หลักการและเหตุผล
ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 หมวดที่ 4 มาตรา 22 (2546, หน้า 12) ได้กล่าวถึงการจัดการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและตามศักยภาพ ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนผู้สอนจำเป็นต้องจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนอย่างหลากหลาย และมีรูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียนเพื่อสู่การวัดประเมินผลตามสภาพจริง การศึกษาจะต้องจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายที่มุ่งให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้และคุณธรรม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข การจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้คิดเป็น ทำเป็น ให้เกิดการเรียนรู้ทุกเวลาและสถานที่ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ สพฐ. ข้อ 3 พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานทุกระดับ พัฒนาระบบการบริหารจัดการเรียนรู้โดยใช้ระบบเครือข่ายและเทคโนโลยี มีเป้าหมายคือ ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และสามารถแข่งขันในระดับต่าง ๆ จึงได้จัดให้มีโครงการแข่งขันทักษะทางวิชาการขึ้น
โรงเรียนแม่แจ่ม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 เป็นสถานศึกษาที่ให้การศึกษาทั้งทางวิชาการและทักษะวิชาชีพ การฝึกทักษะเป็นผู้ประกอบการในโรงเรียนให้นักเรียนที่มีความประสงค์ในการฝึกวิชาชีพต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของแกลลอรี่จัดในรูปแบบโครงงานอาชีพ เป็นการจัดการเรียนรู้งานอาชีพที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงอย่างครบวงจร ตั้งแต่ การวิเคราะห์ การวางแผน การปฏิบัติงาน การจัดจำหน่าย การบริการ รวมทั้งรายได้จากการจำหน่ายและการบริการ โดยเน้นการบริการ การบริหารจัดการ การตลาด และการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน ลักษณะของงานอาชีพเป็นงานอาชีพที่มีลักษณะเป็นงานบริการ โดยการคัดเลือกสินค้าของนักเรียนที่ได้ผลผลิตจากชุมนุนและกิจกรรมต่างๆของนักเรียนโรงเรียนแม่แจ่มเป็นหลัก เช่น ผ้าตีนจกแม่แจ่ม ผ้าปักม้ง ของชำรวย การเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ซึ่งการปฏิบัติงานอาชีพ ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติเองทั้งหมด ตั้งเริ่มต้นจนสิ้นสุดการปฏิบัติงาน โดยมีครูทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา
ทั้งนี้การประกอบกับทางโรงเรียนแม่แจ่มได้เปิดบริการภูมิแจ่มแกลลอรี่และสหกรณ์ร้านค้าภายในโรงเรียน ซึ่งทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะการจัดจำหน่าย การประกอบอาชีพด้านการบริการ ซึ่งจากการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวนักเรียนสามารถนำทักษะและประสบการณ์ที่ได้รับไปต่อยอดการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ออกไปยังนอกสถานศึกษา นักเรียนสามารถใช้เป็นช่องทางในการหารายได้ระหว่างเรียนและสามารถใช้ความรู้ทักษะที่ได้รับไปต่อยอดประกอบอาชีพในอนาคตได้
สำหรับโรงเรียนแม่แจ่มเป็นการเลี้ยงเพื่อนำมาเป็นอาหารให้แก่นักเรียนหอพักโรงเรียน เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยนักเรียนหอพักจะจัดตั้งกลุ่มเลี้ยงไก่ขึ้นมาเอง และทำการเลี้ยงเอง ดูแลเอง โดยมีครูคอยให้คำปรึกษาถึงกระบวนการเลี้ยงต่าง ๆ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างอย่างเกิดประโยชน์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
2.เพื่อให้นักเรียนมีทักษะการบริหารจัดการด้านการเป็นผู้ประกอบการที่ครบวงจร
3.เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะด้านอาชีพเพื่อใช้เป็นแนวทางในอนาคตได้
4.เพื่อให้นักเรียนรักและภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง
สายพันธุ์หมูที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไปที่โรงเรียนนำมาให้นักเรียนเลี้ยงคือสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์สุกรพันธุ์ดูร๊อกและสุกรพันธุ์เปียแตรง
ข้อดีข้อด้อยของสายพันธุ์หมู
สุกรพันธุ์ดูร๊อก สุกรพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสุกรประเภทเนื้อขนาดใหญ่ รูปร่างหนาลึก ลำตัวสั้นกว่าสายพันธุ์แลนด์เรซ และสายพันธุ์ลาร์จไวต์ มีสะโพกกลมใหญ่เด่นชัด จุดเด่นคือผิวหนังมีสีแดงเข้มไปจนอ่อน หัวขนาดปานกลาง หูย้อยปรกมาทางข้างหน้า แม้จะให้ลูกน้อยและมีไขมันค่อนข้างมาก แต่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ค่อนข้างดี
สุกรพันธุ์เปียแตรงเป็นสุกรที่มีเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงสูงมาก ไขมันบาง มีกล้ามเนื้อเด่นชัด มีอัตราการเจริญเติบโตช้ากว่าพันธุ์ดูร็อค และอาจมียีนที่ทำให้ไวต่อความเครียด จากการเคลื่อนย้ายและสิ่งแวดล้อม ทำให้สุกรเกิดอาการช็อคและตายได้ง่าย เป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนเพียง 1คู่ ปัจจุบันสามารถตรวจสอบและทำการคัดเลือกได้ เมื่อปี พ.ศ. 2547 รัฐบาลประเทศเบลเยี่ยมได้มอบสุกรพันธุ์เปียแตรงให้กรมปศุสัตว์ จากนั้นได้ทำการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ให้ปลอดจากยีนเครียดมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม จัดเป็นสุกรที่มีไขมันบางและให้เปอร์เซ็นต์เนื้อแดงสูงที่สุดในบรรดาพันธุ์สุกรที่นำเข้าจากต่างประเทศ
วิธีการเลี้ยงหมู
เนื่องด้วยโรงเรียนแม่แจ่มมีนักเรียนพักนอนอยู่ภายในโรงเรียน ในแต่ละวันทางโรงเรียนจะมีการทำอาหารให้นักเรียนได้รับประทานทุก ๆ วัน และแต่ละวันก็จะมีเศษผักเศษอาหาร ซึ่งเศษผักเศษอาหารเหล่านั้นเราก็จะนำมาเลี้ยงหมู และเสริมด้วยแกลบและอาหารสำเร็จรูปในวันที่มีเศษผักเศษอาหารน้อย โดยจะมีนักเรียนหอพักจะสลับสับเปลี่ยนกันเป็นผู้ดูแลในการให้น้ำให้อาหาร ทำความสะอาดโรงเรือนเลี้ยงหมูอยู่ทุก ๆ วัน พอหมูอายุได้ 4 – 5 เดือน ก็จะจับขายให้กับสหกรณ์โรงเรียน เพื่อนำส่งขายให้กับบุคคลภายนอกอีกที
การจำหน่าย
การจำหน่ายในแต่ละครั้ง จะจำหน่ายให้กับสหกรณ์โรงเรียน ทางสหกรณ์โรงเรียนจะนำส่งจำหน่ายให้กับบุคคลภายนอก ในการจับหมูจำหน่ายก็จะเลือกไหมูที่อายุประมาณ 4 – 5 เดือนที่มีน้ำหนักตัว 70 กก. ถึง 80 กก. โดยจำหน่ายในกิโลกรัมละ 65-70 บาท ตามกลไกลราคาทางสหกรณ์โรงเรียน