สถานการณ์ความไม่สงบในสกอร์ปิโอ A.D. 1129-1131
คลื่นใต้น้ำเริ่มก่อตัวขึ้นทันทีที่การประกาศหมั้นหมายของเจ้าชายรัชทายาทเผยแพร่สู่สาธารณชน
สำหรับฝักฝ่ายที่ยังคงเชื่อมั่นความจริงของเลดี้ดาห์เลีย พาเรลมิดรอส พวกเขาเกลียดชังลูกหลานของ ‘กบฏ’ แอกนาร์ สกอร์ปิอัสมากจนกว่าจะอยากใช้ชีวิตร่วมผืนดินเดียว
มีเอแดร์ ย่อมต้องไม่มีแอกนาร์
มีเอแดร์ ย่อม…ต้องไม่มีผู้ทรยศที่สวามิภักดิ์ต่อแอกนาร์
พวกเขาถือว่า เหล่าผู้ทรยศแก่สายเลือดทรงเกียรติของเอแดร์ สกอร์ปิอัส ต้องถูกกำจัด
แม้เป็นพาเรลมิดรอส ยิ่งสมควรต้องถูกกำจัด
สายเลือดทรงเกียรติไม่อาจมีพวกนอกคอกเป็นอันขาด
และผู้ทรยศที่ว่า นั่นก็คือผู้เป็นบุตรชายเช่นเอธานัส สกอร์ปิอัส
คู่หมั้นของเจ้าชายจะเป็นใครก็ได้ หากต้องไม่ใช่บุตรสาวของเอธานัส — ไม่ใช่ลูกหลานที่มีสายเลือดพาเรลมิดรอส แม้จะเป็นพาเรลมิดรอสผู้ทรยศก็ตามที
สายเลือดสูงส่งไม่อาจแปดเปื้อนไปมากกว่านี้
ความอยุติธรรมที่ผ่านมานับสิบๆปีสมควรถึงจุดสิ้นสุด ประเทศแห่งนี้ไม่อาจวางไว้ใต้การปกครองของกบฏได้อีก
พาเรลมิดรอสและผู้อยู่ใต้อำนาจของมันจึงโบกธงประจำตระกูลสีเหลืองหม่นอีกครา
และคราวนี้ พวกเขาป่าวประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน ว่าไม่อาจอยู่ร่วมผู้อยู่เหนือบัลลังก์–โดยไม่ชอบธรรม-คนปัจจุบันได้อีกต่อไป
ข่าวลือเสียหาย การเล่นแง่สกปรกทางการเมืองจึงเริ่มต้นขึ้น นำไปสู่ความการก่อกบฏต่อผู้ปกครองครั้งแรกในรอบหลายร้อยปี เกิดขึ้นเป็นรอยด่างในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยประการฉะนี้
เมษายน A.D. 1129 เป็นต้นมา
ช่วงกลางเดือนเมษายนของปี 1129 เริ่มมีการปล่อยข่าวลือในกลุ่มประชาชนในวงสังคมร่ำรวยเกี่ยวกับมรณกรรมของเลดี้ดาห์เลียเมื่อกว่าทศวรรษก่อน ว่าไม่ใช่การเจ็บป่วย หรือการเสียชีวิตจากโรคชราอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่ว่าเป็นการฆาตกรรม
ซ้ำยังเป็นการฆาตกรรมจากคนใกล้ชิดเสียด้วย
บ้างก็ว่าเป็นฝีมือเจ้าชาย..ผู้เป็นบุตรนอกคอกอกตัญญู
เอธานัส สกอร์ปิอัส ผู้ที่คู่ควรเป็นผู้ครองบัลลังก์สีคราม มากกว่าสายเลือดแอกนาร์ ทรราชชั่วช้าที่ฆ่าพี่ชิงอำนาจ
บ้างก็ว่าเป็นฝีมือลูกสะใภ้ผู้มิอาจมีหลานชายให้นางเชยชม หากมีเบื้องหลังเป็นตระกูลทางการทหารที่แข็งแกร่งไม่อาจเหยียดหยาม
เช่นฟาริสที่เป็นตระกูลสายเลือดเทพเจ้าแห่งผืนป่า และรับผิดชอบหน้าที่ทางทหารรับใช้ราชวงศ์สกอร์ปิอัสมาช้านาน กุมอำนาจในกองทัพภูมิภาคหลายต่อหลายแห่ง ขัดแย้งกับพาเรลมิดรอสที่มุ่งหมายเข้ามาแย่งชิงอำนาจในกองทัพมานานหลายปี
บ้างก็ว่าเป็นฝีมือบุตรเขยทั้งสอง–หรือกระทั่งหลานชาย –ผู้รับคำสั่งจากท้องพระโรงดารา และลงมือสังหารเพื่อความก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน
ทั้งตระกูลวาดิเมียร์ที่หวังก้าวหน้าไม่ว่าในกองทัพใด หรือซาฟาร์ที่เดิมเป็นพ่อค้าใหญ่
เรื่องความกระหายไขว่คว้าอำนาจนั้นไม่มีใครที่น่าไว้ใจ
ไปจนถึงเสียงเล่าลือไร้สาระที่ว่าเป็น…ฝีมือเจ้าหญิงน้อยในปีนั้นเอง
ในบรรดาข่าวลือ เรื่องหนึ่งเล่ากันถึงเหตุผลแท้จริงของการขอสละฐานันดรที่มองอย่างไรก็ไม่สมเหตุสมผลในปีนั้น
มิใช่การแถข้างๆ คูๆ ที่ว่าเสียใจ เสียใจหรือ? เสียใจอะไรกัน ก็แค่ย่าป่วยตายตามที่เอ่ยอ้าง ออกจากฐานันดรเพื่อลงโทษตัวเองหรือ? ถ้าเพราะเป็นการป่วยหรือเพราะโรค ทำไมนางจำต้องทำเช่นนั้น
ลือกันว่าแท้จริงเป็นการถอดยศและคุมขังในข้อหาฆาตกรรมต่างหาก
อีกเรื่องก็เล่าลือกันไปว่า การกวาดล้าง ‘กบฏพาเรลมิดรอส’ ที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นเป็นเรื่องแหกตาทั้งเพ นั่นก็เป็นเพียงข้ออ้างตามน้ำที่ใช้เพื่อกำจัดคนตระกูลพาเรลมิดรอสและพันธมิตรของอาณาเขตพัลนาเรียไม่ให้ก่อเรื่องวุ่นวายเพราะกังขาในเหตุการณ์การเสียชีวิตที่ไม่ควรจะเกิด ในขณะที่กษัตริย์เล่นสกปรก ใช้ชีวิตเจ้าหญิงแทนคำขู่ไม่ให้ผู้บัญชาการแห่งทัพหลวงเคลื่อนไหวออกหน้าหาความยุติธรรมในการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของมารดา จึงต้องถอดยศและจับไปจำขังเป็นตัวประกันมิให้ก่อความวุ่นวาย
ในขณะเดียวกันก็ยิ่งมีเรื่องที่เล่าลือเลื่อนเปื้อนจนน่าขัน เจ้าหญิงเป็นนักฆ่าบ้างล่ะ บ้างก็ว่านางไปฝึกฝนฝีมือเพื่อกลับมาล้างบางคนที่เคยทำร้ายนางในวัยเด็กบ้างล่ะ เพราะมีสัญชาตญาณเหี้ยมโหดแต่เยาว์วัย เมื่อฆ่าคนลงไปแล้วก็หนีความผิด ไปเร่ร่อนต่างบ้านต่างเมือง ไม่ก็เพราะถูกส่งไปลี้ภัยเพราะบิดาคิดการใหญ่บ้างล่ะ
จงจับตาสัญลักษณ์แห่งเขตปกครองพัลนาเรีย ธงสีเหลืองหม่น ดาวเหนือ ดอกรักเร่
อาณาเขตที่กษัตริย์ในอดีตได้มอบให้กับพาเรลมิดรอส และมันจะโบกสะบัดเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมแทนธงสีกรมท่าในสักวัน
ข่าวลือ
เหลวไหล
เลอะเทอะ
และเลื่อนเปื้อนไม่ต่างกับข่าวลืออื่น แต่คนก็ยังพูดต่อๆ กัน ด้วยว่าสนุกปากและออกจะตลกขบขัน หาสาระมิได้มากกว่าจุดประสงค์อย่างอื่น
แต่ทว่าเมื่อไตร่ตรองให้ดี แต่ละข่าวลือนั้นล้วนบรรจบกันตรงที่ ‘เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นความตั้งใจในการล้มล้างราชบัลลังก์ของผู้บัญชาการทัพหลวง’ แทบทั้งสิ้น
และแต่ละข่าวลือ ล้วนมุ่งทำลายชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของผู้ถูกเล่าลือและมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเล่านั้นไปจนเสียหาย
