทรงและฝังวัสดุต่างๆ บนเนื้อไม้ บนกระดาษที่ทำเอง โดยเสริมเติมแต่งด้วยสีน้ำมันผลงานของท่านมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ทำให้ผู้ชมที่สัมผัสกับผลงานของท่านไม่กี่ครั้ง ก็สามารถจะระบุชื่อศิลปินที่สร้างสรรค์ได้