รายชื่อในหน้าเพจนี้เป็นรายชื่อสัตว์วิเศษที่ได้รับการลงทะเบียนใน Google Sheet [ToB3] ทำเนียบสัตว์วิเศษ ซึ่งเป็นฐานข้อมูลออฟฟิเชียลของคอมมูนิตี้ ToB 3
ผู้เล่นและผู้ที่สนใจอยากเห็นสัตว์แปลกๆ หรืออยากสร้างสัตว์วิเศษที่น่าสนใจ สามารถทักมาพูดคุยกันกับทางผู้คุมเพื่อออกแบบสร้างสรรค์ร่วมกันก่อนได้ และจะได้ตระเตรียมข้อมูลไว้สำหรับการลงทะเบียนสัตว์วิเศษออฟฟิเชียลในโอกาสต่อไป (ไม่จำเป็นต้องทักผ่านแอคทางการของผู้คุม แต่สามารถทักทางแอคส่วนตัวของทางสกอร์ปิโอมาได้เลยค่ะ)
มังกรและมังกรสมุทร
มังกรสมุทรเลื่อมเพชร
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Icebound Sea Serpent
ประเภท - มังกรสมุทร
ธาตุ - น้ำแข็ง
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
ระดับความหายาก - C
← มังกรสมุทรเลื่อมเพชรเพศเมียขนาดตัวเต็มวัย
ข้อมูลทางกายภาพ
ขนาด แรกเกิด 15 ซม.
ตัวเต็มวัย 80-100 ซม.
น้ำหนัก แรกเกิด 100-120กรัม ตัวเต็มวัย 12-15 กิโลกรัม
ตัวผู้ตัวเมียขนาดไม่ต่างกัน
เป็นมังกรสมุทรชนิดที่มีขาและเท้า ระหว่างนิ้วจะมีพังผืดสำหรับว่ายน้ำ
เล็บนิ้วโป้งของเท้าทั้งสี่โค้งงอและคมเหมือนมีด ใช้ในการช่วยกินอาหาร
ตัวผู้มีเดือยแหลมที่ข้อเข่าขาหน้า ตัวเมียมีหนวดยาวหนึ่งคู่
เกล็ดของมันมีลักษณะคล้ายปริซึม เวลาอยู่บนฝั่งจะสะท้อนแสงเป็นสีเหลือบรุ้ง แต่เวลาอยู่ในน้ำ จะสะท้อนเป็นสีใดสีหนึ่งในเจ็ดสีของสีรุ้ง
มีนานครั้งที่จะพบตัวที่เกล็ดสะท้อนแสงเป็นสีขาว ซึ่งถือเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม
ฟันคม กรามแข็งแรง
อายุขัย 30-40 ปี
มังกรสมุทรเลื่อมเพชรมีไข่สีเขียวมาลาไคท์ ลวดลายเหมือนลูกคลื่น ขนาดประมาณไข่ห่าน ผิวสัมผัสเรียบและมีไอเย็น ต้องใส่ในตู้น้ำตลอดเวลา (น้ำทะเล แต่ถ้าเป็นน้ำกร่อยจะดีมาก)
การฟักไข่
ใส่ไว้ในบ่อน้ำ/แหล่งน้ำที่มีน้ำไหลผ่านตลอดเวลา อุณหภูมิ 25-30 องศา มีโคลนเลนที่ก้นบ่อ ฝังไข่ลงไปราว1/3 ให้โดนแดดอ่อนเช้าเย็น ควรเป็นบ่อ/แหล่งน้ำที่มีร่มเงา (สภาพเหมือนป่าชายเลนนั่นเอง)
ความนิยม
หนึ่งในมังกรสมุทรพันธุ์เล็กที่สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงในบ้านได้
เนื่องจากเป็นมังกรสวยงาม และมีคุณสมบัติพิเศษ จึงเป็นสัตว์เลี้ยงเอ็กโซติกที่หายากและราคาแพงมาก
ในยุคหนึ่งเคยนิยมมีการล่าเพื่อเก็บไข่มาเพาะเลี้ยง แต่ปัจจุบันเป็นสัตว์อนุรักษ์ มีฟาร์มภายใต้การดูแลของสถาบันมังกรสมุทรศาสตร์
สถาบันมังกรสมุทรศาสตร์กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับภาวะจำศีลของไข่ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อวิชาเวทมนตร์และวงการการแพทย์ในอนาคต (ข้อมูลปกปิด)
มีการนำมังกรและไข่ที่เพาะได้ออกประมูลขายแบบจำกัดจำนวนเพื่อหารายได้ทุกๆ3เดือน (=จำนวนมังกรที่ออกสู่ตลาดแต่ละปีมีจำนวนคงที่)
สีทองและสีม่วงเป็นและนิยมมาก แต่ที่นิยมมากที่สุดคือสีขาวซึ่งถือเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรม
สีขาวมีราคาสูงลิบลิ่วเนื่องจากนานทีปีหนจะพบเข้าสักตัวหนึ่ง เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
แต่ความจริงแล้วมังกรสมุทรเลื่อมเพชรสีขาวนี้ไม่สามารถอยู่ในธรรมชาติได้ เพราะสีขาวของมันไม่สามารถพรางตัวได้ และถูกนักล่าที่ใหญ่กว่าโจมตี
เกล็ดของมังกรสมุทรเลื่อมเพชรเป็นของที่มีราคาสูงและหายาก ขนาดใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดประมาณ 2*2 ตร.ซม คุณสมบัติคือลอยน้ำได้ นิยมทำเป็นเครื่องรางหรือเครื่องประดับ และเป็นส่วนประกอบของหน้าปัดเข็มทิศ
หากป่นเกล็ดเป็นผงและผสมกับตัวยาที่ถูกต้อง จะเป็นน้ำยาเคลือบเพื่อรักษาสภาพสิ่งของเช่นกระดาษ หรือหนัง สามารถรักษาสภาพไว้ได้นานนับร้อยๆปีโดยไม่ต้องใช้เวทมนตร์ช่วย เป็นที่นิยมมากในการทำสัญญาทางราชการต่างๆ ปีหนึ่งๆสามารถผลิตได้ไม่ถึงร้อยตลับ เป็นของล้ำค่ามาก
พฤติกรรม
ใช้ชีวิตในน้ำตื้น และเขตป่าชายเลนรอบชายฝั่งสกอร์ปิโอ บางส่วนอาศัยในเขตดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ
วัยเด็กเติบโตในน้ำกร่อยตามลำน้ำสาขาตามชายฝั่งภาคเหนือของสกอร์ปิโอ หน้าร้อนจะอพยพตามน้ำขึ้นทะเลเหนือไปอาศัยในน่านน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นลงทำให้ไม่ค่อยพบตัว
อุปนิสัยรักสงบ แต่หวงถิ่น(รัง) ยึดถือที่ๆมันลืมตาตื่นเป็นรัง เมื่อถึงวัยเจริญพันธ์ุก็มักสร้างรังใหม่ของตัวใกล้ๆกับรังเดิม
เป็นมังกรที่ขึ้นชื่อว่าจะครองคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต
ผสมพันธ์และวางไข่ในหน้าร้อน โดยตัวเมียจะเป็นฝ่ายออกจากรังเดิม ส่วนตัวผู้จะสร้างรังของตนจากหินและสาหร่ายประกอบเข้ากับรากไม้ในเขตป่าชายเลนเพื่อให้ตัวเมียได้เลือกสรรค์ พวกมันจะจับคู่ครั้งเดียวและใช้รังเดิมชั่วชีวิต
วางไข่ครั้งละ2-5ฟอง (และมักจะมีไข่ที่ฝ่อ1-2ฟองเสมอ)
