1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
สภาพปัญหาของผู้เรียน: นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มักอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่ทักษะด้านความคิดและอารมณ์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ภาษาอังกฤษในโรงเรียนไทยส่วนใหญ่มักเน้นการเรียนรู้แบบ passive learning ที่นักเรียนเป็นผู้รับความรู้เพียงฝ่ายเดียว ทำให้ขาดโอกาสในการฝึกฝนและประยุกต์ใช้ภาษาจริง ๆ ส่งผลให้นักเรียนเกิดความรู้สึกขาดความมั่นใจและความกล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพราะกลัวว่าจะพูดผิดหรือถูกเพื่อนหัวเราะ การเรียนรู้ที่จำกัดอยู่แค่ในหนังสือเรียนและแบบฝึกหัดยังส่งผลให้ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ พวกเขามักจะแก้ปัญหาตามรูปแบบที่เคยเรียนมา ไม่สามารถคิดนอกกรอบหรือให้เหตุผลอย่างเป็นระบบได้
สภาพปัญหาของการจัดการเรียนรู้: การจัดการเรียนการสอนแบบเดิมยังคงเน้นการสอนแบบบรรยาย (Lecture) ที่ครูเป็นศูนย์กลาง ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนเงียบเหงาและขาดการมีส่วนร่วม การใช้สื่อการสอนแบบดั้งเดิม เช่น กระดานดำหรือหนังสือเรียนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียนที่คุ้นเคยกับสื่อดิจิทัลและเทคโนโลยีได้ นอกจากนี้ การวัดผลและประเมินผลมักจะจำกัดอยู่แค่การทำข้อสอบแบบเลือกตอบหรือเติมคำ ซึ่งเป็นการวัดแค่ความรู้เชิงทฤษฎี ไม่ได้สะท้อนถึงความสามารถในการสื่อสารหรือการคิดวิเคราะห์ที่แท้จริงของนักเรียน ทำให้การเรียนการสอนไม่ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
การนำ Zep Quiz มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวสามารถทำได้ด้วยการสร้างกระบวนการที่เป็นระบบและต่อเนื่อง
สร้างกิจกรรมที่ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ ครูควรออกแบบคำถามใน Zep Quiz ให้เป็นคำถามที่กระตุ้นการคิดระดับสูง (Higher-Order Thinking Skills) เช่น คำถามปลายเปิด, คำถามที่ต้องใช้การให้เหตุผล (Why do you think so?), การเปรียบเทียบ (Compare and contrast...), หรือการวิเคราะห์สถานการณ์ (What would you do if...?) โดยครูอาจใช้เทคนิค Think-Pair-Share ให้นักเรียนได้มีโอกาสคิดคนเดียวก่อน (Think) จากนั้นจับคู่กับเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น (Pair) และสุดท้ายค่อยมาแบ่งปันคำตอบกับเพื่อนทั้งชั้นเรียน (Share) ผ่าน Zep Quiz ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนมีเวลาเตรียมตัวและรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในการตอบคำถาม
กระตุ้นให้นักเรียนกล้าสื่อสาร การใช้ Zep Quiz ช่วยลดความประหม่าในการสื่อสารได้ เพราะนักเรียนสามารถพิมพ์คำตอบหรือเลือกคำตอบผ่านอุปกรณ์ของตนเองได้ ซึ่งสำหรับนักเรียนที่ขี้อาย นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการแสดงความคิดเห็น เมื่อนักเรียนคุ้นเคยกับการมีส่วนร่วมมากขึ้น ครูสามารถต่อยอดไปสู่กิจกรรมที่ต้องใช้การสื่อสารแบบเผชิญหน้ามากขึ้น เช่น การนำเสนอผลงานกลุ่ม, การอภิปรายประเด็นต่าง ๆ หรือการทำบทบาทสมมติ (Role-playing) ซึ่ง Zep Quiz สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานและทบทวนความรู้ได้
ใช้เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ Zep Quiz ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือวัดผล แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนานและแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ (Gamification) ครูสามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น การจับเวลา, ระบบสะสมคะแนน, หรือกระดานจัดอันดับ (Leaderboard) เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักเรียนอยากมีส่วนร่วมมากขึ้น ข้อมูลจากระบบรายงานผลของ Zep Quiz ยังช่วยให้ครูสามารถวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียนแต่ละคนได้ เพื่อนำไปวางแผนการสอนให้ตรงจุดมากขึ้น
การปรับบทบาทของครู ครูต้องเปลี่ยนจากผู้ให้ความรู้มาเป็น ผู้อำนวยความสะดวก และ ผู้ให้คำปรึกษา (Facilitator) ครูควรสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและปลอดภัย ให้นักเรียนรู้สึกว่าการทำผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ (Growth Mindset) และพร้อมที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น ครูต้องให้คำชมและกำลังใจเมื่อนักเรียนพยายามสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะถูกต้องหรือไม่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังความรักในวิชาภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนอย่างยั่งยืน
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
คะแนนเฉลี่ยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดฤทธิ์คำหมื่นปทุมานุสสรณ์ ปีการศึกษา 2568 จากกิจกรรมการเรียนรู้ผ่าน Zep Quiz จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดฤทธิ์คำหมื่นปทุมานุสสรณ์ ปีการศึกษา 2568 ที่ยกมือตอบคำถามอาสานำเสนอหน้าชั้นเรียน, หรือเข้าร่วมการอภิปรายในห้องเรียนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
นักเรียนสามารถตอบคำถามที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์และให้เหตุผลประกอบเป็นภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้น
ผลการสอบวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนวัดฤทธิ์คำหมื่นปทุมานุสสรณ์ ปีการศึกษา 2568 ในภาพรวมเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่วัดทักษะการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารและการคิดวิเคราะห์
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษเพื่อแสดงความคิดเห็น ถามคำถาม และโต้ตอบกับผู้อื่นได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยไม่กังวลว่าจะพูดผิด
นักเรียนสามารถแก้ปัญหาและตัดสินใจจากข้อมูลที่ได้รับ สามารถให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจของตนเองได้อย่างมีเหตุผล
บรรยากาศในห้องเรียนมีความกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยพลังงาน นักเรียนรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น
ครูมีเครื่องมือที่สามารถปรับใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีความแตกต่างกัน และสามารถวัดผลพัฒนาการของนักเรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้การจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น