ลักษณะเส้นที่ขัดแย้งกัน
ทิศทางเส้นที่ขัดแย้งกัน
ขนาดของเส้นที่ขัดแย้งกัน
4.1. การใช้น้ำหนักแบบขัดแย้ง คือ การตัดกันของสีดำบนสีขาว เป็นการขัดแย้งกันอย่างมากของน้ำหนัก ส่วนการตัดกันของสีเทาแก่กับสีขาวหรือสีเทาอ่อนกับสีดำ เป็นการตัดกันที่น้อยกว่าของน้ำหนัก
4.2. การใช้น้ำหนักแบบประสาน คือ การใช้น้ำหนักของสีดำกระจายไปบนที่ว่างสีขาว จะได้เอกภาพของน้ำหนักแบบการซ้ำ และเมื่อเราใช้สีเทาแก่หรือสีเทาอ่อนเชื่อมประสานกันก็จะเกิดความเป็นเอกภาพมากขึ้น
คุณลักษณะของพื้นวัตถุในงานทัศนศิลป์และงานออกแบบที่สามารถรับรู้ได้ด้วยตา ลักษณะพื้นผิวจะปรากฏอยู่ในเส้น น้ำหนัก และสี ซึ่งจะช่วยเน้นทัศนธาตุอื่นๆ ให้มีความโดดเด่นมากขึ้นลักษณะพื้นผิวในงานทัศนศิลป์จะมีทั้งแบบที่ขัดแย้งกันและแบบประสานกัน ถ้าใช้ลักษณะพื้นผิวแบบขัดแย้ง ก็ต้องกำหนดพื้นผิวของสิ่งต่างๆ ให้ตัดกัน เช่น ความหยาบกับความละเอียด ความขรุขระกับความเรียบความมันกับความด้าน เป็นต้น
การใช้ลักษณะพื้นผิวโดยวิธีการขัดแย้ง
การใช้ลักษณะพื้นผิวโดยวิธีการขัดแย้ง
สีมีคุณลักษณะพิเศษนอกเหนือไปจากทัศนธาตุอื่น ๒ ประการ คือ ความเป็นสี (Hue) เช่น ความเป็นสีแดง ความเป็นสีเหลือง เป็นต้น และความเข้มจัดของสี (Intensity) ดังนั้น การใช้สีให้มีเอกภาพจึงต้องคำนึงถึงคุณลักษณะพิเศษทั้ง ๒ ประการนี้ด้วย ลักษณะของความเป็นเอกภาพของสี มีดังนี้
6.1. การใช้สีแบบขัดแย้ง การขัดแย้งของสีจะมีความเด่นชัดกว่าความขัดแย้งของทัศนธาตุอื่น ทั้งนี้ สีคู่ตรงข้ามในวงสีธรรมชาติเป็นสีที่ตัดกันอยู่แล้ว ส่วนการตัดกันของสีที่ไม่ใช่คู่ตรงข้ามในวงสีธรรมชาติ ถ้าเป็นการตัดกันของสีที่มีความจัดมาก จะมีความขัดแย้งกันมากกว่าสีที่มีความจัดน้อย และยิ่งสีหม่นลงเท่าใด ความขัดแย้งก็จะยิ่งลดลงมาก จนกลายเป็นความกลมกลืนกันในที่สุด
6.2.การใช้สีแบบประสาน การใช้สีสีเดียว โดยมีน้ำหนักอ่อน-แก่ เป็นการใช้สีแบบประสานซึ่งมีวิธีการง่ายๆ คือ เลือกใช้สีที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกันในวงสีธรรมชาติ หรือใช้สีที่มีความหม่นเท่าๆ กัน ก็จะทำให้ผลงานดูประสานกลมกลืน