ปกติใช้เวลาฟักไข่45-50วัน แต่ในบางครั้งหากถูกน้ำพัดพาและฝังลงในเลนลึก ไข่จะอยู่ในสภาพจำศีลได้นานที่สุด3ปี หากขึ้นมาอยู่ในสภาพที่เหมาะสมภายในเวลา3ปีนี้ก็ยังมีความหวังว่าจะสามารถฟักออกมาได้
ลูกมังกรที่เพิ่งฟักมักจะตัวเบาจนลอยไปกับน้ำง่าย ช่วง0-2อาทิตย์แรก นอกจากเวลากินแล้วมันจะกัดติดที่ขาหรือหางของพ่อแม่ไม่ให้ตัวเองลอยหายไป พ่อแม่มักมีรอยแหว่งที่เกล็ดในจุดดังกล่าว
สิ่งที่ชอบกินคือ กุ้ง ปู ดอกไม้ทะเล ปะการังและกัลปังหา บางครั้งก็เป็นหอยสองฝา ชอบกัดแทะเปลือก มักไม่ชอบกินปลา–เว้นปลาชนิดหนึ่งที่มันโปรดปรานมาก นั่นคือปลาปักเป้า (ยิ่งพองๆยิ่งชอบ)
ล่าเหยื่อเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยสลับกันระวังภัยและกิน นานครั้งถ้าเจอฝูงปลาปักเป้าถึงรวมเป็นกลุ่มใหญ่
ในวันที่อากาศเย็นมักชอบขึ้นมาผึ่งแดดบนรากไม้ชายเลนหรือก้อนหินริมน้ำ
เป็นเหยื่อของนักล่า เช่นฉลาม วาฬ มังกรสมุทรพันธ์ุใหญ่ หรือสัตว์ดุร้ายอื่นๆ และเคยถูกล่าโดยมนุษย์ในช่วงเวลาหนึ่ง
ความสามารถพิเศษคือการแผ่ไอเย็น หากตกใจหรือพยายามป้องกันตัว จะพ่นน้ำที่อุณหภูมิเยือกแข็งผ่านช่องเหงือกข้างลำตัวออกไปโดยแรง และพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว
มีความชาญฉลาดสูง
การเลี้ยง
จะเชื่องกับคนคนแรกที่ยอมให้มันกัด (ส่วนมากจะเป็นนิ้ว)และกัดค้างไว้อย่างนั้น อาจจะสั้นแค่ 1 ชั่วโมง หรือสถิติสูงสุดที่เคยบันทึกไว้คือ 7.2 ชั่วโมง
หากเลือกรับเลี้ยง ยามที่ไปรับที่สถาบัน ทางเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ใช้เวลาในการสร้างความคุ้นเคยและให้มังกรได้กัด ในช่วงเวลานั้นผู้เลี้ยงต้องเข้าอบรมวิธีเลี้ยงดูจนครบ3ชั่วโมง
หากประมูลเป็นไข่ จะมีคู่มือการเลี้ยงเล่มหนามอบให้
ความที่ค่อนข้างชอบน้ำที่เย็น - เย็นจัด หากเลี้ยงในบ่อต้องมีการจัดการน้ำที่ดีและมีผลึกทำความเย็นรอบบ่อ
ควรมีพื้นที่ให้ปีนป่ายขึ้นมาตากแดดอ่อนๆในยามเช้าและเย็น
เวลาแดดจัดหรืออากาศร้อน มักอยู่ในน้ำหรืออยู่ในร่ม
สามารถอุ้มเล่นได้ ขี้อ้อน เว้นแต่จะเป็นช่วงอุ้มท้องและวางไข่
มังกรสมุทรเลื่อมเพชรไวต่อเวทประเภทอาคมคำสาปมาก เมื่อรับรู้ได้ถึงการใช้ หรือผู้ที่มีสิ่งของต้องสาปติดตัวเข้าใกล้ มันจะกางเล็บและครีบข่มขู่ทันที
มังกรสมุทรผลึกเงิน
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Argentate Sea Serpent
ประเภท - มังกรสมุทร
ธาตุ - แสง
แหล่งที่พบ - แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในสกอร์ปิโอ - สถานเพาะพันธ์ุในสถาบันมังกรสมุทรศาสตร์, ร่องน้ำลึกในทะเลตะวันออก
ระดับความหายาก - A
ลักษณะ -
มีขนาดเล็ก มีขาและเท้าหน้า ไม่มีเท้าหลังแต่มีครีบยาวทดแทน ไม่มีเกล็ดแต่มีผิวหนังที่หนาและเรียบ
นิสัย - ชาญฉลาด ขี้ระแวง ไม่ดุร้ายเว้นแต่จะอยู่ในช่วงเลี้ยงดูลูก
อื่นๆ -
ไม่ชอบอยู่ร่วมกันเป็นฝูง
ออกลูกเป็นไข่ ครั้งละ2-4ฟอง
มังกรโบราณที่เคยปรากฏตัวในเอกสารหลายฉบับ จากความสง่างามยามแหวกว่าย และฝูงปลาที่จะมารวมตัวกันในกระแสน้ำโดยรอบ ครั้งหนึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ที่สำคัญในน่านน้ำทะเลตะวันออก
นอกเหนือจากนั้น เลือดของมังกรสมุทรผลึกเงิน หรือที่ในตำนานพื้นบ้านเรียกว่า ‘เกล็ดผลึกเงิน’ จากความที่มันเปลี่ยนเป็นเกล็ดสีเงินระยิบระยับยามต้องอากาศบนบก ถูกใช้เป็นส่วนผสมของโอสถแก้พิษหลายตำรับ เชื่อกันว่าเป็นกระสายยาของยาอายุวัฒนะ ซึ่งเป็นที่ต้องการมากในยุคสงครามราชนาวี-โจรสลัด เพราะเหตุนี้มังกรผลึกเงินจึงได้ถูกล่าจนแทบสูญพันธ์ ส่วนที่เหลือหลบลี้หลีกภัยออกไปในท้องทะเลลึกที่พวกมันไม่คุ้นเคยเพื่อเอาชีวิตรอด
30 กว่าปีก่อนมีผู้พบร่างที่บาดเจ็บของมังกรสมุทรรูปร่างแปลกตานอนเกยตื้นอยู่ที่ชายหาด จึงรีบประสานให้เจ้าหน้าที่ของสถาบันมังกรสมุทรศาสตร์เข้ารับตัวไปรักษาพยาบาล พวกเขาต้องค้นคว้าอยู่นานถึงพิสูจน์ทราบว่านี่คือลูกหลานของมังกรสมุทรผลึกเงินที่เคยทิ้งชื่อไว้ในตำนานเรื่องเล่าพื้นบ้านของชาวเผ่าทะเลมาเนิ่นนานนั่นเอง
ในที่สุดทางสถาบันมังกรสมุทรศาสตร์ก็ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูสายพันธุ์ของมังกรสมุทรผลึกเงิน โดยได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยทั้งจากโรมันและลิบรา และได้เริ่มปล่อยมังกรที่ถูกเพาะพันธุ์กลับสู่ธรรมชาติเพื่อศึกษาการปรับตัวของพวกมัน
ในขณะเดียวกันเลือดตัวอย่าง ทางสกอร์ปิโอก็ได้ส่งต่อให้ศูนย์วิจัยด้านเภสัชวิจัยต่อไป
มังกรสมุทรหิมาการ
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Icebound Sea Serpent
ประเภท - มังกรสมุทร
ธาตุ - น้ำแข็ง
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ปกติจะอยู่ในน่านน้ำลึกทั่วไป แต่หากมีลูกแรกเกิดจะอยู่ใกล้ผิวน้ำ
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ -
มังกรขนาดพิเศษ สัดส่วนโดยประมาณเทียบกับวาฬหัวทุย (15-18ม.)
