ทนายอาสาให้ดำเนินการให้คำปรึกษาในคดีแพ่ง ซึ่งในคดีแพ่งก็มีหลากหลายหมวดหมู่แยกย่อยกันออกไป เช่น ผิดสัญญา เช่าซื้อ เช่าทรัพย์ ละเมิด การจ้างทำของ ในหมวดผิดสัญญาเอง ก็ยังแยกย่อยอีกได้เยอะ เช่น ผิดสัญญาซื้อขาย ผิดสัญญากู้ยืม
ดังนั้นการจะขอคำปรึกษาจากทนายอาสาในคดีแพ่งจึงต้องโฟกัสว่า มีเรื่องเกี่ยวกับอะไร และที่สำคัญคือพยานหลักฐานจะต้องพร้อม หากเป็นเรื่องที่ต้องมีเอกสารเกี่ยวข้องพยานเอกสารจะต้องครบถ้วนไม่เช่นนั้น ทนายอาสาคดีแพ่งไม่สามารถให้คำแนะนำได้
พยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญมากไม่ใช่มีแต่คำพูดปากเปล่า หรือมีแต่พยานบุคคล ไม่มีรูปถ่ายไม่มีหลักฐานอื่นแบบนั้น ฟ้องคดีได้แต่การสืบพยานจะยากมากและก็ไม่แน่ว่าพยานบุคคลที่คาดหวังไว้จะมาเป็นพยานให้เราในชั้นศาลหรือไม่ แม้ เป็นคดีแพ่งก็ตาม ทนายอาสาคดีแพ่ง จึงแนะนำให้เก็บพยานหลักฐานให้ครบก่อน
หากเป็นโจทก์คดีแพ่งและต้องฟ้องคดี โดยปกติทั่วไปท่านจะต้องมีค่าธรรมเนียมศาล 2% และในการว่าจ้างทนายความฟ้องคดีคดีแพ่ง ปกติแล้วมักจะไม่มีทนายฟรีหรือทนายที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดีให้
ในชั้นยึดทรัพย์บังคับคดีก็สามารถปรึกษากับทนายอาสาคดีแพ่งได้เช่นเดียวกัน แต่หากจะเป็นเรื่องการสืบทรัพย์หรือการลงมือทำงานก็ต้องมีค่าใช้จ่าย เบื้องต้นเป็นเพียงแค่การปรึกษาเท่านั้น
บางกรณี เป็นคดีอาญาต้องติดต่อทนายอาสาคดีอาญา