เฟรมของแร็กเกตยาวทั้งหมดไม่เกิน 680
มิลลิเมตร และกว้างทั้งหมดไม่เกิน 230 มิลลิเมตร
1. ด้ามจับ เป็นส่วนของแร็กเกตที่ผู้เล่นใช้จับ
2. พื้นที่ขึงเอ็น เป็นส่วนของแร็กเกตที่ผู้เล่นใช้ตีลูก
3. หัว บริเวณที่ใช้ขึงเอ็น
4. ก้าน ต่อจากด้ามจับถึงหัว
5. คอ (ถ้ามี) ต่อก้านกับขอบหัวตอนล่าง
ลูกขนไก่ที่ทำจากขนธรรมชาติ
ฐานเป็นหัวไม้ก๊อก หุ้มด้วยหนังบาง
1. ลูกขนไก่ต้องมีขน 16 อัน ปักอยู่บนฐาน
2. วัดจากปลายขนถึงปลายสุดของฐานโดยความยาวของขนไก่ในแต่ละลูกจะเท่ากัน
หมดระหว่าง 62 มิลลิเมตร ถึง 70 มิลลิเมตร
3. ปลายขนแผ่เป็นรูปวงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง
ระหว่าง 58 มิลลิเมตร ถึง 68 มิลลิเมตร
4. ขนต้องมัดให้แน่นด้วยเส้นด้าย หรือวัสดุอื่นที่เหมาะสม
5. ฐานของลูกต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 มิลลิเมตร ถึง 28 มิลลิเมตร
และส่วนล่างมนกลม
6. ลูกขนไก่จะมีน้ำหนักตั้งแต่ 4.74 ถึง 5.50 กรัม
ลูกขนไก่ที่ไม่ใช้ขนธรรมชาติ
1. ใช้วัสดุสังเคราะห์แทนขนธรรมชาติ
2. ฐานของลูกต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 มิลลิเมตร ถึง 28 มิลลิเมตร
และส่วนล่างมนกลมคุณสมบัติของวัสดุสังเคราะห์
โดยการเปรียบเทียบกับขนธรรมชาติ ยอมให้มีความแตกต่างได้ถึง10%
(จิรวัฒน์ คูณศรี , 2564, ออนไลน์)
ผู้ที่ถนัดมือขวาก็ใช้มือขวาจับโดยยื่นมือขวาออกไปข้างหน้าเหมือนกับการจับมือกับบุคคลอื่นที่ถูกแนะนำให้รู้จักโดยให้นิ้วทั้ง 4 กำรอบด้ามไม้แบดมินตัน
นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จะอยู่ตรงด้านสัน
1. จับที่หัวไม้คอร์กของลูก โดยใช้นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลางจับลูก
2. จับที่ปลายขนไก่ด้านในของลูกโดยใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้
3. จับโดยการวางลูกอยู่บนฝ่ามือ
ของด้ามไม้แบดมินตันเป็นรูปตัว วี โดยตำแหน่ง นิ้วหัวแม่มือ จะทาบอยู่ทางด้านแบนของ
ด้ามไม้แบดมินตัน
วิธีการคือ ผู้ที่ถนัดมือขวาก็ใช้มือขวาจับโดยยื่นมือขวาออกไป ข้างหน้าเหมือนกับการจับมือกับบุคคลอื่นที่ถูกแนะนำให้รู้จักโดยให้ นิ้วทั้ง 4 นิ้ว กำรอบด้ามไม้แบดมินตัน นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้จะอยู่ตรง ด้านสันของด้ามไม้แบดมินตันเป็นรูปตัว V โดยตำแหน่งนิ้วหัวแม่มือ จะทาบอยู่ทางด้านแบนของด้ามไม้แบดมินตัน
สรุปการจับไม้แบดมินตัน ( V-shape )
1. ตั้งสันไม้ขึ้น
2. จับไม้ให้ร่องตัว V (ระหว่างนิ้วโป้งและชี้) ตรงกับแนวสันไม้
3. ตั้งท่าเตรียม + ยกหัวไม้ขึ้นเตรียมตีลูก
ข้อควรระวัง
1. อย่าเอานิ้วชี้ขึ้นมาช่วยตี เพราะจะทำให้การตีหน้า Backhand ติดขัด ตีไม่เต็มวงและไม่มีแรง
2. จับไม้ในระดับที่พอดีมือ เพื่อทำให้จับไม้ได้ถนัดและป้องกันไม้หลุดจากมือ
