ข้อกำหนดพิเศษสำหรับ
การสร้างตัวละคร/NPC
นักเรียนนายทหาร

• พลราชนาวี (ทหารเรือ) / พลรบหลวง (ทหารบก) 

  1. 1. • ต้องเรียนจบหลักสูตรชั้นต้นในสถาบันการทหาร และผ่านการสอบเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรชั้นสูง

        • โดยปกติในหลักสูตรชั้นสูงสามารถเลือกให้ตัวละครศึกษาที่สถาบันการทหาร หรือโรงเรียนพระราชาก็ได้

        • โดยปกติแล้วเมื่อผ่านการสอบเข้าในสถาบันการทหาร จะได้รับ ดาบ sabre ยาว ใบดาบโค้ง ปลอกโลหะสีเงินด้าน ด้ามจับปลายงอ วัสดุโลหะสีเงินประดับด้วยสีทองเล็กน้อย
          เมื่อสอบผ่านหลักสูตรชั้นสูง หากเป็นพลรบหลวง จะได้รับปลอกดาบบุหนังสีเงินขัดเงา พลราชนาวี จะได้รับปลอกดาบบุหนังสีขาว นายทหารทุกคนต้องพกดาบนี้ติดกาย ถือเป็นเครื่องยศและเครื่องบอกสถานภาพอย่างหนึ่ง
          
          

• ราชองครักษ์หลวง (ทหารราชวัลลภ(องครักษ์หลวง))

การสร้างตัวละครพลราชองครักษ์นั้น ต้องมีอายุราชการ 2 ปีขึ้นไป 

• ต้องเรียนจบหลักสูตรชั้นต้นในสถาบันการทหาร และผ่านการสอบเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรชั้นสูง

• ในหลักสูตรชั้นสูงสามารถเลือกให้ตัวละครศึกษาที่สถาบันการทหาร หรือโรงเรียนพระราชาก็ได้

• ในการสอบคัดเลือกพลราชองครักษ์แต่ละปีจะจัดสองรอบ โดยแบ่งเป็น
  การสอบภายในกองทัพภูมิภาคต่างๆ จัดขึ้นตลอดเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อหาตัวแทนเข้าสอบส่วนกลาง
  การสอบคัดเลือกส่วนกลาง จัดช่วงกลางเดือนมีนาคม 

• โดยทั่วไปผู้เข้าสอบที่สอบผ่าน มักจะผ่านในครั้งที่ 3-5 แต่คนที่ไม่ได้มุ่งมั่นกับการเป็นพลราชองครักษ์จริงๆเพียงร่วมสอบครั้งสองครั้งเป็นการเก็บประสบการณ์

• ส่วนมากคนที่เข้าร่วมสอบมักจะเข้าสอบหลังจากจบการศึกษาในหลักสูตรชั้นสูง(5ปี) หรือจากโรงเรียนพระราชา(7ปี) แต่ถ้ามั่นใจในความสามารถ หรืออยากรู้อยากเห็น อยากเก็บประสบการณ์ จะเข้าสอบทันทีก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เนื่องจากสามารถเข้าร่วมการสอบคัดเลือกพลราชองครักษ์ได้ตั้งแต่ปีแรกเพื่อเป็นการเก็บประสบการณ์ แต่จะไม่ถูกส่งเข้าร่วมการสอบส่วนกลางจนกว่าจะหลังจบปีที่สอง ตามเงื่อนไขการเข้าสอบที่ต้องมีอายุราชการสองปีขึ้นไป

• พลราชองครักษ์ที่เป็นนักเรียนในโรงเรียนพระราชา มีข้อบังคับว่าให้ติดเข็มกลัดตราสัญลักษณ์พลราชองครักษ์ไว้ที่ชุด

สามารถเข้าชมเครื่องแบบของแต่ละกองทัพได้ที่ แฟชั่น การแต่งกาย อาวุธ: เครื่องแบบทหาร