จากวงสังคมชั้นสูง ข่าวลือค่อย ๆ แพร่สะพัดไปในวงกว้างอย่างช้า ๆ
ในอนาคตไม่นานข้างหน้า เมื่อข่าวลือแพร่ไป ประชาชนจะกังขาต่อผู้เป็นว่าที่ราชินี
ในอนาคตไม่นานข้างหน้า เมื่อข่าวลือแพร่ไป ประชาชนจะกังขาต่อเหล่าผู้ปกครอง
ในอนาคตไม่นานข้างหน้า เมื่อข่าวลือแพร่ไป ประชาชนจะกังขาต่อราชา
รากฐานแห่งความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจจะถูกปลูกฝังในความคิดของประชาชน
ยามเมื่อเรื่องเล่าผิดๆถูกๆได้รับการร่ำลือไปจนกลายเป็นตลกโปกฮาที่พูดเล่นกันทุกชนชั้น ทำให้หนึ่งในผู้เป็นข่าว——เจ้าชายแห่งวังมารีน ผู้บัญชาการสูงสุดแห่งทัพหลวงถูกเรียกตัวเข้าพบใต้โดมดาราบ่อยครั้ง จนตำหนักนาวีของผู้เป็นเจ้าแผ่นดินเป็นราวบ้านหลังที่สอง
ผู้ใกล้ชิดทราบดีว่าในปีหลัง ๆ สุขภาพของเจ้าชายเอธานัสผู้บัญชาการกองทัพหลวงทรุดโทรมลงเรื่อยๆจากความตรากตรำในวัยหนุ่ม ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการคัดเลือกสมาชิกสภาเสนาธิการประจำปี A.D. 1130
ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะค่อย ๆ ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่ช่วงการคัดเลือกสภาเสนาธิการรุ่นใหม่ การประชุมคัดเลือกระดับท้องถิ่นที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนของปี A.D. 1129 เกิดความวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไม่ใช่เพียงความวุ่นวายทางการเมือง แต่เป็นการเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจนเกิดผลกระทบแก่ประชาชนในวงกว้าง
ในวันที่ประชุมที่ริวา เกิดเพลิงไหม้ขึ้นในย่านชุมชนใจกลางเมือง เปลวเพลิงปลายใบไม้ร่วงก่อนเข้าฤดูใบไม้หนาวที่อากาศแห้งและแล้งผนวกเข้ากับลมทะเล แผดเผาข้ามคืนจนหมู่บ้านร้านตลาดที่ยังนิยมสร้างด้วยไม้ของภูมิภาคนี้มอดไหม้เป็นธุลี
จากการสอบสวน พบว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ
ในวันประชุมที่การ์วีจิ เกิดระเบิดที่ประภาคารประจำเมือง ก่อนที่อาคารสูงซึ่งตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำจะค่อยๆทรุดตัวและถล่มลงมา ปากคำของผู้ดูแลประภาคารกล่าวว่าในวันก่อนหน้า มีเรือขนเสบียงเข้าเทียบยังด้านนอกของป้อมประภาคาร ก่อนที่คานใบเรือจะบังเอิญหักจากอากาศแปรปรวนที่มักเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาว
จากการสอบสวน พบว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ
สถานที่ราชการถูกเผา
ไซโลถล่ม
แหล่งน้ำปนเปื้อนสารพิษ
ยังมีเหตุยิบเหตุย่อยมากมายเกิดขึ้นไปทั่ว แม้แต่ที่เดลไชน์ซึ่งถือว่าเป็นอาณาเขตที่สุขสงบที่สุดก็ยังไม่เว้น
ไม่ว่าใครต่างก็จับสังเกตได้ว่าเป้าหมายในการโจมตีแต่ละครั้ง ล้วนอยู่ที่ผู้คน สิ่งของ หรือสถานที่ซึ่งมีความข้องเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ให้การสนับสนุนและให้ความสนิทสนมเป็นพิเศษกับราชวงศ์ในปัจจุบัน
โดยเฉพาะ ‘คาริน่า’ ไม่ก็ ‘ฟาริส’
สองตระกูลอัศวินของกษัตริย์อเลซัส
เดือนร้อนวุ่นวายกันตั้งแต่ตระกูลหลัก ตระกูลรอง คนในปกครอง ไปจนถึงเมืองฐานที่มั่นอย่างมีนัยยะสำคัญ
นอกจากนี้ยังเกิดการลอบโจมตีครอบครัวของนายทหารระดับสูงคนอื่นๆ อีกหลายครั้ง เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีครอบครัวขุนนางพลเรือนคนใดที่ได้รับความเดือดร้อนจากการจู่โจมนี้
ราวกับว่า..ผู้ก่อการจงใจพุ่งเป้าไปที่กองทัพ เพื่อสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน
และเป็นการสร้างภาพให้เห็นถึงความอ่อนแอของตระกูลซึ่งเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์
25 สิงหาคม A.D.1130
การประชุมคัดเลือกสภาเสนาธิการครั้งสุดท้าย ฟอร์เทลซา
หอประชุมนภา, อีกนามหนึ่งของ ‘รัฐสภา’, เป็นหอประชุมหลวงที่ใช้ในการประชุมเกี่ยวกับการบริหารการปกครองต่าง ๆ ในสกอร์ปิโอ สร้างขึ้นเพื่อให้การประชุมต่าง ๆ สามารถส่งต่อข้อมูลการประชุมได้อย่างลื่นไหลและดำเนินการประชุมได้หลายการประชุมควบคู่ไปพร้อมกัน
ความที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ลานจตุรัสที่หน้าอาณาเขตของหอประชุมจึงเปรียบเสมือนหมุดหมายหรือจุดนัดพบของผู้คนในฟอร์เทลซา
การประชุมคัดเลือกสภาเสนาธิการนั้น เป็นการประชุมที่กษัตริย์ ผู้บัญชาการสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพภูมิภาคต่าง ๆ รัฐมนตรีและอธิบดีของกระทรวงทบวงกรมที่เกี่ยวข้อง จะต้องเข้าประชุมเพื่อลงมติสุดท้ายสำหรับการคัดเลือกตำแหน่งสมาชิกสภาเสนาธิการที่จะดำรงตำแหน่งต่อไปในอีกห้าปีข้างหน้า
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมประชุมยังมีผู้ที่เสนอชื่อบุคคลต่างๆ เข้าร่วมคัดเลือก และผู้ที่ถูกเสนอชื่อที่จะเข้าแสดงวิสัยทัศน์ในรอบสุดท้าย
ผู้คนนับร้อยจะเข้ามาประชุมเพื่อคัดเลือกคน 25 คนที่จะขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของกษัตริย์ในการปกครองประเทศในห้าปีที่กำลังจะมาถึง
เรียกได้ว่าในช่วงที่มีการประชุม หอประชุมนภาเป็นสถานที่ที่การรักษาความปลอดภัยจะแน่นหนาที่สุดในสกอร์ปิโอก็ว่าได้
ในปีนี้มีหลายรายชื่อที่เป็นตัวเก็งในการคัดเลือก และเป็นการคัดเลือกที่ได้รับการจับตามองจากประชาชนค่อนข้างมาก เนื่องจากความวุ่นวายอันสืบเนื่อง—หรือมีผลเกี่ยวข้องมาจากความมั่นคงของกองทัพค่อย ๆ เกิดขึ้นต่อมาเรื่อย ๆ ในช่วงหนึ่งปีมานี้