มีขาหน้า 1 คู่ ครีบอก 1 คู่
กินปลาเป็นอาหาร มักพบออกติดตามฝูงปลาพร้อมกับคู่
ออกลูกเป็นไข่ แต่ไข่มีลักษณะเดียวกับฉลาม วางไข่ครั้งละ15-30ฟอง
นิสัย - มีคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต รักสงบ เพราะตัวใหญ่เลยไม่ค่อยกลัวผู้ล่าอื่นๆ
อื่นๆ -
มังกรสมุทรขนาดยักษ์ที่ปกติหาได้ยากเนื่องจากพวกมันจะใช้ชีวิตใต้ทะเลลึกไปจนถึงแถบก้นทะเล หาอาหาร พักผ่อน ไปจนถึงจับคู่ผสมพันธ์และวางไข่อยู่ในความลึกที่แสงอาทิตย์ส่องไม่ถึง พวกมันจะวางไข่ใต้ชะง่อนผาใต้ทะเล และสร้างป้อมน้ำแข็งขึ้นมาเพื่อปกป้องไข่ที่บอบบางเหล่านั้น เป็นที่มาของชื่อของพวกมัน
ป้อมน้ำแข็งจะถูกทำลายเมื่อพ่อแม่ได้ยินเสียงการฟักตัวของตัวอ่อน หรือเมื่อพ่อแม่ที่เป็นตัวสร้างป้อมตายลงป้อมจะค่อยๆสลายไปเอง หากเป็นกรณีหลัง ไข่ของพวกมันที่วางไว้ก็สามารถลอยไปตามกระแสน้ำ บ่อยครั้งที่ชาวประมงตกมันได้จากผิวน้ำและมันจะกลายเป็นอาหารมื้อใหญ่ พวกเขาเรียกมันว่าของขวัญจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
เมื่อลูกๆของมันฟักออกจากไข่ ด้วยร่างกายอ่อนแอต่อแรงดันน้ำ พ่อแม่จึงพามันขึ้นมายังผืนน้ำด้านบน และโดยปกติลูกมังกรเหล่านี้จะฟักตัวในฤดูหนาว ซึ่งตรงกับฤดูกาลล่าวาฬของสกอร์ปิโอ ทำให้พวกมันกลายเป็นเป้าหมายของการล่าไปด้วย
นับเป็นหนึ่งในมังกรสมุทรที่ชาวสกอร์ปิโอนิยมล่ามารับประทาน จัดอยู่ในมังกรประเภทเนื้อขาว (เนื้อแบบปลาคอด/ปลาหิมะ) ด้วยอุณหภูมิของเนื้อที่ค่อนข้างเย็นและเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศได้ช้าจึงไม่นิยมแช่แข็ง เพราะเพียงเก็บไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิ(ลักษณะเดียวกับข้องเก็บไวน์) ก็สามารถเก็บไว้ได้นาน เพราะมีฤทธิ์เย็นจึงนิยมนำมารับประทานในฤดูร้อน
ดวงตาของมังกรสมุทรหิมาการจัดเป็นยาบำรุงที่ดีของผู้ที่ป่วยด้วยโรคความร้อน บาดเจ็บจากไฟ หรือพิษที่มีฤทธิ์ไหม้/แผดเผา
มังกรสมุทรพาฬจักร
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Walquish Sea Serpent
ประเภท - มังกรสมุทร
ธาตุ - ไม่มีธาตุ
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ในน่านน้ำทั้งทะเลตะวันออกและทะเลหลวง
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ -
มังกรขนาดกลาง อยู่กับเป็นฝูงเล็ก 5-7 ตัว
มีฟันเขี้ยวลักษณะคล้ายงาที่มุมปากสองข้าง แรงกัดของมันมหาศาล มีเดือยแหลมที่โคนหาง ใช้สำหรับการจู่โจมรอบตัว
ลำตัวมีผิวหนังหนาแถมยังปกคลุมด้วยเกล็ดขนาดใหญ่ บนหัวของมันเป็นแผ่นกระดูกแข็ง พวกมันใช้แผ่นกระดูกนี้ทั้งจู่โจมและป้องกันการจู่โจมจากศัตรู
นิสัย - ดุร้าย เป็นมังกรนักล่า รักฝูง หวงถิ่น กินสัตว์ทุกชนิดที่มีขนาดเล็กกว่าตัวเอง แน่นอนว่ามังกรก็ด้วย ออกล่าเป็นฝูง
อื่นๆ -
มังกรเนื้อแดงที่เนื้ออร่อยที่สุดที่ชาวสกอร์ปิโอชอบ
หนึ่งในมังกรที่อาศัยอยู่ในเขตน้ำอุ่นของสกอร์ปิโอ ดุร้ายยิ่งกว่าฉลามกับวาฬเพชรฆาตรวมกัน เนื่องจากเป็นมังกรประจำถิ่นจึงล่าได้ทุกฤดูกาล แต่ความดุร้ายของมันจึงต้องออกล่าเป็นกองเรือ เพราะมังกรชนิดนี้มีแรงกัดมหาศาล และมักพุ่งชนกระแทกตัวเรือที่รุกล้ำอาณาเขตหรือเข้าใกล้พวกมันเกินไปอย่างรุนแรง
เนื้อของมังกรชนิดนี้เป็นประเภทเนื้อแดง (แบบเดียวกับเนื้อวาฬ) แต่เพราะมันเป็นปลาที่มีปริมาณการกินต่อวันมหาศาลเพื่อให้เหมมาะสมกับการใช้พลังงานของมัน ทำให้เนื้อของมังกรชนิดนี้เป็นเนื้อที่มีมันแทรกตลอดตัว (=ทั้งตัวเป็นเนื้อแบบโอโทโร่) และมีชั้นไขมันใต้ผิวหนังหนาราวกับเป็นสัตว์จากน่านน้ำหนาวเย็น
ซุปที่ทำจากครีบของมังกรสมุทรพาฬจักรว่ากันว่ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล รวมถึงของเหลวในงาและเดือยของมันเชื่อว่าจะทำให้อ่อนเยาว์และสุขภาพแข็งแรง
มังกรที่ล่าได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หมดทั้งตัว โดยเฉพาะแผ่นกระดูกบนหัวที่มักนิยมเอาไปทำโล่ และหากเป็นแผ่นที่ได้จากมังกรตัวลูกที่กระดูกยังไม่แข็งจนคงรูป ก็สามารถนำไปทำเกราะได้ด้วย
มังกรกลาบาต 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Patrol Dragon
ประเภท - มังกร
ธาตุ - ลม
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ทั่วไป
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ -
มังกรขนาดเล็ก-กลาง รูปลักษณ์คล้ายๆไดโนเสาร์ช่วงวิวัฒนาการเกล็ดเป็นขนปีก แต่งานนี้เป็นวิวัฒนาการกลับกันแทน จากขนปีกเป็นเกล็ด---
มีลักษณะสายพันธุ์แบบไวเวิร์น = มีหางยาว1 ขาหลังยาวๆคู่นึง ปีกที่วิวัฒนาการมาจากขาหน้าคู่นึง ตอนนี้อยู่ระหว่างวิวัฒนาการยาวนานพอดี ตอนนี้เลยกลายเป็นส่วนปีก มีขนแบบขนนกงอก แต่ส่วนอื่นกลายเป็นเป็นขนปุยสั้นนู่มแบบลูกนกเพนกวิ้น งอกมาจากผิวที่หนาและเด้งเหมือนยาง
หากมันตบหางที่มีรูปทรงเหมือนพัดลงบนพื้นแรงๆสามารถทำให้เกิดลมพายุหมุนขนาดเล็กได้
บินได้ฉวัดเฉวียนรวดเร็ว และเวลาที่มันบินด้วยความเร็วสูงขนและผิวของมันจะสะท้อนแสงวิบวับๆ
นิสัย - น่ารัก เชื่อง เฉลียวฉลาดและความจำดีเป็นเลิศ ปกติจะบินอยู่แทบทั้งคืนสมชื่อ Patrol dragon เวลานอนชอบซุกที่นอนนุ่มๆ ค่อนข้างจะหวงพื้นที่ของตัวเองเอามากๆ ถ้าใครยุ่งกับรังของมันจะโดนโกรธแบบสุดๆ
อื่นๆ -
จริงๆใช้เป็นพาหนะได้ แต่ไม่นิยมเพราะมันบินฉวัดเฉวียนเกินไป อีกทั้งสรีระของมันติดตั้งอุปกรณ์ขึ้นขี่ไม่สะดวกเพราะผิวสัมผัสทำให้มันไม่สบายตัวและชอบสะบัดคนตก
แต่สามารถถูกฝึกให้ใช้ส่งเอกสารหรือสิ่งของได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมนุษย์นั่งโดยสารไปด้วย
ถ้าไม่บินอยู่ ก็ชอบยืนนิ่งบนที่สูงตอนกลางคืนเลยมักถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ามังกรเฝ้ายาม แต่เพราะนิสัยเป็นมิตรมันจึงทำเพียงส่งเสียงเตือน ไม่โจมตีก่อน
มังกรกร่ำพิษ 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Alkie Dragon
ประเภท - มังกร
ธาตุ - น้ำ
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - พบมากตามแหล่งน้ำในป่า โดยทั่วไปมักชอบน้ำที่อุ่นสักหน่อย บางครั้งจะพบว่าอยู่ร่วมกันในที่ๆคาปิบาร่าชอบอยู่
ระดับความหายาก - C-D
ลักษณะ -
เป็นมังกรขนาดจิ๋วสีสดใส เฉดเหลือง ส้ม แดง
เกล็ดเล็กละเอียด กันน้ำได้ดี
ลิ้นยาวมีสองแฉก
ตัวกลมตุ้ยนุ้ย เวลานอนชอบขดตัวกลมเหมือนตัวนิ่ม
นิสัย -
เป็น omnivore ที่เน้นกินสัตว์และสิ่งมีชีวิตมีพิษ ยิ่งกินสียิ่งสด
ชอบนอนในน้ำ ท้้งน้ำนิ่งและน้ำไหล
อื่นๆ -
เป็นมังกรไม่มีพิษภัยที่บ้านคนมีเงินนิยมเลี้ยงกัน (ให้ตรวจจับสัตว์มีพิษในบ้าน+คนมีเงินจะใช้เงินซื้อสัตว์พิษมาให้น้องกินเป็นประจำ สีเลยเปล่งประกายเจิดจ้ายังกะนีออนอยู่เสมอ = คนรวยเลี้ยงเพื่ออวดรวย ส่วนคนธรรมดาเลี้ยงเพื่อน่ารัก+เน้นประโยชน์)
