ชาวสกอร์ปิโอมีเลือดนักสู้และนักเดินทะเล มีความดุดันแข็งกร้าว ไม่เกรงกลัวต่อความยากลำบากของการใช้ชีวิตบนเรือ มีอาชีพซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดคือราชนาวี ซึ่งเป็นเกียรติเทียบเท่าอัศวินของประเทศอื่น หากไม่สามารถเป็นราชนาวีได้ก็มักผันตัวมาเป็นทหารเรือรับจ้างคุ้มกันนักเดินทาง ทำให้ชาวสกอร์ปิโอฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งอยู่เสมอ ทั้งนี้ ลูกหลานชาวสกอร์ปิโอมักเชี่ยวชาญการเดินเรือและการจับปลา ส่งผลให้การประมงเฟื่องฟู
ชาวสกอร์ปิโอนิยมการแข่งขันและนิยมการประลองพละกำลัง มักจะเห็นชาวเรือสกอร์ปิโอนั่งงัดข้อกันตามท่าเรือหรือโรงเหล้า อีกทั้งค่านิยมของชาวสกอร์ปิโอยังมีการละเล่น Knife Dance หรือ Knife Game ( เพลงที่มักร้องกันในการละเล่น ) ประลองความใจถึงในหมู่ชาวทะเล จึงเป็นเรื่องปกติที่ชาวสกอร์ปิโอจะมีแผลเป็นบนนิ้วมือ
ในบางครั้งชาวสกอร์ปิโอก็นิยมตัดสินปัญหาด้วยการท้าสู้ซึ่งส่งสัญญาณท้าด้วยการถ่มน้ำลายลงตรงหน้าอีกฝ่าย การต่อสู้ในแบบของชาวสกอร์ปิโอนั้นเชื่อในการใช้ทุกสิ่งรอบตัวให้เกิดประโยชน์สูงสุดกระทั่งยาพิษ โดยไม่มีการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมตราบใดที่เป็นการสู้กันหนึ่งต่อหนึ่ง
สำเนียงชาวสกอร์ปิโอฟังดูกระโชกโฮกฮากบางทีก็ฟังดูคล้ายการคำราม อีกทั้งติดนิสัยพูดจาเสียงดัง จนอาจฟังดูหยาบกระด้างเกินไปสำหรับชนชาติอื่น
ชาวสกอร์ปิโอมีนิสัยชอบใส่ใจเรื่องสนุก โดยเฉพาะในเรื่องของของการประชันขันแข่งยิ่งชอบมากกว่าเดิม เวลาเห็นคนทะเลาะกันก็ชอบมุงดู คนประลองกันก็ตะโกนเรียกเพื่อนมาดูด้วย ไปจนถึงโห่ร้องส่งเสียงเชียร์ ตามงานเทศกาล การแข่งขันต่างๆ ในจุดที่มีคนกำลังแข่งขันกันเพื่อทำอะไรสักอย่างจะมีคนเข้าร่วมชมครึกครื้นเป็นพิเศษ ร้านค้าแผงลอยที่เข้าถึงพื้นที่เพื่อขายอาหารและเครื่องดื่มได้รวดเร็วมักถูกเรียกด้วยชื่อเล่นว่าเป็น ‘หน่วยสืบราชการลับ’ เพราะมักจะเข้าถึงเหตุการณ์และตั้งแผงขายจนเสร็จได้รวดเร็วกว่าเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนจากกองพลพิทักษ์ความมั่นคงเสมอ
ชายชาวสกอร์ปิโอมักแสดงความรักอย่างตรงไปตรงมาและไม่อายที่จะต้องพูดเรื่องทางเพศในที่แจ้ง ทำให้คนจากบางประเทศมองว่าพวกเขาไม่สำรวมตน ขาดมารยาท
ชาวสกอร์ปิโอโดยทั่วไปนิยมหมั้นหมายด้วยการให้เครื่องประดับผมซึ่งประดับไข่มุก อันถือเป็นคำอวยพรจากเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
วิถีชีวิตของชาวสกอร์ปิโอโดยทั่วไป