การสืบสวน กวาดล้างจับกุมผู้ก่อความไม่สงบทั้งหลายในเวลาที่ผ่านมานั้นไม่มีความคืบหน้าเอาเสียเลย
พวกเขาตั้งความหวังว่าการคัดเลือกสภาเสนาธิการในครั้งนี้จะช่วยหยุดยั้งความวุ่นวายทั้งหมดลงได้
การประชุมคัดเลือกที่ปรกติก็ใช้เวลาพิจารณานานสองถึงสามวัน สำหรับครั้งนี้นั้นมีการถกเถียงคุกรุ่นเป็นพิเศษจนผู้เข้าร่วมหลายคนที่ต้องทำหน้าที่ติดต่อกันเป็นเวลานานแทบจะพักผ่อนค้างคืนอยู่ในห้องพักรับรองด้านใน
จนกระทั่งเมื่อการลงมติเลือกตัวแทนจากฝ่ายต่าง ๆ ดำเนินไปจนเสร็จสิ้น เหลือเพียงการพิจารณารอบสุดท้ายและลงนามรับรอง เหล่าผู้เข้าร่วมประชุมที่เหลือไปจนถึงทหารรักษาการณ์ที่ประจำการในจุดต่าง ๆ อย่างตึงเครียดมาเป็นเวลานานติดต่อกันล้วนเหนื่อยล้า
ในชั่วขณะที่สับเปลี่ยนเวรยาม คนกลุ่มหนึ่งก็สามารถเล็ดลอดการเฝ้าระวังของทหารรักษาการเข้าไปในบริเวณของหอประชุมอย่างเงียบเชียบ
และทันใดนั้น เสียงระเบิดก็ดังขึ้นในลานจตุรัสหลวงใจกลางเมือง ตามด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทุกหนแห่งในนครหลวง
ผู้ก่อการกู่ตะโกน
ธงสีเหลืองหม่น ประดับตราดาวเหนือและดอกรักเร่ถูกสะบัดใจกลางนคร สัญลักษณ์ของกลุ่มความยุติธรรมแห่งพัลนาเรีย
หรือนามที่ผู้อื่นเรียกขานกัน ‘กบฎ’ พาเรลมิดรอส
ธงที่เคยถูกโบกสะบัดในการประท้วงที่มีต่อราชวงศ์เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อน
ธงที่เคยถูกร่ำลือถึงกันถึงคลื่นใต้น้ำที่ทำให้ทั่วราชอาณาจักรวุ่นวายเมื่อสิบห้าปีก่อน
ธงที่เคยถูกร่ำลือถึงจากข่าวลือที่โหมกระพือมาตั้งแต่เมื่อหนึ่งปีก่อน
พวกเขาป่าวประกาศเสียงดังในเมืองถึงสิทธิ์ครองราชบัลลังก์อันไม่ชอบธรรม และที่ลุกฮือขึ้นในวันนี้ก็เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่อดีตรัชทายาทผู้ล่วงลับ
เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เหล่าคนของตระกูลที่ถูกกษัตริย์สังหาร
นอกจากนั้นพวกเขายังอ้างว่ามีหลักฐานที่ทายาทของตระกูลถูกกษัตริย์ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในการเรียกร้องความถูกต้อง มีคนที่ถูกขับไล่ จำขัง รับโทษทัณฑ์อย่างอยุติธรรม และบัดนี้พวกเขาจะมาทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้บริสุทธิ์
บัลลังก์ของผู้มีอำนาจปกครองไม่สามารถปล่อยให้อยู่ในมือของกษัตริย์อาชญากร
ทันทีที่รับทราบเหตุ กองราชวัลลภผู้มีหน้าที่อารักขาภายในพื้นที่หอประชุม ได้ประสานให้คณะผู้ตรวจการประจำสภาเสนาธิการซึ่งประจำการรอรับคำสั่งอยู่ภายนอกลงไปดูแลการควบคุมพื้นที่ และร่วมมือกับกองพลพิทักษ์ความมั่นคงประจำเมืองเพื่อเข้าจำกัดวงความเสียหายและควบคุมความวุ่นวาย ทำให้จำนวนของกองทหารรักษาการรอบ ๆ พื้นที่ของหอประชุมนภาลดน้อยลงในชั่วขณะสั้น ๆ
และเพียงชั่วเวลาสั้น ๆ นั้นเอง
ในขณะที่ไม่มีใครตั้งตัว อาคารทั้งหลังก็ตกอยู่ในทะเลเพลิงที่ลุกท่วม ขังสมาชิกผู้เข้าร่วมในการประชุมที่ยังเหลืออยู่ไว้ภายใน
ผู้คนที่ติดสัญลักษณ์สีเหลืองหม่นไว้ตามร่างกายได้ก่อความวุ่นวายขึ้นในที่ต่าง ๆ ก่อนโบกธงสัญลักษณ์ของพวกเขาเพื่อเรียกร้องความสนใจ ดึงให้กำลังทหารรักษาการณ์ในเมืองต้องออกปราบปรามความวุ่นวาย ทว่าอาวุธเพลิงที่เหล่ากบฏใช้นั้นก่อให้เกิดความเสียหายที่หนักหนา น้ำที่ถูกสาดเข้าไปในกองเพลิงแทนที่จะช่วยทำให้ไฟสงบลง กลับทำให้พระเพลิงยิ่งโหมสูง จำเป็นต้องใช้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่น้ำเข้าควบคุมสถานการณ์
จำต้องใช้เวทเสกสร้างทรายจำนวนมหาศาลเพื่อการนี้
สถานการณ์ระหว่างที่รอให้หน่วยเวทมาสมทบไม่สู้ดี ทหารรักษาการณ์ที่เหนื่อยล้าไม่สามารถใช้อาคมเขตแดนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทำให้เกิดความเสียหายขึ้นในจุดต่าง ๆ และในขณะที่ไม่ทันได้รู้ตัว พวกเขาก็กลับถูกเพื่อนร่วมหน่วย คนไว้ใจที่อยู่ข้างกายสังหารไปอย่างทีละคน–ราวกับใบไม้ที่หลุดร่วง
ในขณะที่ไม่ทันมีผู้ใดรู้ตัว หน่วยทหารของพวกเขากลับถูกแทรกซึมจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายโดยไม่มีใครจับสังเกตได้เลย
ในขณะที่สถานการณ์ภายในหอประชุมนภายิ่งตึงเครียดกว่า
ท่ามกลางผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ที่ต่างมีสีหน้าตื่นตระหนกและเจ็บปวดทรมาน ล้มลงทีละคนสองคน นายพลพีรีย์ อดีตหนึ่งในผู้บังคับการของกองเรือคาริปดิส ผู้ที่ปัจจุบันยังคงเป็นที่ปรึกษาให้กับกองเรือลาดตระเวนประจิมซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้กลับยืนตระหง่านขึ้นพร้อมกับประกาศว่ามีการโปรยพิษในระบบระบายอากาศ และห้องประชุมนี้ถูกยึดแล้ว
พร้อมกันกับที่กองกำลังในชุดคลุมปิดบังหน้าตาประมาณสามสิบชีวิตที่บุกเข้ามาในห้อง ต่างถืออาวุธไว้ในมือและรุมล้อมรอบนายพลไว้เหมือนต้องการรักษาความปลอดภัย ทุกคนในห้องล้วนเห็นกับตาว่าทั้งตัวนายพลพีรีย์ รวมไปถึงคณะผู้ช่วยที่มาจากคัลนาเรียพร้อมกันกับเขายังดูแข็งแรงสบายอกสบายใจ คล้ายพิษดังกล่าวนั้นไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้เลย
ตลอดการประกาศอย่างอหังการนั้น ยังมีคนผู้หนึ่งที่ออกมายืนเคียงข้างนายพลพีรีย์ เขาประกาศตัวว่าเป็นทายาทของสายสกุลพาเรลมิดรอสและประกาศว่านี่คือการก่อกบฏ เพื่อทวงความยุติธรรมแก่สายสกุลพาเรลมิดรอสผู้สมควรได้ครองแผ่นดิน
ปลายดาบวาววับหันคมไปทางบุคคลเดียว บุคคลที่นั่งบนบัลลังก์ในตำแหน่งประธานของการประชุม