เป็นตัวชี้วัดความสะอาดบริสุทธิ์ของแหล่งน้ำ
สัตว์วิเศษ
ม้าวารี / เคลปี้
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Scorpio Water Horse / Kelpie
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - ม้า+โลมา/วาฬ
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ตามแหล่งน้ำจืดทั่วไป
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ - ม้าขนาดใหญ่ที่ร่างกายส่วนล่างตั้งแต่เอวลงไปมีลักษณะคล้ายโลมาหรือวาฬ แต่หางยังมีลักษณะอย่างม้า หายใจในน้ำได้ มีเสียงร้องแหลมสูงกว่าม้าทั่วไป แต่โดยปกติแล้วจะไม่ส่งเสียงร้อง
นิสัย -
เหมือนม้าที่ชอบน้ำมากเป็นพิเศษ ชอบสาหร่าย หญ้าแม่น้ำ หญ้าทะเล
เกลียดผักที่เป็นหัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแครอท
อื่นๆ -
มักพบการใช้ม้าวารีตามท่าเรือต่างๆ ในการลากจูงเรือเล็กที่บรรทุกผู้คนหรือสัมภาระไปยังเรือใหญ่ที่ไม่สามารถจอดเที่ยบภายในท่าได้ หรือบางครั้งก็ใช้ลากจูงเรือหรือแพข้ามฟากในแม่น้ำต่างๆ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่การสัญจรสองฟากฝั่งแม่น้ำ
หน่วยกู้ภัยมักฝึกฝนม้าวารีเพื่อช่วยในการกู้ภัยทางน้ำ
บางครั้งม้าวารีมักถูกเรียกว่าเคลปี้ เพราะหลายครั้งพบพวกมันแหวกว่ายหากินกลางดงสาหร่ายเคลป์อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ทำให้ผู้คนตกใจอยู่บ่อยๆกับจังหวะจัมป์สแกร์
กวางกำมะหยี่ 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Velvet Elk
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - กวาง
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ตามทุ่งหญ้า ชายป่า
ระดับความหายาก - C-D
ลักษณะ -
สัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายกวางผสมม้าผสมยูนิคอร์น แต่ถูกจัดเข้าประเภทกวางเนื่องจากมีสองกีบ
มีเขากลางหน้าผาก โดยเขานี้มีลักษณะของเขากวางที่แตกกิ่งก้านไปด้านหน้ารวมถึงปกคลุมด้วยหนังและขนอ่อน และเขาสั้นๆขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งซ่อนอยู่กลางศีรษะในกลุ่มแผงคอนุ่มๆของมัน
มีใบหูยาวและกว้าง
มีแผงคอเหมือนม้า หางยาวระพื้น
มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนสีเทา ขนอ่อนนุ่มมาก สั้นและเนียนเหมือนกำมะหยี่ เมื่อถูกน้ำน้ำจะสามารถกลิ้งบนขนของพวกมันได้เหมือนกลิ้งบนใบบัว และขนของมันจะไม่เปียกเลยแม้แต่น้อย
สองกีบของมันปกคลุมด้วยขนนุ่มเช่นเดียวกับเขา ทำให้ไปมาเสียงเงียบกริบแทบไม่รู้ตัว มันจึงได้รับการเปรียบเปรยว่าเป็นแมวในร่างกวาง
นิสัย -
เชื่อง โดยเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอกว่า เช่นเด็ก คนเจ็บป่วย คนชรา ชอบกินผลไม้รสเปรี้ยว
รู้ความมากจนเกินไป เช่นเวลาเจ้าของไม่ชอบที่ฝีเท้ามันเงียบก็มักจะหากระดิ่งหรืออะไรที่มีเสียงกรุ๊งกริ๊งๆมาแขวน มันจะยินยอมให้ทำโดยดี ที่ที่พอใส่เสร็จปุ๊ป อุปกรณ์ชิ้นนั้นจะแว้บมาวางตรงหน้าเจ้าของด้วยสภาพเหมือนใหม่ได้เหมือนไม่เคยถูกสวมใส่มาก่อน
อื่นๆ -
ถูกใช้เป็นสัตว์พาหนะขนาดเล็ก และมักใช้เป็นสัตว์เริ่มต้นในการฝึกขี่พาหนะของเด็ก
ความพิเศษของสัตว์ชนิดนี้คือการที่มันเกลียดความชื้นเป็นอย่างมาก มันสามารถหากินขณะที่ฝนตกหรือตามแหล่งน้ำได้ก็จริง แต่ขนพิเศษของมันก็ทำให้มันไม่เปียกเลยแม้แต่น้อย
มีความสามารถบางอย่างที่ทำให้รู้ว่าคนหรือสัตว์ตรงหน้ากำลังเจ็บป่วย มันจะปฏิบัติตัวด้วยอย่างอ่อนโยนและใส่ใจเป็นพิเศษ จะคาบหญ้าหรือดอกไม้ พืชที่พวกมันเองกินเป็นยาตามธรรมชาติมาให้ หากใครที่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองป่วยแล้วโดนปฏิบัติด้วยเช่นนี้เป็นต้องรีบแจ้นไปหาหมอกันทุกราย และผลตรวจก็มักออกมาว่ามีอาการป่วยอยู่จริงเสียด้วย
รีดนมได้ ทำชีสอร่อย เหมาะสำหรับทำคอตเตจชีส
แกะลัลลาบาย 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Lullaby Sheep
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - แกะ
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ทั่วไป แต่มีจำนวนน้อย
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ - แกะขนาดกลางขนสั้นแต่ปุกปุยนิ่มนุ่ม มีเขาที่งอกจากเหนือหูม้วนจากด้านหลังไปด้านหน้า และย้อนไปด้านหลังอีกครั้ง ความยาวของเขาทั้งหมดยาวประมาณ 120 เซนติเมตร
นิสัย -
แกะลัลลาบายจะวิ่งกระโดดโลดเต้นเฉพาะวัยเด็ก พอเข้าวันผู้ใหญ่มันจะเดิน…ไม่วิ่ง เดินลูกเดียว
จะกระโดดหลบก็ต่อเมื่อจวนตัวเท่านั้น
เป็นสัตว์สุภาพมาก ไม่โจมตีไม่ทำร้ายใครเลย ทีท่าสง่างามมาก
แสนรู้ ฉลาดกว่าสุนัขเสียอีก
รักสะอาด เวลาว่างหมดไปกับการแต่งขน
มีกีบที่พิเศษมาก เพราะภายในของกีบนั้นแข็งและกลวง จึงแทบไม่ต้องตัดแต่งอะไร การตัดแต่งทีนึงเป็นเรื่องใหญ่เพราะต้องถึงมือช่างเหล็ก
ทุกครั้งที่มันจรดกีบเดินลงไปจะเกิดเสียงกุ๊งกิ๊งไพเราะเหมือนกล่องดนตรี
อื่นๆ -
เดิมเคยเป็นสัตว์ป่า แต่ต่อมาก็ใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ เพราะที่ใดที่แกะลัลลาบายย่างเหยียบ ต้นไม้มักจะเติบโตสมบูรณ์ คนในบ้านก็อยู่เย็นเป็นสุข แถมเชื่อกันว่าเพราะเหตุนี้ ถ้าใครทำให้แกะลัลลาบายเลือดตกยางออกจะโชคร้ายไปเป็นเดือนๆ ด้วยเหตุนี้คนจึงเชื่อว่ามันเป็นสัตว์ที่ได้รับพรจากเซลวาทานัสให้เป็นทูตแห่งผืนป่า เชื่อมโยงผืนป่าเข้ากับผู้คน
ดังนั้นจากที่เคยจับกิน พออาหารเริ่มอุดมสมบูรณ์คนสกอร์ปิโอก็ไม่ได้ไปทำอะไรกับเจ้าแกะเชื่องช้าพวกนี้อีก กลับกันยังคอยต้อนรับเป็นอย่างดีเพราะเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์
บางครั้งแม่ๆชาวสกอร์ปิโอจะแขวนเปลเด็กไว้ระหว่างเขาทั้งสอง รวมถึงสิ่งของกุ๊งกิ๊งต่างๆ
เมื่อแกะลัลลาบายมีเด็กอยู่บนหลัง มันจะยิ่งเดินช้าลง และเดินเตาะแตะต้วมเตี้ยมตามไปทุกที่ที่แม่เด็กไป เด็กๆเหมือนได้นอนบนเปลที่แกว่งไกวก็ไม่ร้องโยเยกวนเลย
เป็นสัตว์พาหนะยอดนิยมสำหรับเด็กๆ
แมวตกปลาลมหวน 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Whirlwind Fishing Cat
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - แมว
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ตลอดชายฝั่ง
ระดับความหายาก - D
ลักษณะ -
แมวขนปุกปุยนุ่มนิ่ม ชั้นขนหนากันน้ำได้ ขนาดตัวประมาณ 0.8-1 เมตร หางยาวราว 1.2 เมตร
มีหนวดที่ยาวและเด้งดึ๋งเหมือนแส้ที่ข้างแก้มด้านละเส้น มีความยาวประมาณ1.2-1.5เมตร หนวดนี้สามารถปล่อยคลื่นเสียงความถี่ต่ำที่มนุษย์ไม่ได้ยินลงไปในน้ำได้ และทำให้ปลาเข้ามารุมล้อมเพราะนึกว่าเป็นคลื่นเสียงจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นอาหารของพวกมัน
นิสัย -