(สอนแบดมินตันง่ายๆ By ครูเติ้ล, 2560, ออนไลน์)
การยืนเป็นทักษะที่สำคัญในการทรงตัวก่อนเริ่มเล่น หากผู้เล่นทรงตัวไม่ดีการตีลูก ซึ่งเป็นทักษะต่อเนื่อง
จะไม่ได้ผลเท่าที่ควร หลักการในการยืนทรงตัวนั้น คือ
1. ยืนโดยใช้เท้าข้างหนึ่งข้างใด อาจเป็นซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่ขณะยืนให้เบี่ยงเท้าไปข้างหลังเพื่อให้เท้ามีการยืน
กว้างขึ้นการทรงตัวจะดีขึ้นด้วย
2. การยืนนั้นต้องใช้น้ำหนักลงไปเท้าไม่ยืนโดยทิ้งน้ำหนักตกลงที่เส้นทางในลักษณะของการยื่นแบบเท้าตายทั้งนี้
เพราะจะให้คล่องตัวในการเคลื่อนไหวและการสไลด์เข้าไปยังเป้ าหมายเพื่อตีลูก
การใช้มือและนิ้วในการครอบคลุมการตีลูกแบดมินตันนั้นสำคัญมากเพราะการตีแบดมินตันแตกต่างจากการเล่นเทนนิสเพราะแบดมินตันใช้ข้อมือเป็นหลักในทักษะการตีลูก
การฝึกทักษะที่ใช้ข้อมือ ทั้งหน้าและหลังมือ
การตีลูกโต้หน้ามือ การจับไม้ให้หงายหน้ามือไปในทางที่จะตีลูกไปข้างหน้า เหวี่ยงไม้ไปด้านหลัง และงอข้อศอกเล็กน้อย ไม้แบดมินตันที่ถือในมุมที่เกือบจะเป็นมุมฉากกันท่อนแขน การตีให้ตวัดข้อมือในการตีลูก และบังคับทิศทางของลูกโดยการใช้ข้อมือ
การตีและตบ การจับไม้หงายหน้ามือไปทางทิศทางที่จะตีลูกไปข้างหน้า เหวี่ยงไม้ไปด้านหลังและงอข้อศอกเล็กน้อยโดยยกไม้ให้พ้นศรีษะ พับข้อศอกและพร้อมที่จะตวัดข้อมือตีลูก ในลักษณะการตบจากบนลงล่าง
การตีลูกมือล่าง เป็นการตีลูกจากล่างขึ้นบนให้ข้ามตาข่ายการจับไม้ให้หงายหน้ ามือไปในทิศทางที่จะตีลูกไปข้างหน้ าจับไม้ในลักษณะให้หัวชี้ลงล่างเหวี่ยงไม้ไปด้านหลัง
และตวัดข้อมือตีลูกจากล่างขึ้นบนให้ผ่านตาข่าย
การตีลูกหยอด การจับไม้ให้หงายมือไปทางทิศทางที่จะตีลูกไปข้างหน้าเหวี่ยง ไม้ไปทางด้านหน้ ขวามือ ตีลูก พร้อมก้าวเท้าตามไปด้วยในลักษณะของการส่งแรงการหยอดเฉียด
ตาข่ายให้มากที่สุด และหลอกฝ่ายตรงข้ามโดยการเปลี่ยนทิศทางของลูกโดยควบคุมทิศทางด้วยข้อมือ
การตีลูกหลังมือเป็นการตีลูกในลักษณะพลิกหลังมือไปในทางทิศทางที่จะตีลูกมีลักษณะการตี ดังนี้
1. การตีลูกหลังมือ การตีลักษณะนี้ ตำแหน่งการวางเท้าต้องไม่อยู่ในลักษณะของเท้าตาย เท้าต้องพร้อมที่จะเคลื่อนที่ไปได้ทุกทิศทาง การจับไม้ให้พลิกหลังมือไปในทางทิศทาง
ที่จะตีลูกไปข้างหน้า เหวี่ยงไม้ไปด้านหลังเเละงอข้อศอกเล็กน้อย โดยไขว้มือที่จับไม้เเบดมินตันไปอีกด้านหนึ่ง ของมือที่จับไม้ ถ้าจับขวาเหวี่ยงไขว้ไปทางซ้าย ถ้าจับซ้ายเหวี่ยงไปทางขวา การตีให้ตวัดข้อมือในการตีลูกเเละบังคับทิศทางของลูก ด้วยข้อมือ
2. การตีลูกหยอดหลังมือ การตีลักษณะนี้ ตำเเหน่งการวางเท้าต้องไม่อยู่ในลักษณะของเท้าตาย เท้าต้องพร้อมที่จะเคลื่อนที่ไปได้ในทุกทิศทุกทาง การจับไม้ให้พลิกหลังมือไปในทิศทางที่จะตีไปข้างหน้า เหวี่ยงไม้ไปทางด้านหน้าขวามือ ตีลูก พร้อมก้าวเท้าด้านเดียวกับมือที่จับไม้ตามไปด้วย ในลักษณะของการส่งเเรง การหยอดควรตวัดข้อมือเบาๆ