องค์ราชาอเลซัส สกอร์ปิอัส
ดูเหมือนแท้จริงแล้วการก่อความไม่สงบภายนอกอาคารเป็นหนึ่งในแผนดึงกำลังพลป้องกันของหอประชุมออกไปดูแลความสงบจนการป้องกันอ่อนแอลง ก่อนที่จะใช้กำลังพลจำนวนน้อยที่แทรกซึมอยู่ในอาคารบุกเข้ามายึดห้องประชุม
เหตุการณ์ยิ่งตึงเครียดเมื่อเหลือราชองครักษ์ที่เหลือรอดจากพิษมาอยู่เคียงข้างผู้ปกครองสูงสุดเพียงจำนวนน้อยนิดเมื่อการโจมตีเริ่มขึ้น เลือดที่สาดกระเซ็นและเสียงกรีดร้องน่าเวทนาดังกึกก้อง ในขณะที่ราชองครักษ์ที่ไม่ได้มีหน้าที่ประจำในห้องประชุม และเหล่าผู้อารักขาที่อยู่ในห้องสังเกตการณ์กระจกใสทางด้านบนของห้องต่างช่วยกันเปิดสลักนิรภัยและกระโดดลงมาเพื่อปกป้องคนในอารักขา ทว่ามีการร่ายอาคมเกราะป้องกันหลายชั้นจนมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถพาตัวเองลงสู่พื้นได้สำเร็จก่อนที่จะเข้าต่อสู้กับคนของนายพลพีรีย์ แต่ร่างกายของเหล่าองครักษ์หลายๆ คนในจำนวนนั้นเองก็ได้รับผลกระทบจากพิษเช่นกัน
ถึงจะเป็นประเทศที่สนับสนุนผู้ใช้พิษ ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มีภูมิคุ้มกันพิษอย่างครอบคลุมปกป้องอยู่
สถานการณ์ดูเหมือนจะคับขัน ห้องประชุมสีฟ้าอาบย้อมด้วยเลือดแดงฉานการต่อสู้ระหว่างราชองครักษ์และผู้ตรวจการที่เหลือรอด—รวมถึงเหล่าบุคคลสำคัญที่ยังสามารถต่อสู้ป้องกันตนเองไหว
มีหลายคนที่ไม่อาจขยับได้และกำลังจะตกเป็นเหยื่อ อย่างไรเสียก็ต้องปกป้องคนพวกนั้นด้วย
ร่างของผู้คนค่อย ๆ ทับถมกันกองสูง
การต่อสู้ในห้องประชุม ยิ่งนานยิ่งดำเนินเป็นไปอย่างดุเดือด จนกระทั่งไฟด้านนอกถูกดับลงได้สำเร็จ สร้างโอกาสให้กองพลพิทักษ์แผ่นดินนำกองกำลังบุกยึดอาคารคืนได้อีกครั้ง
นายพลพีรีย์และผู้นำกบฏถูกรุกไล่จนต้องถอยหนีไปทางตะวันตก และกษัตริย์ได้สั่งการให้ราชองครักษ์และผู้ตรวจการรวมเป็นกลุ่มเคลื่อนที่เร็วกระจายกำลังกันให้ออกไล่ล่าในทันที
นายพลพีรีย์ หลังถูกเปิดทางให้หนีก็พาคนของตนติดตามกลุ่มไปทางตะวันตก แต่ด้วยอายุและอาการบาดเจ็บทำให้การเดินทางล่าช้า ในที่สุดก็ถูกทิ้งไว้ แม้หลังจากนั้นจะเปลี่ยนเส้นทางของขบวนไปอีกเส้นเพื่อหลอกล่อให้หน่วยค้นหาสับสน แต่การแบ่งกำลังบางส่วนแยกกันตามรอยต่อของหน่วยค้นหา ทำให้สามารถติดตามขบวนที่นำหน้าไปต่อได้แม้ว่าจะทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากหากเกิดการปะทะกันกับขบวน เนื่องจากจำนวนคนที่ติดตามไปนั้นมีน้อยลง
นายพลพีรีย์ถูกจับกุมได้ในช่วงเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม
ส่วนผู้อ้างตัวเป็นผู้นำการกบฏ
อโดนิส พาเรลมิดรอส หลังจากหนีไปจนมุมที่หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆริมอ่าวจิลรานบราดา เมื่อตระหนักว่าคงหลบหนีการจับกุมไม่พ้นก็ทำการฆาตกรรมพลเรือนและปลอมแปลงศพเพื่อตบตาเหล่าเจ้าหน้าที่ที่ไล่ล่าติดตาม ก่อนเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหวังหลบหนีไปยังคาโนวาลแทน
หลังจากสังหารผู้ตรวจการณ์และราชองครักษ์ก็ถูกหยุดยั้งไว้ได้และสามารถจับกุมมาเพื่อรอการพิจารณาโทษได้สำเร็จในสภาพปางตาย
เหตุการณ์ทั้งหมดสงบลงในวันที่ 27 สิงหาคม แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยในประเทศยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง
เหตุการณ์หลังจากนั้น
กษัตริย์อเลซัสนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ แต่ร่างกายได้รับผลกระทบจากพิษที่ถูกนำมาใช้ ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หลวงและนักพิษวิทยา
ผู้บัญชาการกองทัพหลวง เจ้าชายเอธานัส สกอร์ปิอัส ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นพระชนม์ในวันต่อมา
ผู้บัญชาการกองพลพิทักษ์เขตแดน ผู้บัญชาการกองพลพิทักษ์อุดร กองเรือลาดตระเวณทักษิณ เจ้ากระทรวงบริหารรัฐกิจได้รับบาดเจ็บสาหัส
ยังมีนายทหาร ราชองครักษ์และผู้ตรวจการ รวมถึงข้าราชการพลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่หอประชุมนภาอีกจำนวนหนึ่ง และยังมีผู้ที่ได้รับพิษจากเหตุการณ์นี้อีกเกือบหนึ่งร้อยคน ซึ่งถูกส่งเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน เหล่านักพิษวิทยาถูกระดมมาเพื่อช่วยแก้ไขเหตุการณ์อย่างสุดความสามารถ
อาคารหอประชุมนภาภายนอกได้รับความเสียหายอย่างหนัก ส่วนภายในมีความเสียหายในส่วนระบบประบายอากาศและคลังเก็บหินเวททำความเย็น จำเป็นต้องปิดการใช้งานเพื่อตรวจสอบสภาพอาคารและซ่อมแซมระยะยาว นักพิษวิทยาประจำสำนักพระราชวังถูกเรียกตัวมาเพื่อให้ทำการวิจัยส่วนประกอบที่ถูกใช้ในพิษลักษณะฟุ้งกระจายนี้
ทางด้านความวุ่นวายภายในนครหลวงฟอร์เทลซา ทรัพย์สินและสถานที่ราชการโดยเฉพาะรอบ ๆ ลานจัตุรัสกลางเมืองและหอประชุมนภาได้รับความเสียหาย
อาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่บนเส้นทางการเคลื่อนกำลังคนของกลุ่มก่อความไม่สงบถูกทำลายได้รับความเสียหาย บางแห่งถูกผู้ไม่หวังดีรายอื่นผสมโรงเข้าขโมยทรัพย์สิน
โชคยังดีที่ไม่มีชาวเมืองโดนลูกหลง หรือได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงแก่ชีวิต
สถานที่ราชการหลายแห่งถูกเผาทำลายเสียหาย
กองพลพิทักษ์ความมั่นคงสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อความไม่สงบได้นับพันคน ยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีอีกจำนวนมาก
เหล่าผู้ก่อความไม่สงบหลายต่อหลายคนได้ให้การว่า ได้รับเงินจากตัวแทนของชายผู้อ้างเป็นคนของสกุลพาเรลมิดรอส เมื่อสอบทานถึงรูปพรรณสันฐานก็สามารถยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่ปรากฏตัวในห้องประชุมซึ่งอ้างชื่อสกุลว่าเป็นทายาทสายสกุลพาเรลมิดรอส
คนเหล่านี้เป็นทั้งชาวบ้านที่ถูกหลอกลวงปลุกปั่น มีทั้งทหารผู้น้อยที่ถูกข่มขู่ มีทั้งนักรบรับจ้างที่มาจากประเทศอื่น มากกว่าครึ่งไม่ใช่ผู้ที่มีถิ่นกำเนิดในสกอร์ปิโอเสียด้วยซ้ำ พวกเขาสนใจตัวเงินอามิสสินจ้างที่ได้รับมากกว่าศีลธรรมและไม่สนใจว่าในการทำตามที่ถูกจ้างวานจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ใครบ้าง
นอกจากนั้นยังมีโจรลักเล็กขโมยน้อยที่ฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินหรือปล้นร้านค้าอีกหลายรายที่ถูกรวบตัวมาได้จากการแจ้งเบาะแสของร้านค้าและร้านรับซื้อของเก่าต่าง ๆ
มีการรายงานข่าวจากภูมิภาคคัลนาสว่ากองพลพิทักษ์ประจิมถูกเรียกระดมพลและกรีฑาทัพมุ่งสู่นครหลวง โดยมีการแสดงหมายคำสั่งปลอมทำให้การเดินทางราบรื่นจนกระทั่งข่าวสารความวุ่นวายถูกส่งไปยังแนวหน้า โชคยังดีที่การรุกคืบหยุดชะงัดจากการป้องกันเต็มกำลังของกองพลพิทักษ์ทักษิณและกองพลพิทักษ์ความมั่นคง จึงไม่สามารถเข้ามาสมทบกับการก่อการในฟอร์เทลซาได้ตามเวลานัดหมาย
ผู้บัญชาการทัพมีทั้งถูกจับกุมและถูกสังหาร ส่วนนายทหารในกองทัพที่ดำเนินการตามคำสั่งให้การว่าพวกเขาได้รับทราบเพียงว่ามีคำสั่งให้เขามาสมทบกำลังพลเพื่อร่วมการปราบปรามจลาจลที่นครหลวง
ทหารชั้นผู้น้อยบางส่วน หลังจากมีคำสั่งให้วางอาวุธและถูกควบคุมตัว เมื่อทราบสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ออกมาให้การว่าไม่ใช่นายทหารทั้งหมดของกองพลพิทักษ์ประจิมที่ถูกดึงเข้าสู่แผนการครั้งนี้ ส่วนที่เป็นผู้ที่ไม่อาจเกลี้ยกล่อมหรือบังคับใช้ถูกส่งไปทำงานตามสถานที่ห่างไกล ที่เหลือก็มีเพียงกองพันที่ทั้งผู้บัญชาการกองพลและคนสนิทเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงเท่านั้นที่ถูกส่งเข้ามายังฟอร์เทลซา พวกเขาถูกข่มขู่จากผู้บังคับบัญชาให้ทำตามคำสั่ง ไม่เช่นนั้นจะไม่รับประกันความปลอดภัยของครอบครัวที่อยู่ในเขตที่อยู่อาศัยของนายทหาร
ส่วนเหล่าผู้นำการก่อกบฏนั้น….
นายพลพีรีย์ หลังถูกจับกุมในช่วงเช้าของวันที่ 26 สิงหาคม ก็ถูกส่งเข้าคุมขังในเรือนจำพิเศษสำหรับคุมขังนักโทษทางการเมืองทันที
ผู้อ้างตัวเป็น อโดนิส พาเรลมิดรอส ถูกจับกุมในวันที่ 27 สิงหาคม
เขาถูกพิษแมงป่องทมิฬ ขณะนี้อยู่ภายใต้การดูแลของนักพิษวิทยาหลวงที่คอยให้ยายับยั้งแต่ไม่ให้ยาแก้พิษ รวมถึงกระตุ้นพิษแฝงที่ทำให้เกิดการอัมพาตจนไม่อาจทำร้ายตนเองให้ถึงแก่ความตายได้
เพราะเหลือพิษในปริมาณที่ไม่ทำให้ถึงแต่ความตายในทันที เพราะต้องการรักษาชีวิตของชายผู้นี้ไว้เพื่อให้สามารถรอดชีวิตไปเข้าสู่การขึ้นศาลพิจารณาคดี แต่ในระหว่างนั้นคงรู้สึกทุกทรมานราวกับจะข้ามเส้นแบ่งความเป็นความตายไปได้ทุกเมื่อ
ผู้บัญชาการกองเรือลาดตระเวณประจิมและคนสนิทถูกจับกุมด้วยข้อกล่าวหาซ่องสุมกำลังพลด้วยเป้าหมายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง รวมถึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอำนวยการก่อความไม่สงบและลอบสังหารบุคคลสำคัญมาตลอดหลายปี
รวมถึงเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่อกบฏครั้งนี้ ไม่อาจหนีอาญาแผ่นดินได้พ้นแล้ว
อาณาเขตพัลนาเรียที่ยังอยู่ใต้การปกครองของพาเรลมิดรอสและพัลนารอสจะถูกริบกลับเข้าสู่การปกครองส่วนกลาง เจ้าที่ดินในภูมิภาคคัลนาสทั้งหมดจะถูกตรวจสอบและผู้อยู่อาศัยทุกคนจะถูกตรวจสอบประวัติอย่างเข้มงวด
การลงมติรับรายชื่อสมาชิกสภาเสนาธิการครั้งสุดท้ายจะถูกเลื่อนออกไปเป็นปลายปี 1130 เป็นอย่างเร็ว
เจ้าหน้าที่ของหน่วยข่าวกรอง ผู้รับผิดชอบรักษาความปลอดภัย หน่วยลาดตระเวนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันที่ 25 สิงหาคม ต่างถูกสอบสวนอย่างหนัก โดยเฉพาะกองพลพิทักษ์ความมั่นคงซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการสอดส่องดูแลโดยตรง เนื่องจากหละหลวมจนผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถวางตัวคนแทรกซึมระบบการรักษาความปลอดภัยในเมืองหลวงได้ในเวลาสั้นๆ
หน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาค่าชดเชยถูกจัดตั้งขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
คณะสืบสวนพิเศษถูกจัดตั้งขึ้น
คณะผู้พิพากษาพิเศษถูกสรรหาและแต่งตั้งขึ้นทันทีหลังจากนั้น
การสอบสวนจะเริ่มต้นทันทีเมื่อผู้เสียหายฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและสามารถเข้าให้การได้ และการพิจารณาคดีในครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน
มีข่าวลือว่ามีคำสั่งให้เตรียมความพร้อมของหลุมแห่งความตายให้พร้อมสำหรับการใช้งานอีกครั้ง
พิธีศพของผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้จัดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน
โดยแบ่งเป็นพิธีของราชวงศ์ที่ฌาปนสถานหลวง และพิธีของกองทัพที่ฌาปนสถานของราชนาวี ซึ่งจะมีตัวแทนของราชวงศ์เข้าร่วมงานเพื่อแสดงความเสียใจ
รวมถึงผู้ที่เดินทางกลับไปประกอบพิธียังบ้านเกิด จะได้รับไฟพระราชทานจากผู้แทนพระองค์