ช่วงเช้ามืดหรือหัวค่ำที่มีลมพัดตลอดเวลา จะเห็นแมวนี้ยืนในน้ำครึ่งแข้ง ยื่นหนวดแส้ทั้งสองลงไปในน้ำเพื่อปล่อยคลื่นเสียงล่อปลา อาศัยแรงลมพัดหนวดให้แกว่งไกวคล้ายสัตว์น้ำเล็กๆ ทำให้สัตว์น้ำหลงผิดมางับปลายหนวดของมันแล้วกระตุกขึ้นเหมือนคนตวัดเบ็ด
ตอนที่มันตกปลา ปกติมันจะคาบปลายหางเอาไว้ แต่บางครั้งถ้าปลาชุมมากมันก็จะจุ่มหางลงไปในน้ำด้วย
ล่าตอนกลางคืน นอนตอนกลางวัน
จริงๆแล้วชอบสัตว์น้ำแทบทุกชนิด ทั้งกุ้งทั้งปู มันสามารถใช้อุ้งเท้าแงะกระดองปูได้ด้วย
อื่นๆ -
บางครั้งพวกมันถูกเรียกว่าแมวกระต่ายทะเล จากรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายคลึงกับกระต่ายทะเลที่เป็นทากทะเลน่ารักมุ้งมิ้ง
ที่ไหนที่แมวตกปลาปรากฏตัวบ่อยๆ เป็นที่รู้กันว่าปลาจะชุกชุม และบรรดานักตกปลาก็จะชอบไปปักเบ็ดกัน หลายๆครั้งถ้าพวกเขาทำตัวเงียบๆและนิ่งสงบมากพอ แมวตกปลาก็จะยินยอมให้มนุษย์ร่วมตกปลาไปกับมัน
ลูกดกมาก ครอกละ8ตัวเป็นอย่างต่ำ
นาร์วิคอร์น 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Narwhicorn
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - ม้า+วาฬ
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอและเพิร์ล
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ทั่วไปในอ่าวอลาเธียทางตะวันออกของสกอร์ปิโอ ตามเกาะเล็กๆเรื่อยไปจนถึงร่องน้ำในน่านน้ำระหว่างทั้งสองประเทศ
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ -
ม้าตัวใหญ่กำยำพ่วงพี มีเขี้ยวเล็กๆที่มุมปาก มีงาเดี่ยวที่มีลักษณะเป็นเกลียวตรงยาวงอกออกมาจากบริเวณสันจมูก นาร์วิคอร์นบางตัวอาจมีงางอกได้ถึงสองซี่
มีเหงือกที่รูปร่างคล้ายเหงือกฉลามที่ข้างลำคอ สามารถหายใจได้ดีทั้งในน้ำและบนบก
หางมีลักษณะเป็นกล้ามเนื้อยาว แข็งแกร่งเหมือนแส้ มีพู่ตรงปลาย โดยทั่วไปงาและหางของนาร์วิคอร์นจะมีความยาวเท่ากันพอดีไม่ขาดไม่เกิน
ดวงตาสีฟ้าเหมือนน้ำแข็ง ขนโทนสีขาวไปจนถึงน้ำเงินเข้ม ส่วนที่เป็นสีเข้มจะมีลายจุดเหมือนฉลามวาฬ
นิสัย - รักฝูง รักครอบครัว ตัวเต็มวัยจะปกป้องลูกแม้ตัวเองจะต้องตาย ระแวงสิ่งมีชีวิตแปลกหน้า
อื่นๆ -
มักถูกเข้าใจผิดจากคนต่างถิ่นว่าเป็นยูนิคอร์น แต่อันที่จริงแล้ว ม้าที่มีสิ่งที่คล้ายเขางอกออกมาจากดั้งจมูกนี้คือนาร์วิคอร์น และสิ่งที่งอกออกมาจากดั้งจมูกของมันคืองาเดี่ยว และถูกเรียกว่าเป็นยูนิคอร์นแห่งท้องทะเล
บรรพบุรุษของมันเป็นม้าที่มีเขี้ยวและงางอกจากมุมปากล่าง แต่วิวัฒนาการมาเป็นงายาวงาเดียวและเขี้ยวเล็กๆที่แทบมองไม่เห็น
ว่ายน้ำได้ ดำน้ำได้เนื่องจากมีทั้งระบบเหงือกและจมูก ชีวิตส่วนมากจึงอยู่แต่ในน้ำและตามเกาะห่างไกล จะพบนาร์วิคอร์นใช้ชีวิตตามหาดบนแผ่นดินใหญ่ก็ต่อเมื่อพวกมันมีลูกน้อย
พบเห็นไม่ยาก แต่จับค่อนข้างยาก เพราะเจ้าตัวเป็นสัตว์ที่ขี้ระแวงคนแปลกหน้า
เป็น omnivore อาหารที่ชอบคือหญ้าทะเล สาหร่ายทะเล แมงกระพรุนที่ลอยเหนือผิวน้ำ น่าแปลกที่ว่าพวกมันไม่เคยโดนพิษแมงกระพรุนทำร้ายเลยไม่ว่ามันจะเป็นแมงกระพรุนที่มีพิษร้ายแรงแค่ไหน เลยเป็นสาเหตุที่มันถูกมองว่ามีความพิเศษไม่ต่างยูนิคอร์น (แต่ถ้าเป็นพิษจากสัตว์อื่นได้ผลกระทบอยู่นะ)
สามารถใช้เป็นพาหนะได้ แต่ต้องจับโดยผู้เชี่ยวชาญและจับโดยวิธีพิเศษ
ในสมัยก่อนชาวสกอร์ปิโอนิยมล่ามันเพื่อเอางา เพราะงาของนาร์วิคอร์นมีความแข็งแกร่งจนอาจเทียบชั้นกับโลหะดีๆได้เลย แต่เคยมีตำนานของชาวต่างถิ่นเล่าว่าหากเอางาของนาร์วิคอร์นมาบดกินจะช่วยปกป้องจากพิษทีjคนสกอร์ปิโอชอบใช้ได้ (ไม่จริง)
ส่วนเนื้อนั้น ตำนานของช่าวต่างถิ่นเรื่องเดียวกันเล่าว่าเนื้อของนาร์วิคอร์นจะทำให้คนกินย้อนวัยเป็นเด็ก ไม่แก่ไม่เฒ่า ฟังแล้วคล้ายตำนานของยูนิคอร์นนัก แต่ชาวสกอร์ปิโอที่กินทุกอย่างได้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง เลือดของนาร์วิคอร์นอาจจะเหมาะกับการทำยา แต่ก็เป็นยาสำหรับสตรีที่อยู่ไฟไม่เกี่ยวกับยาอายุวัฒนะแต่อย่างใด
รอรราเคล 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Raurrakel
ประเภท - สัตว์วิเศษ
ชนิด - กระต่าย + กวาง + แมว + นก
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอและเพิร์ล
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - เขตเทือกเขาในภูมิภาคเซลวาส
ระดับความหายาก - B
ลักษณะ - กระต่ายยักษ์ขายาว มีเขาเหมือนกวางมูส มีปีกคู่ใหญ่ และพวงหางยาวพองฟูคล้ายกระรอก รอรราเคลป่าจะผลัดเขาทุก1-2ปี แต่ถ้ารอรราเคลใช้ชีวิตกับมนุษย์มันจะไม่ผลัดเขาบ่อยนัก อาจจะ5-6ปี มนุษย์จึงต้องคอยตัดเขาให้มันไม่ให้มีขนาดใหญ่เกินไป
นิสัย -
หน้าตามู่ทู่ตลอดเวลา เจ้าอารมณ์ ไม่ชอบให้สิ่งที่มันไม่ชอบเข้าใกล้
พอโมโหจะใช้เท้าหลังกระทืบพื้นรัวๆ
ชอบการต่อสู้ และจะยอมรับเฉพาะผู้แข็งแกร่งเท่านั้น
อื่นๆ -
เป็นสัตว์ที่ถูกนำมาเล่าในนิทานโบราณของสกอร์ปิโอ ว่ากันว่ามันจะคาบเด็กที่ทำร้ายผู้อื่นไปทิ้งในสถานที่แสนไกลซึ่งจะไม่ได้เห็นท้องทะเลอีก
สามารถใช้เป็นสัตวฺ์พาหนะได้ก็จริง แต่การจะเป็นเจ้าของรอรราเคลต้องสู้กับมันให้ชนะ ให้มันยอมรับในความพ่ายแพ้ของตัวเองได้ แล้วรอรราเคลถึงจะยอมสิโรราบแก่คุณ
มนุษย์เลยมักจะโกงโดยไปท้าสู้กับรอรราเคลตั้งแต่ยังเพิ่งเข้าวัยรุ่นไม่แข็งแกร่งมากพอ แล้ว รอรราเคลก็จะตกหลุมมนุษย์อยู่ร่ำไป
เขาของรอรราเคลเป็นยาฆ่าเชื้อชั้นดี แต่ทว่ารอรราเคลป่าชอบเอาเขาไปถูไถพืชและสิ่งมีพิษเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว เขาของมันจึงผสมปนเปไปด้วยพิษร้ายแรงหลายชนิด ด้วยสรรพคุณที่เป็นทั้งยาและพิษจึงเป็นที่ต้องการของนักล่าพิษ การต่อสู้แย่งชิงรุนแรงจนบางครั้งมีคนบาดเจ็บล้มตาย
สัตว์สามัญประจำถิ่น
แมงป่องทมิฬ
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Calamitous Scorpion
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - แมลง
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - พื้นที่ป่าเขตร้อนชื้นในเขตเทือกเขาเซลวานารา รอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคใต้
ระดับความหายาก - B-C
ลักษณะ - แมงป่องขนาด 50-70 เซนติเมตร สีน้ำตาลอมเหลือง มีเหล็กใบที่เชื่อมต่อถุงพิษขนาดใหญ่ที่หาง มีก้ามที่คมกริบเหมือนใบมีด
นิสัย - ดุร้าย หวงถิ่น โจมตีสิ่งแปลกปลอมอย่างไม่ไว้หน้า
อื่นๆ -
พิษร้ายแรงกว่างูเห่า ทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
พิษสดๆที่เป็นของเหลวมีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้กระทั่งกับโลหะชั้นดี เป็นเหตุผลหนึ่งที่สกอร์ปิโอนิยมใช้อาวุธที่ทำมาจากชิ้นส่วนของมังกร มังกรสมุทร และสัตว์วิเศษ