การมาเรียนโดยใช้ฉายานายทหาร ถือเป็นนักเรียนทุนหลวง นับเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ สายการบัญชาการทางทหารให้นับว่ารุ่นพี่ในโรงเรียนเป็นผู้บังคับบัญชาลดหลั่นมาตามชั้นปี มีปี7เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด 

แต่หากมีราชนิกูลที่ดำรงยศทางการทหารเข้าเรียน ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของนายทหารในเอดินเบิร์กจะเปลี่ยนหน้าที่เป็นของราชนิกูลผู้นั้นโดยอัตโนมัติ

• • • • รักษากฏระเบียบ ไม่ทำเรื่องที่ขัดต่อกฏของโรงเรียนพระราชาและกฏหมายของเอดินเบิร์กโดยไม่มีเหตุอันควร

      • รักษาวินัยทหาร 

      • ฝึกฝนร่างกายและขัดเกลาความสามารถของตนให้เหมาะสมกับฐานะนายทหารผู้เป็นนักเรียนของโรงเรียนพระราชา

      • เรียนรู้การสร้างสายสัมพันธ์ และรักษาสัมพันธ์อันดีกับคนของประเทศอื่น 

      • ปกป้องประชาชนของสกอร์ปิโอ

      • พิทักษ์รักษาความปลอดภัยให้ราชนิกุลในโรงเรียนในยามจำเป็น

      • ช่วยเหลือผู้ที่สมควรได้รับความช่วยเหลือ โดยไม่เกี่ยงเชื้อชาติ เพศ หรือฐานะ

      • ตระหนักตนเองอยู่เสมอว่าฐานะนายทหารนักเรียนโรงเรียนพระราชา เทียบเท่ากับการเป็นหน้าตาของประเทศ

ช่วงระยะเวลาปิดเทอม (ธันวา-เมษายน) กองทัพสกอร์ปิโอกำหนดให้นายทหารที่กลับประเทศต้องเข้ามารายงานตัวที่สถาบันการทหารอย่างน้อย 30 วัน จำเป็นต้องส่งรายงานเกี่ยวกับการเรียน การกินอยู่ การใช้ชีวิตที่เอดินเบิร์กโดยละเอียดให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ และเข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อให้เห็นว่าไม่ได้ย่อหย่อนต่อการฝึกฝนตนเอง

• ไม่รักษากฏระเบียบ 

• ไม่ธำรงระเบียบวินัยทหาร

• ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาโดยไม่มีเหตุอันควร

• ก่อความขัดแย้ง ไม่ว่าจะกับนายทหารด้วยกันเอง กับประชาชนสกอร์ปิโอ กับประชากรของประเทศอื่น อันอาจก่อให้เกิดประเด็นทางการเมืองระหว่างประเทศได้

• ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ

• ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น

• ริเริ่ม/เป็นส่วนหนึ่ง/เข้าร่วมกับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย อันนำมาซึ่งผลกระทบกับผู้อื่น

• ทำผิดกฏของเอดินเบิร์กขั้นร้ายแรง

สำหรับการสร้างตัวละครทหาร ไม่ว่าเป็นตัวผู้เล่นหรือ npc ในโรงเรียนพระราชา ขอแจ้งให้ทราบว่าตามสตอรี่แล้ว ในทุกปี ทางกองทัพมีการพิจารณาความประพฤติของนายทหารขณะเล่าเรียนในโรงเรียนพระราชา ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาสนับสนุนและให้ทุนการศึกษา 

หากได้รับรายงานว่านายทหารนายใดมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แม้ว่าจะเป็นผู้สอบผ่านและมีสิทธิ์เข้าเรียนตามชอบธรรม แต่ทางกองทัพสามารถเรียกตัวกลับเข้ากรมกอง และพิจารณาโทษในกรณีที่มีพฤติกรรมเสื่อมเสียชื่อเสียง อาจมีโทษถึงปลดออกจากราชการ