การปลูกพืชไร้ดิน : Hydroponics

ในปัจจุบันการปลูกพืชไร้ดิน (Hydroponics) เป็นที่นิยมกัน อย่างกว้างขวาง มีการปลูกในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และทำรายได้ให้แก่ ผู้ประกอบการเป็นอย่างดี ทั้งนี้เนื่องมาจากว่าผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับสุขภาพกันมากขึ้น จึงเลือกที่จะบริโภคผักที่ปลูกในระบบ Hydroponics ซึ่งมีการปลูกในโรงเรือนที่ควบคุมแมลงศัตรูพืชได้ ทำให้มีการใช้ สารเคมีน้อยลง ผักที่ได้จึงเป็นผักอนามัย มีการปนเปื้อนสารเคมีน้อยมากและเป็นทางเลือกหนึ่งที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจมากขึ้น อีกทั้งการปลูกและ การจัดการต่างๆ ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ทุกคนสามารถปลูกเองได้ทุกครัวเรือน เพื่อบริโภคภายในครอบครัว ทำให้ได้บริโภคผักที่สด สะอาดปลอดภัย และช่วยเสริมสร้าง สุขภาพร่างกายให้แข็งแรงและยังเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว สร้างความผูกพันและความอบอุ่นให้เกิดขึ้นกับครอบครัวได้อีกทางหนึ่งด้วย

ความหมายของ Hydroponics

การปลูกพืชไร้ดินเป็นคำที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ 2 คำคือคำว่า Soilless Culture และ Hydroponics ซึ่งสามารถอธิบายได้ 2 ลักษณะ คือ

1. คำว่า "Soilless culture" เป็นวิธีการปลูกพืชเลียนแบบการปลูกพืชบนดินแต่ไม่ใช้ดินเป็นวัสดุปลูก แต่เป็นการปลูกพืชลงบนวัสดุชนิดต่างๆ เช่น แผ่นฟองน้ำ ทราย กรวด ขี้เลื่อย แกลบ ขุยมะพร้าว ฯลฯ แทนดิน โดยพืชสามารถเจริญเติบโตบนวัสดุปลูกที่ใช้เป็นที่ยึดเกาะและจากการได้รับสารละลายธาตุอาหารพืช ที่มีน้ำที่ผสมกับแร่ธาตุต่างๆ (หรือปุ๋ย) ที่พืชต้องการจากทางรากพืช

2. คำว่า "Hydroponics" เป็นการปลูกพืชที่ไม่ใช้วัสดุปลูก กล่าวคือ จะทำการปลูกพืชลงในสารละลายธาตุอาหารพืช โดยให้รากพืชสัมผัสกับสารอาหารโดยตรง (bare roots) hydroponics มาจากการรวมคำในภาษากรีกสองคำ คือ คำว่า "hydro" หมายถึง "น้ำ" และ "ponos" หมายถึง "งาน" ซึ่งเมื่อรวมคำสองคำเข้าด้วยกันความหมายก็คือ "water-working" หรือหมายถึง "การทำงานของน้ำ (สารละลายธาตุอาหาร)" ผ่านทางรากพืช ดังนั้น การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน จึงหมายถึงวิธีการปลูกพืชเลียนแบบการปลูกพืชบนดิน โดยปลูกพืชลงบนวัสดุปลูกหรือสารอาหาร โดยไม่ต้องมีวัสดุปลูกก็ได้ เพื่อให้พืชได้รับสารอาหาร หรือสารละลายธาตุอาหารพืชที่มีน้ำที่ผสมกับแร่ธาตุที่ต้องการจากทางรากพืช

hydroponics มาจากการรวมคำในภาษากรีกสองคำ คือ คำว่า "hydro" หมายถึง "น้ำ" และ "ponos" หมายถึง "งาน" ซึ่งเมื่อรวมคำสองคำเข้าด้วยกันความหมายก็คือ "water-working" หรือหมายถึง "การทำงานของน้ำ (สารละลายธาตุอาหาร)" ผ่านทางรากพืช ดังนั้น การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน จึงหมายถึงวิธีการปลูกพืชเลียนแบบการปลูกพืชบนดิน โดยปลูกพืชลงบนวัสดุปลูกหรือสารอาหาร โดยไม่ต้องมีวัสดุปลูกก็ได้ เพื่อให้พืชได้รับสารอาหาร หรือสารละลายธาตุอาหารพืชที่มีน้ำที่ผสมกับแร่ธาตุที่ต้องการจากทางรากพืช

ประโยชน์ต่อสุขภาพ บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคปากนกกระจอกช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระป้องกันโรคมะเร็ง ป้องกันโรคหวัด และปลอดสารพิษ

ผักสลัด ฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก (Frillice Iceberg)

เป็นพืชล้มลุก ใบมีสีเขียวห่อหุ้มซ้อนกันเป็นลูกกลมคล้ายกะหล่ำปลีหัว กาบใบด้านนอกห่อซ้อนกันเป็นชั้น และห่อหัวเมื่ออากาศเย็น ปลายใบหยักเป็นฝอยก้านใบกรอบ น้ำหนัก 170- 200 กรัม/ต้น

ผักสลัดบัตเตอร์เฮด (Butter Head)

เป็นพืชล้มลุก ลักษณะห่อหัว ใบมีสีเขียว กาบใบห่อซ้อนกันเป็นชั้น น้ำหนัก 170-200 กรัม/ต้น

ผักสลัด กรีนโอ๊ค (Green Oak)

เป็นพืชล้มลุกไม่ห่อหัว ใบมีสีเขียวซ้อนกันเป็นชั้น ปลายใบหยักเป็นลอน โค้งมน น้ำหนัก 160-190 กรัม/ต้น

ผักสลัด เรดคอรัล (Red Coral)

เป็นพืชล้มลุก ไม่ห่อหัว ก้านใบสีเขียวคล้ำ ช่วงกลางถึงปลายใบมีสีแดง ใบซ้อนกันเป็นชั้น ปลายใบหยักเป็นคลื่น ขอบใบหยัก ไม่หุ้มติดกัน น้ำหนัก 100-140 กรัม/ต้น

ผักสลัด คอส (Cos )

เป็นพืชล้มลุก ใบมีสีเขียวห่อหุ้มซ้อนกัน กาบใบด้านนอกห่อซ้อนกันเป็นชั้น และห่อหัวเมื่ออากาศเย็น ปลายใบหยัก ก้านใบกรอบ น้ำหนัก 190-210 กรัม/ต้น

ผักสลัด เรดโอ๊ค (Red Oak)

เป็นพืชล้มลุก ไม่ห่อหัว ก้านใบสีเขียวคล้ำออกไปทางน้ำตาลแดง ช่วงกลางถึงปลายใบมีสีแดงถึงน้ำตาลแดงเข้ม ใบซ้อนกันเป็นชั้น ปลายใบหยักเป็นลอน ลักษณะโค้งมน แต่เป็นเหลี่ยมและมีรอยเป็นแฉกชัดเจน มากกว่ากรีนโอ๊ค น้ำหนัก 130-170 กรัม/ต้น

ภาพกิจกรรมการปลูกพืชไร้ดินของนักเรียนหอพักนอน