เพื่อการเก็บรักษา พิษที่ถูกรีดออกมาจึงจะถูกสกัดให้เป็นเกล็ดหรือผง คุณสมบัติกัดกร่อนจะหยุดทำงานไปจนมันละลายกับของเหลวอีกครั้ง
สมัยก่อนเผ่าสกอร์เปี้ยนนิยมเลี้ยงแมงป่องพวกนี้ไว้ในหลุม เวลามีใครทำผิดกฎเผ่าจะประหารโดยการโยนผู้กระทำผิดลงไปในหลุม เรียกกันว่าหลุมแห่งความตาย ในยุคนี้ก็ยังมีการประหารนักโทษแบบนี้ ในเขตวังสกอร์ปิโอมีหลุมที่เพาะเลี้ยงแมงป่องทมิฬ ซึ่งใครที่กบฏต่อราชวงศ์จะโดนจับโยนลงไปในนั้น ในหมู่นักสู้ที่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าสกอร์เปี้ยนโบราณโดยตรงยังมีค่านิยมการเลี้ยงแมงป่องทมิฬเพื่อรีดพิษไว้ใช้สังหารศัตรู ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การต่อสู้ของเผ่าสกอร์เปี้ยน วิธีการจับ เพาะเลี้ยง และการปรุงยาถอนพิษเป็นความลับที่สืบทอดกันมาของเผ่าสกอร์เปี้ยนกระทั่งปัจจุบัน
ชาวสกอร์ปิโอยังมีค่านิยมสักลายแมงป่องทมิฬไว้บนร่างกาย (เว้นที่ที่กลางหลัง ซึ่งสงวนไว้สำหรับสมาชิกราชวงศ์) เพื่อแสดงถึงความภาคภูมิใจและความเป็นสกอร์ปิโอ เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณสมัยยังเป็นเผ่าสกอร์เปี้ยน ยิ่งสักแมงป่องตัวใหญ่เท่าใดก็ถือว่ามีความแข็งแกร่งมากเท่านั้นเพราะต้องทนกับการได้รับความเจ็บปวดระหว่างการสักเป็นเวลานาน
จระเข้น้ำเค็มเซลวาส
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Syellvast Rogue Crocodile
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - จระเข้
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ปลายแม่น้ำ ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ และป่าชายเลนชายฝั่งตะวันออก
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ - จระเข้น้ำเค็มขนาดยักษ์ ความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 5 เมตรทั้งตัวผู้ตัวเมีย มีขาบามทรงพลังไม่แพ้หางและมีผังผืดระหว่างนิ้วเท้า หนังมีสีดำเหลือบน้ำเงินแสนสวย ช่วยพรางตัวพวกมันขณะออกล่าในทะเล
นิสัย - ตัวอันตรายระดับ S ดุร้ายเป็นอย่างยิ่ง พวกมันสามารถล่าได้ทั้งตามปากแม่น้ำและในทะเล หลายครั้งเหยื่อที่มันล่าก็ตัวใหญ่กว่าขนาดของมันเอง แม้แต่นักล่าในทะเลอย่างฉลามก็มักจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับจระเข้น้ำเค็มซึ่งๆหน้า
อื่นๆ -
อยู่ได้ในทุกสภาพน้ำ แต่ชอบน้ำเค็มมากที่สุด ในสกอร์ปิโอมีความต้องการที่จะล่าจระเข้น้ำเค็มเซลวาสอยู่สูงมากจากความต้องการหนังที่ทนทานและสวยงามของพวกมัน เพราะแม้ว่ามันจะดุร้าย แต่เมื่อเทียบกับความยากในการล่ามังกรหรือมังกรสมุทรแล้ว การที่ต้องเฝ้ารอและต่อสู้กับสัตว์ร้ายแห่งท้องทะเลนี้ก็คุ้มค่า
จริงๆบ้องตันของมันมีคุณค่าทางอาหารอย่างมาก
หมูลายแตงการ์วีจิ
หมูลายแตงการ์วีจิเพลิดเพลินกับของโปรด
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Gaervigi Striped Pig
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - หมู
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ฟาร์มเลี้ยง
ระดับความหายาก - D
ลักษณะ - หมูตัวใหญ่ ผิวสีอ่อนเหมือนฟาง มีลายสีน้ำตาลเข้มพาดตัวเหมือนลูกแตงโม
นิสัย - รักสะอาด ชอบน้ำ ชอบกินผักผลไม้รสหวาน
อื่นๆ -
เป็นปศุสัตว์ที่เพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเนื้อที่มีความหรูหรา รสชาติเนื้อของหมูลายแตงการ์วีจิมีความเข้มข้นและชุ่มฉ่ำ ไม่มีกลิ่นสาบ ไขมันกำลังพอดี มีหนังบาง ไม่เหมาะที่จะทำหมูกรอบ
หนูตะเภาหนองน้ำยักษ์ หรือ คาปิบารา
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Capybara
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - หนู
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ลุ่มน้ำต่างๆ หนองน้ำ ที่สงบเงียบและในฟาร์มเพาะเลี้ยง
ระดับความหายาก - D-E
ลักษณะ - แบบกะปิปลาร้า
นิสัย - แบบกะปิปลาร้า
อื่นๆ -
กะปิปลาร้า
น่ารักตะมุตะมิ มีอยู่ตามธรรมชาติ เพราะความต้วมเตี้ยมเตาะแตะของมันทำให้เคยถูกล่าเพื่อเป็นอาหารจานหลักอยู่ในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์สกอร์ปิโอ
ปัจจุบันก็ยังคงถูกล่าเพื่อเอาเนื้ออยู่บ้าง แต่เมื่อนักเดินทางต่างถิ่นได้พบสัตว์ชนิดนี้ก็รู้สึกนิยมชมชอบในความน่ารักเอื่อยเฉื่อยและเริ่มนำไปเลี้ยงไว้ดูเล่น ในสกอร์ปิโอจึงเริ่มมีฟาร์มเพาะเลี้ยงเพื่อส่งออกเป็นสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ
หลังจากคาปิบาราได้รับความนิยม ฟาร์มปศุสัตว์ในประเทศได้เห็นอะไรบางอย่างในตัวพวกมันและสั่งซื้อไปเลี้ยงจำนวนหนึ่ง โดดยปรากฏว่าในเวลาต่อมา ด้วยบุคลิกเอื่อยเฮื่อยนิ่งสงบของมันช่วยให้ปศุสัตว์ต่างๆ ลดความเครียดลง
ปลาเดเมอร์ซัลนาวี
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Demersal Navy cod
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - ปลา
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ทั่วไป
ระดับความหายาก - E
ลักษณะ - ปลาค็อด หากินแถบหน้าดิน
อื่นๆ -
เป็นปลาในวงศ์ปลาค็อด แต่ชอบอาศัยในย่านน้ำอุ่น เป็นญาติใกล้ชิดของปลาลิงค็อด (Lingcod) คือมีเนื้อปลาที่แล่ออกมาเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เช่นเดียวกัน
จริงๆคงพบได้ทั่วไป แต่ที่อื่นแค่เห็นหน้าเขาก็โยนทิ้งแล้ว
ความแตกต่างของปลาลิงค็อดกับปลาเดเมอร์ซัลนาวี คือเนื้อของปลาลิงค็อดเมื่อนำไปทำอาหารสีฟ้าของเนื้อก็จะเปลี่ยนเป็นสีขาวเหมือนปลาค็อดปกติ แต่เนื้อของปลาเดเมอร์ซัลนาวี แม้เมื่อปรุงก็จะมีรสชาติเช่นเดียวกับปลาค็อด แต่เนื้อสีฟ้านั้นนอกจากจะไม่เปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว หากผ่านการปรุงด้วยส่วนประกอบที่มีกรดซิตรัส หรือน้ำส้มสายชู เนื้อปลาสีทอร์ควอยซ์จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มเจือม่วงได้อย่างประหลาด
โดยไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่หลายปีที่ผ่านมา เนื้อของปลาเดเมอร์ซัลนาวีจะถูกปรุงเป็นอาหารเพื่ออวยพรให้แก่เหล่าราชนาวีที่กำลังจะเข้าประจำการตามกองเรือต่างๆ หรือแก่ผู้ที่กำลังจะออกเดินทางไกลทางเรือ
รวมถึงเป็นอาหารท้าทายความกล้าของผู้ที่มาเยือนสกอร์ปิโอเป็นครั้งแรกว่าจะกล้าลิ้มลองอาหารสีประหลาดจานนี้หรือไม่
น้ำมันตับปลาที่ทำจากตับของเดเมอร์ซัลนาวีมีผลให้เป็นเหน็บชาได้
ปริมาณการประมงของปลาเดเมอร์ซัลนาวีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในหลายปีมานี้
ห่านกองฟอน
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Bier Goose
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - ห่าน
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - พื้นที่ชุ่มน้ำโดยทั่วไป