ส่วนพิธีลอยเถ้ากระดูก เรือทุกลำจากทุกภูมิภาคของประเทศจะออกเดินทางพร้อมกันในเวลา 11 นาฬิกา ของวันที่ 4 กันยายน เพื่อประกอบพิธีโปรยเถ้ากระดูกในเวลา 14 นาฬิกา ตามพิกัดที่ทางครอบครัวของแต่ละท่านได้เป็นผู้คัดเลือก
(รายละเอียดของการจัดการพิธีศพ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมว่าด้วยวัฏจักรชีวิต
ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์จะได้รับการปูนบำเหน็จรางวัล เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งให้เหมาะสมกับความเสียสละต่อประเทศชาติ รวมถึงได้รับพระราชสาสน์แสดงความเสียพระทัย รวมถึงการขออภัยอย่างเป็นทางการจากราชวงศ์ ผู้ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียชีวิตไป
ทางด้านครอบครัวนั้น ทางกองทัพจะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้รับการยกเว้นภาษีและการจ่ายค่าสาธารณูปโภค และอุดหนุนการศึกษาให้แก่บุตรธิดาจนถึงระดับสูงสุดในสายวิชาและสถาบันที่พวกเขาและเธอต้องการ
การพิจารณาและการตัดสินคดี
กรณีการก่อกบฏต่อราชบัลลังก์ สิงหาคม A.D. 1130 และการก่อความไม่สงบแก่ประชาชนของสกอร์ปิโอ ในช่วงปี A.D. 1129-1130
การพิจารณาคดีจัดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน ท่ามกลางเสียงคัดค้านว่าไม่ควรเป็นสิ่งแรกที่จัดหลังต้อนรับศักราชใหม่ แต่เสียงเรียกร้องของประชาชนที่อยากเห็นคนผิดถูกพิพากษามีมากกว่าทำให้เสียงคัดค้านถูกตีตกไป
สถานที่จัดการพิจารณาคดีคือจตุรัสกลางเมืองหลวงฟอร์เทลซาที่ได้รับการบูรณะจนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เบื้องหน้าอาคารหอประชุมนภาที่ยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม เผยภาพของนั่งร้าน ผ้าใบ และเศษซากส่วนที่เหลือรอดจากการเผาไหม้ไว้เป็นหลักฐานของความรุนแรงในเหตุการณ์วันนั้น
คณะตุลาการสูงสุดทำการพิจารณาคดี โดยมีเจ้าชายรัชทายาทเป็นประธาน โดยที่กษัตริย์ที่ยังทรงประชวรเสด็จเข้าร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วย
เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้าและก่อเกิดเบื้องหน้าพยานและหลักฐานแวดล้อมมากมาย ผู้ก่อการกบฏและผู้สมรู้ร่วมคิดในที่เกิดเหตุจึงไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้
มีผู้ที่ถูกประหารด้วยการแขวนคอบนตะแลงแกงสิบสี่คน ถูกลงโทษตีตรวนใช้แรงงานหนักสามสิบเอ็ดคน ถูกเนรเทศสิบเจ็ดคน และจำคุกตลอดชีวิตยี่สิบคน
ผู้ต้องโทษในระวางโทษของการก่อความไม่สงบ ทำลายทรัพย์สินของราชการและเอกชน ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อันอาจนำมาซึ่งความเดือดร้อนของประชาชน และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องนับสิบกระทง
จำคุกไม่เกินสี่สิบปี แบ่งกลุ่มไปทำงานหนักในเหมืองหิน ทำความสะอาดประภาคารกลางทะเล ริบทรัพย์สินทั้งหมดเข้าเป็นกองทุนเยียวยาผู้ได้รับความเสียหาย
ผู้ต้องโทษที่มียศตำแหน่งทางราชการทั้งหมด ในกรณีที่ได้รับโทษจำคุก ใช้แรงงาน หรือเนรเทศ ให้ปลดออกจากราชการ และเรียกคืนทรัพย์สิน ค่าตอบแทน บำเหน็จบำนาญ ผลประโยชน์ที่เคยได้รับจากทางรัฐนับแต่วันที่สืบสาวราวเรื่องได้ว่าเอาใจออกหากร่วมมือกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบสร้างความวุ่นวาย โดยถือว่าบำเหน็จค่าจ้างทุกคราวน์ล้วนมาจากเงินภาษีของประชาชน เมื่อเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเพื่อก่อความวุ่นวาย เทียบเท่ากับทรยศประชาชนผู้จ่ายภาษีเสียแล้วก็ให้ต้องชดใช้สิ่งที่ได้รับจากประชาชนทุกท่านเหล่านั้นคืนไป
หากไม่มีเงินคืน ให้ผู้ต้องโทษทำงานใช้หนี้คืนแก่รัฐ โดยระยะเวลาที่ต้องทำงานจนกว่าจะสามารถปลดหนีจนหมดได้ไม่รวมกับระยะเวลาที่ต้องโทษ เมื่อทำงานใช้หนี้คืนจนหมดแล้วจึงจะถูกส่งเข้ารับโทษตามที่กำหนดต่อไป
ผู้บัญชาการกองเรือลาดตระเวณประจิมและพรรคพวกในกองเรือ ถูกกล่าวหาด้วยข้อหาซ่องสุมกำลังพลด้วยเป้าหมายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง จัดหากลุ่มบุคคลเพื่อก่อความวุ่นวาย จ้างวานและรับจ้างวานการจัดหาเพื่อจุดมุ่งหมายในการฆาตกรรมบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ทุจริตใช้อำนาจในทางมิชอบ
ถูกปลดออกจากราชการ ถอดถอนจากตำแหน่งหน้าที่อื่นทั้งหมด ต้องระวางโทษเนรเทศ แต่ให้จำขังเดี่ยวรอการสืบสวนเกี่ยวกับเหตุวุ่นวายในคดีอื่น ๆ ที่มีผู้ยื่นคำฟ้องเข้ามา
พีรีย์ นาร์ลุกะ พัลนารอส อดีตรองผู้บัญชาการกองเรือลาดตระเวนประจิม
ทุจริตใช้อำนาจในทางมิชอบ จัดหากลุ่มบุคคลเพื่อก่อความวุ่นวาย จ้างวานและรับจ้างวานการจัดหาเพื่อจุดมุ่งหมายในการฆาตกรรมบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ซ่องสุมกำลังพลด้วยเป้าหมายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ชักนำกบฏสู่มาตุภูมิ เป็นแกนนำก่อความไม่สงบอันก่อให้เกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในราชอาณาจักร มุ่งร้ายต่อสถาบันกษัตริย์และราชวงศ์
โทษฐานกบฏแผ่นดิน ตัดสินโทษประหารด้วยหลุมแห่งความตาย
อโดนิส พาเรลมิดรอส
