ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum melongena L.
ชื่อสามัญ Egg plant, Potato tree
วงศ์ Solanaceae
ชื่ออื่นๆ มะเขือไข่ม้า, มะแขว้ง, มะแข้งคม, มะเขือป้าว (ภาคเหนือ), มะเขือฝรั่ง (กรุงเทพฯ), มะเขือขาว, มะเขือจานมะพร้าว, มะเขือกระโปกแพะ, มะเขือจาน (ภาคกลาง), สะกอวา, ยั่งมูไล่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), เกียจี้ (จีน)
ถิ่นกำเนิดจะอยู่แถบประเทศพม่าและอินโดจีน ซึ่งพบว่ามีความหลากหลายทางพันธุกรรมมาก แหล่งอื่นที่สันนิษฐานว่าอาจเป็นถิ่นกำเนิดคือ แถบประเทศจีน และทวีปแอฟริกา ในปัจจุบันมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในเขตร้อน เขตกึ่งร้อน เขตอบอุ่น และการปลูกในเรือนกระจกของเขตอบอุ่น เป็นพืชที่มีการปลูกสืบเนื่องมาเป็นเวลานาน มีความหลากหลายของสายพันธุ์ ลักษณะรูปทรงและสีสันของผลจึงแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ตั้งแต่ขาว เขียวอ่อน เขียวแก่ เหลือง และม่วง ผลมีรูปร่างเป็นทรงกลมเรียกว่า มะเขือเปราะ ผลเป็นทรงรีเรียกว่า มะเขือไข่เต่าหรือมะเขือม่วง ผลทรงยาวเรียกว่า มะเขือยาว
ต้นเป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ลักษณะของลำต้นจะแข็งแรง มีสีเขียวหรือสีม่วง ลำต้นมีขนนุ่ม และสั้นปกคลุมทั่ว หรืออาจมีหนามเล็ก ๆ ส่วนบนจะแตกกิ่งก้านสาขาหนาทึบ ใบจะออกสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปค่อนข้างกลม โคนใบเบี้ยว ส่วนปลายใบแหลม ริมขอบใบหยัก หรือเป็นคลื่นหลังใบ และใต้ท้องใบจะมีขนนุ่มปกคลุม ขนาดของใบยาวประมาณ 2.5-7 นิ้ว กว้างประมาณ 1.5-5 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 1 นิ้ว ส่วนดอกออกเป็นช่อ หรือออกเป็นดอกเดียว ลักษณะของดอกมีสีม่วง กลีบดอกมี 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันส่วนปลายแยกจากกันเป็น 5 แฉก ปลายแหลม กลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อันและตัวเมีย 1 อัน อยู่ติดกับกลีบดอก ก้านเกสรและอับเกสรเป็นสีเหลือง ผลจะมีลักษณะกลมยาว มีสีเขียวอ่อน สีม่วงคล้ำ หรือเป็นสีขาว ผิวเปลือกจะเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ตรงขั้วผลก็จะมีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่ ส่วนการขยายพันธุ์ มะเขือยาวเป็นพรรณไม้เจริญเติบโตได้ดีในดินอุดมร่วนซุย ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โพแทสเซียม วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซีและสารไกลโคอัลคาลอยด์ (glycoalkaloids) สารต้านเอนไซม์โปรทีเอส สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เทอร์ปีน (terpenes)
ผลมะเขือยาวมีวิตามิน เอ บี ซี และ พี ไขมัน โปรตีน น้ำตาล และเกลือแร่ต่างๆ โดยทั่วไปในมะเขือยาวผิวสีม่วงจะมีวิตามิน P ในปริมาณที่มาก ในมะเขือยาวผิวสีม่วง 600 กรัม มีวิตามิน P มากกว่า 3,600 มิลลิกรัม วิตามิน P สามารถเพิ่มภูมิต้านทานเชื้อโรคให้กับหลอดโลหิตฝอยไม่ให้แตกง่าย ทำให้หลอดเลือดทำงานได้ตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดแข็งตัว โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจโคโรนารี (Coronary) มีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือโรคลักปิดลักเปิด เป็นต้น ควรกินมะเขือยาวเป็นประจำ จะทำให้อาการโรคดังกล่าวทุเลาลงหรือหายได้
มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น รากและลำต้นใช้แก้บิดเรื้อรัง หรือถ่ายเป็นเลือด เท้าเปื่อยบวมอักเสบ ปวดฟันแปหและใช้รักษาแผลที่เกิดจากการถูกความเย็นจัด ใบใช้แก้ปัสสาวะขัด หนองใน ถ่ายเป็นเลือด ตกเลือดในลำไส้ แผลบวมอักเสบ มีหนอง ดอกใช้แก้แผลมีหนองและปวดฟัน ขั้วใช้เป็นยาแก้ฝีอักเสบ มีหนองแผลในช่องปากและปวดฟัน
ลำต้นและราก ใช้ลำต้นและรากแห้ง ประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้ม เอาน้ำกินเป็นยาแก้บิดเรื้อรัง บิดอุจจาระเป็นเลือด หรือใช้ลำต้นและรากสดนำมาตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทาหรือล้างบริเวณที่เป็นแผล ที่ถูกความเย็น แผลเท้าเปื่อยอักเสบ
ใบ ใช้ใบแห้ง นำมาตำให้เป็นผงละเอียดกินประมาณ 6-10 กรัม เป็นยาแก้โรคบิดอุจจาระเป็นโลหิต แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคหนองใน แก้ตกเลือดในลำไส้ ใช้ภายนอกนำเอามาต้มเอาน้ำใช้ล้างแผล หรือใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลบวมเป็นหนอง และแผลที่เกิดเนื่องจากถูกความเย็น
ดอก ใช้ดอกสด หรือดอกแห้ง นำมาเผาให้เป็นเถ้าแล้วบดให้เป็นผงละเอียด ใช้มาบริเวณที่ปวดเป็นยาแก้ปวดฟัน ฟันผุ และบริเวณแผลที่มีหนอง
ผล ใช้ผลแห้ง นำมาทำเป็นยาเม็ด กินเป็นยาแก้ปวด แก้ตกเลือดในลำไส้ ขับเสมหะ อุจจาระเป็นโลหิต หรือใช้ผลสด นำมาตำให้ละเอียดใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลอักเสบที่มีหนอง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง และผดผื่นคัน
ขั้วผล ใช้ขั้วผลที่แห้ง ประมาณ 60-90 กรัม นำมาต้มหรือเผาให้เป็นเถ้าบดให้ละเอียดกิน เป็นยาแก้ตกเลือดในลำไส้ อุจจาระเป็นโลหิตหรือใช้ขั้วผลสดนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกหรือทา บริเวณที่เป็นแผลบวมมีหนอง แผลในปาก ปวดฟัน หรือเป็นฝี