ระดับความหายาก - E
ลักษณะ - ห่านขนาดกลาง จงอยปาก หนอก หน้าและคอเป็นสีม่วงตะปุ่มตะป่ำเหมือนแผลถูกน้ำร้อนลวก ขาและเท้าเป็นสีแดงอมม่วง ตรงข้อเท้ามีเดือยแบบเดียวกับไก่ชน ดวงตาสีฟ้าสด ขนเป็นสีด่าง ดำสลับขาวตลอดตัว
(ให้อิมเมจ ตัวเหมือน Spur-winged goose แต่หน้าเหมือนไก่งวงย่นๆ)
นิสัย - 'Peace was never an option'
อื่นๆ -
เป็นสัตว์ประจำถิ่น ชอบกินแมลงพิษ โดยเฉพาะพวกด้วงพิษ ห่านกองฟอนเลยสะสมพิษเอาไว้ในเนื้อ สามารถฆ่ามนุษย์ผู้ใหญ่ได้แม้จะเป็นเนื้อที่ปรุงสุกแล้ว เป็นที่มาของชื่อห่านกองฟอน (=กินเข้าไปแล้วจะได้ขึ้นกองฟอนทุกคน)
ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ เพราะด้วงพิษซื่องเป็นอาหารของมันก็ไม่สามารถเพาะเลี้ยงหรือจัดเก็บในปริมาณมากได้
ถึงจะเป็นมีพิษ แต่กึ๋นของห่านกองฟอนมีค่ามากในวงการวิจัยเภสัชเวช เนื่องด้วยมีคุณสมบัติบางอย่างทำให้พิษบางประเภทมีคุณสมบัติเป็นกลาง กึ๋นของห่านกองฟอนจึงถูกซื้อหาในราคาสูง
ควายสะอาง 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Pristine Water Buffalo
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - ควาย
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ทุกภูมิภาค ตามทุ่งหญ้า ป่าละเมาะ ริมแหล่งน้ำ
ระดับความหายาก - D-E
ลักษณะ - อ้วน บึกบึน ลำตัวพ่วงพี ท้องกลม ขากาง มีเขาโค้งเหมือนจันทร์เสี้ยวกางออกไปด้านข้างข้างละประมาณ 70 - 100 ซม มีขนสั้นเกรียนหนาแน่น โทนสีอ่อน
นิสัย -
ชอบน้ำ สามารถนอนแช่น้ำได้ทั้งวันทั้งคืน รวมถึงดำน้ำได้นานหลายสิบนาที
แต่ไม่ชอบคลุกปลักหรือเปื้อนโคลน ถ้าเกิดเปื้อนขึ้นมาจะรีบล้างตัวทันที
ชอบกินพืชใบเขียวสดใหม่ ไม่เอนจอยฟางแห้ง หญ้าแห้ง
ดูนิ่งสงบแต่ไม่กลัวอะไรเลย ยิ่งถ้าถูกคุกคามก็พร้อมจะวิ่งไปกระทืบมัน
อื่นๆ -
มีความแข็งแรง สามารถใช้เป็นสัตว์พาหนะได้ ทั้งเป็นสัตว์ขี่และเทียมรถขนส่ง แต่มันออกจะเดินช้าไปสักหน่อย ไม่ใคร่ทันใจวัยรุ่นใจร้อน
ว่ายน้ำได้ แต่การว่ายน้ำของสัตว์ชนิดนี้จะเหมือนกับดำไปตามน้ำมากกว่าแล้วค่อยๆโผล่ขึ้นมาหายใจ ผู้ที่คิดขี่เป็นพาหนะควรเตรียมใจกับการตัวเปียกไว้ระดับหนึ่ง
เนื่องจากความนิยมชมชอบชีสและผลิตภัณฑ์นมของขาวสกอร์ปิโอ ทำให้ในปัจจุบัน การเป็นปศุสัตว์ของควายชนิดนี้สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่าเป็นพาหนะ โดยเฉพาะน้ำนมของมันสามารถผลิตชีสรสเยี่ยมได้หลายชนิดทีเดียว
หนังของมันมีศักยภาพในการทำเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหหนังกลับที่ดี ทนทานและอ่อนนุ่มสวมสบาย
‘เจ้าหล้าอาสัญ’ หรือแมงกะพรุนพิลาป 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Kingslayer Jellyfish
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - แมงกะพรุน
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ในอ่าวอลาเธียฝั่งตะวันออกไล่ไปทางตะวันออกจนเกือบถึงน่านน้ำเพิร์ล
ระดับความหายาก - A-B
ลักษณะ - แมงกะพรุนทรงถ้วยขนาดจิ๋วประมาณ 3 เซนติเมตร มีหนวดรยางค์หลักสี่เส้นที่จะมีเข็มพิษสำหรับโจมตี ส่วนเส้นรองมีลักษณะเป็นเส้นสายละเอียดยิบๆ ปกติจะอยู่ในน้ำลึก ไม่ค่อยพบแถวผิวน้ำเว้นแต่จะเป็นคืนเดือนหงาย มีสีเงินยวงเหมือนแสงจันทร์ ทำให้ไม่สามารถพบได้ในยามกลางวัน ต้องใช้แสงส่องในตอนกลางคืนเท่านั้นสีเงินของมันจึงจะสะท้อนออกมาให้พบตัว
นิสัย - ลอยตุ๊บป่องไปวันๆ
อื่นๆ -
แมงกะพรุนที่มีพิษร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกสถิติไว้ในสกอร์ปิโอ
พิษออกฤทธิ์กับระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดเป็นพิษและทำลายเม็ดเลือดทั้งหมด ทำให้หลอดเลือดเกิดการบวมน้ำ และเกิดการขาดออกซิเจนอย่างรวดเร็ว สามารถทำให้สัตว์ทะเลขนาดกลางเสียชีวิตได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง สำหรับมนุษย์หากถูกต่อยจะมีอัตราการตายสูงมาก แม้ไม่ใช่พิษชนิดที่รักษาไม่ได้ แต่มักจะรักษาไม่ทันท่วงที
ถึงจะเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรง แต่ยังมีศัตรูตามธรรมชาติคือนาร์วิคอร์น และเต่าทะเลบางชนิด
นอกจากนี้ยังถูกรับซื้อด้วยราคาสูงลิบลิ่วจากผู้เลี้ยงมังกรกร่ำพิษ เพราะมังกรกร่ำพิษที่ได้กินแมงกะพรุนพิลาปอย่างน้อยเพียงปีละครั้งก็จะมีสีสันที่สดใสราวเปลวเพลิงทีเดียว คนพวกนี้ยินดีจะจ่ายแม้รู้ดีว่าหนึ่งมื้อของสัตว์เลี้ยงชั้นสูงขงคนรวยนี้อาจและมาด้วยชีวิตของคนมากกว่าหนึ่งคน ทำให้ทางการมีการสั่งห้ามล่าและจับแมงกะพรุนพิลาป แต่กระนั้นก็ยังคงมีการลักลอบและมีข่าวนักลักลอบถูกพิษตายอยู่เนืองๆ
ว่ากันว่ามันได้ชื่อ ‘เจ้าหล้าอาสัญ’ มาจากการที่ในอดีตมันทำให้ราชาจากหนึ่งในเผ่าทะเลองค์หนึ่งตายอย่างเจ็บปวด หลังจากที่เขาท้าทายเผ่าอื่นๆ ประชันขันแข่งแย่งชิงทรัพยากรและเอาชนะไปอย่างไม่ยุติธรรม หลังจากนั้นในระหว่างกลับเข้าฝั่งกลับเกิดพายุในทะเลขึ้นทำให้ท้องทะเลปั่นป่วนและกองเรือของราชาก็พบภัยพิบัติ ทำให้ราชาองค์นั้นไม่ได้ยั้งคิดและก่นด่าเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอย่างรุนแรง ไม่ทันข้ามวันราชาก็ได้พบกับแมงกะพรุนจิ๋วหน้าตาประหลาดและถูกมันต่อยเข้า ราชาล้มลงและทนทุกข์ทรมานอยู่เพียงครู่เดียวก็ขาดใจตาย เหตุสลดนี้เป็นต้นเหตุให้เผ่าของราชานั้นล่มสลายไปในเวลาต่อมา และเรื่องนี้ก็ถูกเล่าสืบต่อกันมาเพื่อเป็นบทเรียนสอนใจ
เก้งฉลามบก 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Crisp Cuspid Barking Deer
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - เก้ง
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ตามป่าและท้องทุ่ง
ระดับความหายาก - D-E
ลักษณะ - เก้งขนาดใหญ่ ตัวล่ำ แต่ขาเพรียวบาง แรงเตะมหาศาล เขี้ยวคู่บนของมันมีความคมและขรุขระเป็นซี่คล้ายฟันของฉลาม เป็นที่มาของชื่อของมัน ตัวผู้มีเขาสั้นๆ ตัวเมียไม่มีเขา บนใบหน้ามีแผ่นหนังที่สามารถขยับได้ตอนที่มันสูดลมหายใจหนักๆ ขนมีสีน้ำตาลอมเทา ดวงตาสีส้มสุกปลั่ง
นิสัย -
วิ่งเร็ว วิ่งหน้าตั้ง วิ่งฝุ่นตลบ
กัดเก่งเหมือนชิวาว่า
ร้องดัง “แย็กๆๆ”
ขี่ได้ถ้าฝึกแต่เล็ก
อื่นๆ -
เก้งที่ล่าได้มักถูกนำเขี้ยวไปทำอาวุธ
แผ่นหนังใต้ดวงตาและบนหน้าผากที่ขยับอย่างน่ากลัวเวลามันสูดดมอะไรใหม่ๆคือเครื่องช่วยรับกลิ่นของเก้งฉลามบก
เก่งที่ถูกนำไปใช้งานมกถูกดักจับมาแต่เล็กและฝกให้คุ้นคนมักถูกนำไปฝึกเพื่อขนส่งสิ่งของระหว่างหมู่บ้านเล็กๆในเขตป่า และเป็นสัตว์พาหนะคู่กายของเหล่านักพรตผู้นับถือเทพเจ้าแห่งผืนป่า โดยมากคนที่มาจากเขตป่าก็จะพาเก้งฉลามบกไปด้วยทั่วทุกที่ หนึ่งเพราะคุ้นชิน สองเพราะกลัวโดนขโมยกิน(...)