เดินทางเข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย ใช้เอกสารยืนยันตัวตนปลอม หลอกลวงในการทำธุรกรรมทางการเงิน ข่มขู่ คุกคาม กรรโชกทรัพย์ ลักลอบเข้าสู่เขตหวงห้ามและเขตหวงห้ามทางหารทหาร ชักนำให้กลุ่มชนสร้างความเดือดร้อนแก่ราษฎร ฆาตกรรมและทำลายหลักฐาน จัดหาและจ้างวานเพื่อจุดมุ่งหมายในการฆาตกรรมบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ชี้ชวนและชักนำให้เกิดการทำลายทรัพย์สินทางราชการและทรัพย์สินของประชาชน ซ่องสุมกำลังพลด้วยเป้าหมายที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง แอบอ้างเบื้องสูง หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อาฆาตมาดร้ายต่อกษัตริย์และราชวงศ์ ชี้ชวนและชักนำให้เกิดการล้มล้างการปกครอง
โทษฐานกบฏแผ่นดิน ตัดสินโทษประหารด้วยหลุมแห่งความตาย
ในระวางโทษของข้อหาอันเกี่ยวเนื่องจากการกบฏของผู้นำผู้ยุยงปลุกปั่น หากเป็นโทษประหาร จะงดเว้นช่วงเวลาจำขังรอรับโทษหนึ่งปีหลังคดีได้รับการพิจารณาจนถึงที่สุด
โดยการประหารจะถูกจัดขึ้นโดยเร็วที่สุด
ในขณะที่นักโทษผู้ต้องโทษร้ายแรงอื่น ๆ จะถูกจัดการประหารต่อหน้าสาธารณชน แต่นักโทษในฐานความผิดเป็นผู้นำในการกบฏต่อราชบัลลังก์นั้น ตามกฏหมายของสกอร์ปิโอ คนเหล่านี้จะถูกประหารโดยการทิ้งร่างลงสู่ ‘หลุมแห่งความตาย’ หรือรังแมงป่องทมิฬแสนดุร้ายที่ถูกเพาะเลี้ยงในส่วนลับของวังหลวง
เนื่องจากเป็นเขตหวงห้าม จึงไม่อาจใหัประชาชนเข้าชมได้
ดังนั้นในการประหารจึงจัดให้มีจิตรกรบันทึกเหตุการณ์เข้าบันทึกภาพรายละเอียดสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อประกาศสู่สาธารณะชนและปลอบขวัญราษฎรให้ทราบกันถ้วนหน้าว่าผู้สูญเสียจะได้รับความยุติธรรม และผู้มีใจคิดคดจะไม่อาจได้พานพบจุดจบที่ดี
ในการดำเนินการประหาร
เจ้าชายอีสเลย์ สกอร์ปิอัส รัชทายาท ซึ่งเป็นผู้แทนพระองค์แทนกษัตริย์ซึ่งยังทรงประชวรในยามนี้ เป็นคนดำเนินการประหารกบฏอโดนิสด้วยพระองค์เอง
ส่วนนักโทษประหารอื่นๆ นอกเหนือจากโทษหลุมแห่งความตายทั้งสอง การประหารจะจัดขึ้นต่อหน้าประชาชน ณ ลานประหารนอกเมือง โดยจะให้ครอบครัวและคนใกล้ชิดที่ไม่ได้รับโทษเข้ารับชมอย่างใกล้ชิด
นักโทษประหารไม่อาจหวนคืนสู่ทั้งผืนน้ำและผืนดืน เมื่อถูกประหารไปแล้วจึงจะไม่มีการคืนร่างให้ญาติ แต่จะถูกราดรดด้วยกรดและพิษละลายทิ้งให้ระเหยเป็นไอ ไม่อาจกลับไปหลอมรวมกับธรรมชาติใต้ความกรุณาของทั้งโอเคียนัสและและซิลวาทานัสไปตลอดกาล
มีการออกประกาศโดยกรมการประชาสัมพันธ์ ผ่านทางเครือข่ายฐานทัพต่าง ๆ
ในหนังสือมีการสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเป็นทางการ โดยรวบรวมรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคม ไปจนถึงรายชื่อของเหตุการณ์เกี่ยวข้องที่ถูกทำให้เกิดขึ้นก่อนหน้า และเข้าข่ายที่ผู้เสียหายจะได้รับการชดเชยเนื่องจากเป็นผลกระทบลูกโซ่ของเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยผู้ที่เคยได้รับการชดเชยเฉพาะเหตุการณ์ก่อนหน้าจะได้รับเงินชดเชยสมทบเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง
รวมถึงได้มีการรวบรวมปูมบันทึกเหตุการณ์ของคดีความพยายามก่อกบฏเมื่อสิบห้าปีก่อนเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพื่อยุติข่าวลือและข้อถกเถียงต่างๆที่มีมายาวนานนับปีให้สาธารณะชนได้รับทราบ เนื่องจากถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่จบสิ้นและยุติลงแล้ว และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ต่างเสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด
การปลุกปั่นก่อกบฏ และหลักฐานในการลอบปลงพระชนม์สมาชิกราชวงศ์ของดาห์เลีย พาเรลมิดรอส และสมาชิกในครอบครัวตระกูลในอดีตจึงถูกแสดงต่อสาธารณะชน
และทั้งนี้ให้มีการปลดชื่อของดาห์เลีย พาเรลมิดรอสออกจากทำเนียบผู้เป็นญาติใกล้ชิดราชวงศ์ ด้วยข้อหาซ่องสุมก่อการกบฏเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีการรวบรวมสำเนาประกาศคำประทับรับฟ้องจากศาลแขวงประจำอาณาเขตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เป็นคำฟ้องเพื่อเรียกร้องการรับผิดชอบ ค่าเสียหาย และค่าสินไหมชดเชย โดยมีการระบุว่าหากประชาชนคนใดต้องการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมเพิ่มเติม ขอให้รวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนยื่นฟ้อง เมื่อเอกสารและคุณสมบัติครบถ้วน ศาลจะประทับรับฟ้องให้แน่นอน
มีการประกาศรายชื่อของผู้ที่ได้รับการปูนบำเหน็จ ไปจนถึงการเลื่อนยศตำแหน่ง ทั้งแก่ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ในคราวเดียวกันนี้ได้มีการแต่งตั้ง ธีโอดอร์ ฟาริส ผู้บัญชาการกองพลพิทักษ์อุดร เป็นผู้บัญชาการกองทัพหลวงคนใหม่ เข้าดำรงตำแหน่งแทนผู้รักษาราชการแทน สืบทอดธรรมเนียมผู้บัญชาการสูงสุดจากตระกูลแห่งเผ่าผืนป่าต่อไป
โดยในจำนวนทั้งหมด รายชื่อที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษมีอยู่สามตำแหน่ง
เนื่องจากสองรายชื่อในนั้นเป็นผู้ไร้นาม ไม่เคยได้รับการกล่าวถึงมาก่อน หากกลับได้รับพระราชทานในสิ่งแปลกประหลาด–เช่น อิสรยศ
โดยองค์กษัตริย์อเลซัสทรงโปรดให้ 'อาซิเอร์ ฟาริส' เข้าสู่ราชสกุลสกอร์ปิอัส รับพระยศเป็นเจ้าชายแห่งสกอร์ปิโอ
โปรดให้ 'แอสเซอร์ ฟาริส' เข้าสู่ราชสกุลสกอร์ปิอัส รับพระยศเป็นเจ้าหญิงแห่งสกอร์ปิโอ
และโปรดให้สลักรายชื่อไว้ในสุสานราชวงศ์สกอร์ปิอัส
และโปรดให้คืนยศแก่อริสเทีย สกอร์ปิอัส ซึ่งมีความดีความชอบในเหตุการณ์ครั้งนี้ให้กลับคืนมาเป็นเจ้าหญิงแห่งราชสกุลสกอร์ปิอัสดังเดิม
และโปรดให้สลักรายชื่อไว้ในสุสานราชวงศ์สกอร์ปิอัส เคียงข้างเอธานัสผู้เป็นบิดา.