เพื่อให้ลูกหยอดเฉียดตาข่ายให้มากที่สุด เเละหลอกฝ่ายตรงข้ามโดยการเปลี่ยนทิศทางของลูก โดยควบคุมทิศทางด้วยข้อมือ
(จิรวัฒน์ คูณศรี , 2564, ออนไลน์)
คือลูกที่พุ่งเฉียดข้ามตาข่าย มีวิถีพุ่งข้ามขนานไปกับพื้นสนาม ผู้เล่นตีลูกดาดสูงในระดับอก ตีได้ทั้งหน้ามือโฟร์แฮนด์ และหลังมือแบ็คแฮนด์ทั้งจากด้านซ้าย ขวาของลำตัวลูกดาด ที่ตีจากระดับต่ำ ลูกที่ข้ามไปจะลอยสูงไม่ขนานกับพื้นสนาม มีแนวโน้มที่จะข้ามตาข่ายไปในลักษณะของลูกงัดโด่ง ลูกดาดใช้สำหรับสร้างสถานการณ์เป็นฝ่ายรุกโจมตี ไม่เปิดโอกาส ให้อีกฝ่ายหนึ่งตอบโต้กลับมาได้ด้วยลูกตบเป็นลูกที่พุ่งข้ามตาข่ายด้วยความเร็วในวิถีตรงโดยที่ผู้เล่นสามารถวางเป้าหมายให้ลูกพุ่งไปสู่ทุกจุดของสนามตรงข้าม อาจเป็นลูกดาดสุดสนาม, ดาดครึ่งสนาม, หรือตีเบา ๆ ให้กลายเป็นลูกแตะหยอด
ลูกดาดใช้กันมากในประเภทคู่ เพราะลูกดาดรักษาความเป็นฝ่ายรุก หลีกเลี่ยงการส่งลูกโด่งเปิดโอกาสให้คู่แข่งใช้ตบได้อีกทั้งยังบีบบังคับให้คู่แข่งมีเวลาสำหรับการตีโต้กลับมาด้วย ช่วงเวลาสั้นยิ่งถ้าคู่แข่งขันเสียหลักถลำไปอีกซีกหนึ่งของสนาม ลูกดาดที่พุ่งไปอีกด้านหนึ่งของสนาม จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่สามารถจะกลับตัวมาตีลูกได้ ในการเล่นประเภทคู่ ลูกดาด แทงครึ่งสนามยังใช้สำหรับหลบผ่านผู้เล่นที่อยู่ด้านหน้าของอีกฝ่ายหนึ่งในขณะเดียวกันวิถีดาดของลูกที่ข้ามไป ผู้เล่นมือหลังก็ไม่อาจตอบโต้กลับมาด้วยลูกตบได้ ถ้าใช้ลูกดาดพุ่งไปยัง มุมที่สามของฝ่ายตรงข้ามในหลาย ๆ ครั้งจะพลิกสถานการณ์จากฝ่ายรับให้กลายเป็นฝ่ายรุกได้ทันที
ลูกดาดเป็นลูกที่แรงตีมาจากแรงเหวี่ยงของแขน ผสมผสานกับแรงตวัดของข้อมือ อาจจะมีแรงโถมของน้ำหนักตัว หรือไม่มีเลยก็ได้ การกำหนดแรงตี จะทำให้ลูกดาดข้ามไปยังเป้าหมายที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นลูกดาดครึ่งสนามก็ต้องลดความแรงลงบางส่วน แต่ก็ยังต้องใช้การดีดตวัดของข้อมือช่วยเพื่อให้ลูกดาดที่ข้ามตาข่ายไปนั้น มีวิถีวิ่งที่ฉวัดเฉวียนรวดเร็ว คู่ต่อสู้ไม่ อาจจะมาดักตะปบลูกได้หรือบางครั้งจะใช้เป็นลูกหลอก แทนที่จะเป็นลูกพุ่งเร็ว อาจจะตีเป็นลูกแตะหยอดทิ้งไว้หน้าตาข่ายของอีกฝ่ายหนึ่งก็ได้ แต่ต้องเป็นการตีลูกวิถีที่เร็ว ไม่อ้อยอิ่งจนอีกฝ่ายหนึ่งเข้าไปแย๊ปได้ ลูกดาดที่สมบูรณ์ต้องข้ามตาข่ายไปในวิถีตรง ลูกพุ่งข้ามไปด้วยความเร็วในขณะเดียวกันต้องข้ามไปในวิถีวิ่งเลียดตาข่าย ลูกดาดที่พุ่งสู่เป้าหมาย ห่างตัวคู่ต่อสู้มากเท่าใด จะเป็นการวางลูกที่สร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ตี