มีคนนึกสนุก จับเก้งฉลามบกมาแข่งกัน ทำไปทำมาก็กลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่คนมาดูมาชมและมาพนันขันต่อ การแข่งมีทั้งแบบวิ่งหลังเปล่าและวิ่งแบบมีคนขี่ มีสนามแข่งใหญ่อยู่ใกล้เมืองเดลไชน์ นับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คึกคักพอตัว
เลียงผาเซลวาส 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Syellvast Serow
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - เลียงผา
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - พบได้ทั่วไปในเทือกเขาทางภาคกลางและภาคใต้
ระดับความหายาก - C-D
ลักษณะ -
เลียงผาตัวตันอ้วนท้วน มีลายทางที่สะโพกและขาหลัง เท้าถึงไหล่สูงราว1.2ม
ตรงจมูกและโครงหน้ายาวคล้ายลา
มีเขาสั้นๆตรงจมูกและบนหัว ยาวประมาณ7-10เซนติเมตร
มีต่อมน้ำมันใต้ตาที่มีกลิ่นเฉพาะตัว
เท้าสองกีบ เดินในพื้นที่กันดารที่ยังไม่ได้บุกเบิกได้ดี
นิสัย -
ปกติไม่คุ้นชินกับมนุษย์ แต่สามารถฝึกให้เชื่องได้ถ้าทำความคุ้นเคยแต่เล็ก
กินพืชผัก หญ้าฟางได้ แต่จริงๆชอบกินแมลงอ้วนๆที่มีน้ำมันเยอะ
ถ้ารู้สึกเหนื่อยหรือไม่สบายจะชอบคลุกโคลน
ชอบเดินเอาหน้าไปถูของรอบตัวเพื่อป้ายน้ำมันประกาศอาณาเขต แต่ก็ชอบเอามาป้ายตัวเองด้วยเช่นกัน
อื่นๆ -
เคยถูกล่าเพื่อเอาน้ำมันใต้ตาไปใช้เป็นยาทาแก้พุพอง แต่หลังๆมีการพัฒนายาที่ดีกว่าเลยไม่ค่อยถูกล่าอีก
ส่วนมากตัวที่ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงและฝึกเพื่อเป็นพาหนะจะเป็นตัวที่พลัดหลงจากแม่ หรือถูกแม่ทิ้งเพราะอ่อนแอ
เป็นสัตว์พาหนะขนาด 1 คนนั่งที่อึด ถึกทน แข็งแรง ขนของได้เยอะ วิ่งได้ยาวนาน แต่นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ คนที่คุ้นชินกล่าวว่าเพราะหลังของมันสูงเมื่อเทียบกับหัวหรือคอของมัน ทำให้เวลานั่งบางทีรู้สึกไม่มั่นคงเหมือนหน้าจะทิ่มไปข้างหน้า จึงจำเป็นต้องมีทักษะการควบคุมสัตว์พาหนะที่ดีประมาณหนึ่ง
เดิมทีเป็นสัตว์พาหนะที่ได้รับความนิยมในหมู่คนทำสัมปทานป่าไม้บนเทือกเขา แต่ก็มีคนเอามาใช้บนพื้นราบด้วยเหมือนกัน
ทำเนื้อตากแห้งอร่อย
ตุ่นปากเป็ดสกอร์ไพ 🆕
ชื่อสายพันธุ์ภาษาอังกฤษ - Scorpi Platypus
ประเภท - สัตว์สามัญ
ชนิด - ตุ่นปากเป็ด
แหล่งที่พบ - สกอร์ปิโอ
แหล่งที่พบในประเทศนั้นๆ - ในป่า
ระดับความหายาก - C
ลักษณะ -
สัตว์ในวงศ์ตุ่นปากเป็ด มีปากแบนเหมือนเป็ด
หางแบนมีแผ่นหนังกระด้างหุ้ม ความยาวเป็น1.5เท่าของลำตัว
ขนหนาสีเทากันน้ำ ใบหน้ากับขาทั้งสี่เป็นสีครีมถึงขาว
ขาสั้น อุ้งเล็บแข็งแรง ใช้ขุดดินได้ดี เท้าคู่หน้าเป็นพังผืดติดกันทุกนิ้ว เท้าคู่หลังแบนยาวและกรงเล็บแหลม เช่นเดียวกับตุ่นปากเป็ดทุกสายพันธ์ุในสกอร์ปิโอ มันมีเดือยเล็กๆตรงใกล้เท้าหลังซึ่งเชื่อมกับต่อมพิษ และมันจะหลั่งพิษรดกรงเล็บของเท้าหลังและใช้มันจัดการศัตรู
มีกระเป๋าหน้าท้อง และออกลูกเป็นไข่
นิสัย -
ออกลูกเป็นไข่ในรังหญ้าฟางที่สร้างไว้ตามริมธารน้ำ เมื่อฟักแล้วก็จะเลี้ยงในกระเป๋าหน้าท้องจนกระทั่งลูกๆโตจนเข้ากระเป๋าไม่ได้อีก
ได้ชื่อมาจากการที่มันจะยกหางขึ้นชูชี้หน้าศัตรูแบบเดียวกับแมงป่อง
อื่นๆ -
พิษของตุ่นปากเป็ดสกอร์ไพทำให้้เป็นอัมพาตละกระตุ้นประสาทสัมผัสให้เซนสิทีฟกว่าปกติ ทำให้เป็นที่นิยมมากในการจับมารีดพิษแล้วปล่อยกลับป่า
ไข่ของตุ่นปากเป็ดสกอร์ไพมีความเป็นพิษสูงมาก หากกินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนถูกหนามแหลมทิ่มแทงจากภายในทั่วทั้งตัวในทุกระบบ แม้ไม่ถึงชีวิต แต่หากปล่อยไปตามธรรมชาติจะใช้เวลากว่า 7 วันถึงจะสามารถขับพิษออกจากร่างกายได้จนหมด (ถ้าตากแดดจัดจะขับพิษได้เร็วขึ้น แต่ความเจ็บปวดก็จะทบทวีขึ้นเพราะไม่ถูกกันกับอากาศร้อน)
เพราะแบบนั้นมันเลยกำลังประสบปัญหาโดนมนุษย์ขโมยไข่ จากไข่ 5-7 ฟองของการวางไข่แต่ละครั้ง มักจะถูกขโมยและวางทิ้งไว้ให้เพียงฟองเดียวเท่านั้น ทำให้เริ่มมีโครงการอนุรักษ์ตุ่นปากเป็ดสกอร์ไพเกิดขึ้น