สำหรับประชาชนของสกอร์ปิโอ
ฟอร์เทลซา และอาณาบริเวณในภูมิภาคบอสค์
ปิดเมืองไม่ให้มีการเข้าออกโดยพละการ มีการตรวจเอกสารประจำตัวอย่างเข้มงวด
นักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ จำเป็นต้องพกเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตเข้าเมืองติดตัวตลอดเวลา
มิให้พกอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควร หากขอตรวจค้นต้องพร้อมให้ตรวจ
นอกจากบริเวณท่าเรือแล้วขอความร่วมมือให้ประชาชนพิจารณางดเว้นการออกนอกเคหสถานในยามวิกาลโดยไม่จำเป็นเป็นการชั่วคราว
เจ้าหน้าที่สามารถเข้าปิดล้อมสถานที่ต้องสงสัยได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น โดยหากเกิดความเสียหายเจ้าของสถานที่และผู้เกี่ยวข้องสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ตามหลัง
ความเข้มงวดสูงสุดจะดำเนินไปร่วมสองถึงสามเดือนก่อนค่อยๆผ่อนคลายมาตรการรักษาความปลอดภัยลงจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ผู้ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการรักษาความปลอดภัย สามารถเรียกร้องสินไหมทดแทนได้หลังจากเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
มีการตรวจเอกสารประจำตัวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติ
ขอความร่วมมือไม่พกอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควร
ขอความร่วมมือให้ประชาชนพิจารณางดเว้นการออกนอกเคหสถานในยามวิกาลโดยไม่จำเป็นเป็นการชั่วคราว
ความเข้มงวดสูงสุดจะดำเนินไปร่วมหนึ่งเดือนก่อนค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการรักษาความปลอดภัยลงจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ผู้ได้รับความเดือดร้อยจากมาตรการรักษาความปลอดภัย สามารถเรียกร้องสินไหมทดแทนได้หลังจากเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ
เชื้อพระวงศ์ ราชองครักษ์ นักเรียนนายทหาร จะได้รับข่าวอย่างเร็วที่สุดในตอนเช้าวันที่ 28 สิงหาคม ผ่านทางสารด่วนของกองราชวัลลภ
เชื้อพระวงศ์
เพิ่มความระมัดระวังในระดับสูงสุดในการทำกิจกรรมต่างๆ
ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ห้ามออกนอกโรงเรียนพระราชาโดยไม่มีราชองครักษ์ของตนไปด้วย อย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนหลังจากได้รับการแจ้งเตือน
ห้ามเดินทางออกนอกเอดินเบิร์กโดยพละการ
ห้ามเดินทางกลับสกอร์ปิโอ นอกจากจะมีคำสั่งเป็นอื่น
ราชองครักษ์
เพิ่มการอารักขาตามมาตรการฉุกเฉินที่กำหนด
สำหรับราชองครักษ์ภายนอกโรงเรียน ขอให้เตรียมพร้อมหากเชื้อพระวงศ์ในอารักขาจำเป็นต้องออกนอกโรงเรียน
ราชองครักษ์ที่มีฐานะนักเรียน ขอให้ติดตามผู้ที่ตนมีหน้าที่อารักขาตลอดเวลาถ้าเป็นไปได้
ถ้าไม่มีเหตุอันควรห้ามเดินทางออกนอกเอดินเบิร์กโดยพละการ
นักเรียนนายทหาร
เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง และสนับสนุนราชองครักษ์ในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญตามสายการบัญชาการของตน
เฝ้าระวังประชาชนสกอร์ปิโอในเอดินเบิร์ก หากพบสิ่งผิดปกติที่น่าสงสัยให้แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาทันที
ถ้าไม่มีเหตุอันควรห้ามเดินทางออกนอกเอดินเบิร์กโดยพละการ
ถ้าจำเป็นจะต้องออกจากเอดนเบิร์ก มีการขอความร่วมมือให้ไม่ออกจากเอดินเบิร์กโดยลำพัง ให้นักเรียนนายทหารหรือราชองครักษ์แจ้งแก่ผู้บังคับบัญชา จะมีการจัดคนติดตามไปเพื่อรักษาความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
คำสั่งของผู้บังคับบัญชาถือเป็นที่สิ้นสุด
สำหรับราชองครักษ์และนักเรียนนายทหารที่มีตำแหน่งหน้าที่ข้างต้น ในการรับผิดชอบหน้าที่ตามมาตรการฉุกเฉินของกองทัพนั้น หากการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับในการรับมือเหตุไม่คาดฝันของนักเรียนเป็นเหตุอันอาจก่อให้เกิดการถูกหักธงคะแนนหอพัก ธงจำนวนนี้จะไม่ถูกนับเข้าในเกณฑ์เฝ้าระวังพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เนื่องจากเป็นการทำตามคำสั่งกองทัพ
มาตรการสำหรับเชื้อพระวงศ์ ราชองครักษ์ และนักเรียนนายทหารในเอดินเบิร์ก จะดำเนินไปอย่างเข้มงวดกระทั่งสิ้นปีการศึกษา 1130
นักเรียนและบุคคลทั่วไป(ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ)
ได้รับทราบข่าวอย่างเป็นทางการ อย่างเร็วคือเย็นวันที่ 29 สิงหาคม
จะมีการรวบรวมสถานการณ์ทางบ้านของนักเรียนมากับผู้นำสารในระลอกต่อมาด้วย
สำหรับนักเรียนโรงเรียนพระราชาที่ทางบ้านเข้าไปข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ จากมาตรการรักษาความปลอดภัยข้างต้น ไม่อนุญาตให้ลากลับสกอร์ปิโอในช่วงนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนเอง เว้นแต่มีบุคคลในครอบครัวป่วยหนัก บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต (จะด้วยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หรือไม่ก็ตาม) และต้องแจ้งแก่นักเรียนนายทหาร เพื่อให้สายการบังคับบัญชาของนายทหารในเอดินเบิร์กจัดคนติดตามเพื่อรักษาความปลอดภัยทุกครั้ง
มีการขอความร่วมมือให้ไม่ออกจากเอดินเบิร์กโดยลำพัง ให้แจ้งกับนักเรียนนายทหาร หรือราชองครักษ์
นักเรียนนายทหารหรือราชองครักษ์จะแจ้งแก่ผู้บังคับบัญชา เพื่อให้จัดคนติดตามนักเรียนทุกคนที่เดินทางอกนอกเอดินเบิร์กไปเพื่อรักษาความปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
มาตรการสำหรับนักเรียนและบุคคลทั่วไปในเอดินเบิร์ก จะเริ่มผ่อนคลายช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน A.D. 1130
สำหรับการเข้าร่วมพิธีศพของตัวละคร (หรือสตอรี่ของบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องที่จะเข้าร่วมพิธีต่าง ๆ) ขอให้ทำการสอบถามผ่าน @ToB3_Eden เป็นรายกรณีไป)