และบีบให้อีกฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในสภาพเสียเปรียบเป็นฝ่ายรับ ในหลาย ๆกรณีต้องตอบโต้กลับมาเป็นลูกงัด หรือลูกโยนโด่ง ปิดโอกาสให้เราเป็นฝ่ายทำเป็นฝ่ายรุกโจมตีได้ลูกดาดที่ตีง่าย และถนัด ได้แก่ลูกที่พุ่งมาสองด้านของลำตัว เพราะมีมุมสำหรับเหวี่ยงตีลูก แต่ในบางกรณี ลูกที่พุ่งตรง เข้ามาหาลำตัวผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องใช้จังเท้าฟุตเวิร์คดันตัวเองให้พ้นวิถีลูกเพื่อเปิดมุมสำหรับเหวี่ยงตีลูกได้ ควรกำหนดระยะการประชิดให้พอที่จะตีลูกได้อย่างสบาย ปล่อยลำแขน เหวี่ยงตีลูกและตวัดข้อมือได้อย่างมีเสรี ควรตีลูกในระดับสูง และเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาลูกเสมอ
การฝึกตีลูกดาด ให้ผู้เล่นสองคนอยู่คนละฝ่ายของสนาม ตีลูกดาดด้วยการยืนอยู่ประมาณครึ่งสนาม ตีซ้ายขวาไปมาช้า ๆ พยายามบังคับให้ลูกวิ่งเลียดข้ามโดยไม่ติดตาข่าย ในระยะแรก ๆ ให้เผื่อข้ามเลยตาข่ายไว้ก่อน เมื่อเกิดความชำนาญ เกิดทักษะ จึงค่อยทวีความแรง กับความเร็วมากขึ้น
คือลูกที่ตีจากส่วนต่าง ๆ ของสนามให้พุ่งย้อยข้ามตาข่าย และตกลงสู่พื้นสนามด้านตรงข้ามดดยไม่เกินเส้นส่งลูกสั้น จะหยอดด้วยด้วยลูกหน้ามือก็ได้ หรือหลังมือก็ได้ หรือจะตีตัดหยอดจากลูกโด่งเหนือศีรษะก็ได้ ลูกหยอดเป็นการทำให้คู่ต่อสู้ต้องวิ่งเข้ามาเล่นลูกหน้าตาข่ายทำให้พื้นที่ส่วนหลังของสนามมีพื้นที่มากขึ้น การหยอดมีหลายแบบ เช่น ลูกหยอดหน้าตาข่าย ลูกตัดหยอด แต่ลูกหยอดที่ดีจะต้องเลียดตาข่ายและพยายามให้ลูกตกชิดตาข่ายมากที่สุด
การตีลูกหยอดมีวิธีการดังนี้คือ
1. เวลาตีลูกหยอดต้องให้แขนตึง ตามองลูกที่จะหยอ
2. เมื่อหน้าไม้จะสัมผัสลูกขนไก่ให้เอียงหน้าไม้ไปในทิศทางที่ต้องการให้ลูกไปตกพร้อมทั้งกระดกข้อมือเมื่อไม้สัมผัสกับลูกขนไก่
3. ลูกที่หยอดจะเป็นการหยอดจากหน้ามือหรือหลังมือก็ได้
(ITECStock, 2558, ออนไลน์)
บรรณานุกรม
จิรวัฒน์ คูณศรี. (2564). ทักษะที่จำเป็นในการเล่นแบดมินตัน . ค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566. จาก https://anyflip.com/olqaz/ncke/basic/
สอนแบดมินตันง่ายๆ By ครูเติ้ล. (2560). สรุปการจับไม้แบดมินตัน ( V-shape ) . ค้นเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566. จาก https://shorturl.asia/10KkG
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2566). แบดมินตัน. ค้นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2566. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/แบดมินตัน
ITECStock. (2558). วิธีและทักษะการเล่นแบดมินตัน. ค้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566. จาก https://shorturl.asia/E2zC8
โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