จากสภาพภูมิศาสตร์ที่มีทะเลล้อมรอบประเทศเกือบครบสี่ด้าน จึงทำให้ผู้คนมีวิถีชีวิตผูกกับทะเลมาตั้งแต่ยุคโบราณ สกอร์ปิโอเป็นประเทศนักเดินเรือ มักประกอบอาชีพเกี่ยวกับการเดินเรือเช่น ราชนาวี การประมง การต่อเรือเดินทะเล และการคุ้มกันเรือ โดยมีเรือรบรับจ้างที่สามารถจ้างวานให้ไปคุ้มกันการเดินทางและปกป้องนักเดินทางจากโจรสลัดที่อาจหลงเหลืออยู่หรือโจรสลัดจากนอกเขตน่านน้ำสกอร์ปิโอ เมืองใหญ่ของสกอร์ปิโอตั้งอยู่ติดทะเลและล้วนเป็นเมืองท่า การค้าขายและขนส่งก็มักจะใช้การเดินทางโดยเรือเป็นสำคัญ
ชาวสกอร์ปิโอนิยมสัญจรทางเรือและทางน้ำมากกว่าทางบก เพราะพวกเขาถือตนว่าตนเองเป็นผู้รับใช้แห่งเทพเจ้าท้องทะเล และเชื่อว่าการเดินทางปลอดภัยกว่าเมื่ออยู่บนน้ำ อีกทั้งยังนิยมเลี้ยงสัตว์น้ำที่สามารถใช้ลากเรือ เช่นมังกรสมุทรและม้าวารี โดยที่ภาพของม้าวารีเทียมเรือลากเรือเล็ก และภาพของมังกรสมุทรหลากหลายสายพันธุ์ทั้งที่ใช้ลากเรือใหญ่ กับคอยรักษาความปลอดภัยของกองเรือก็เป็นภาพคุ้นตาแถวท่าเรือ
ธุรกิจการออกแบบเรือและอู่ต่อเรือเองก็เป็นที่นิยมไม่น้อย ในแต่ละปีอู่เรือทั่วสกอร์ปิโอจะได้รับใบสั่งผลิตเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่รวมกันไม่น้อยกว่าร้อยลำ
อู่ต่อเรือหลวงของสกอร์ปิโอนับเป็นจุดศูนย์รวมของช่างฝีมือแขนงต่างๆที่ร่วมกันค้นคว้าวิจัยการต่อเรือที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น มีหอเอกสารและอู่แห้ง ไปจนถึงโรงทอผ้าที่ใช้ในการวิจัยเส้นใยสำหรับผลิตใบเรือเป็นของตนเอง อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อเรือเป็นที่สนใจไม่น้อยไปกว่าทหารรับจ้างสักนิด กลุ่มช่างฝีมือที่ทำงานร่วมกับกองทัพและหน่วยงานของรัฐนี้อยู่ร่วมกันภายใต้ชื่อสภาช่างฝีมือ
นอกจากนี้ วิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับทะเลทำให้ผู้ใช้เวทชาวสกอร์ปิโอหลายส่วนเชี่ยวชาญเวทน้ำ เชี่ยวชาญการว่ายน้ำและการเดินเรือ ซึ่งชาวเรือส่วนมากสามารถอ่านทิศทางจากดวงดาวได้อย่างแม่นยำ การออกเรือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมซึ่งฝังรากลึก กระทั่งว่าคนที่เมาเรือมักจะถูกล้อเลียนดูแคลนว่าไร้สมรรถภาพ หรือไม่เป็นที่โปรดปรานของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล
ชาวสกอร์ปิโอมักมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมรอบตัวอันมีผลมาจากลมทะเล มรสุม พายุฝนฟ้าคะนองที่มักไม่มีเหตุบอกล่วงหน้าได้ดี
ทักษะที่สำคัญอีกประการที่ชาวสกอร์ปิโอทุกคนมักได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เล็กซึ่งควบคู่มากับวิถีชีวิตที่คุ้นเคยกับทะเล คือทักษะการผูกเงื่อนที่หลากหลาย อันเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากและสามารถชี้เป็นชี้ตายได้ยามต้องโดยสารไปกับเรือ เมื่อเรือแต่ละลำต้องการรับลูกเรือเพิ่ม การทดสอบวิชาเงื่อนตามสถานการณ์มักถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหนึ่งในหัวข้อการทดสอบสำคัญเสมอ