กฎ กติกา การแข่งขันว่ายน้ำ
กฎ กติกา การแข่งขันว่ายน้ำ
ประเภทการแข่งขัน :
ฟรีสไตล์ (Freestyle) : นักกีฬาเลือกท่าว่ายได้ตามต้องการ
กรรเชียง (Backstroke) : ว่ายในท่าหงาย
ท่ากบ (Breaststroke) : ว่ายด้วยการใช้มือและขาในลักษณะประสาน
ท่าผีเสื้อ (Butterfly) : ว่ายด้วยการใช้มือและขาในลักษณะประสานกัน
FREESTYLE
ท่าฟรีสไตล์
คำว่า “ฟรีสไตล์” เป็นคำที่เรียกกันติดปาก มีชื่อว่า “crawl stroke”
ท่านี้เป็นท่าที่ร่างกายมีความเพรียวลู่น้ำมากกว่า ท่าอื่น ๆ รวมทั้ง การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นท่าว่ายอย่างไรก็ได้ ขอให้ต่างจากท่าผีเสื้อ ท่ากบ
และท่ากรรเชียง ซึ่งส่วนมากที่เห็นกัน
คือ การสาวมือว่ายสลับกันไปมาซ้ายขวา
ที่เรียกกันว่า ฟรีสไตล์ก็เพราะสามารถว่ายท่าอะไรก็ได้ที่คิดว่าเร็วที่สุด
เพื่อให้ถึงขอบสระก่อนคนอื่น
โดยท่าที่นิยมใช้ในกระบวนการสอน
ว่ายน้ำก็จะสอนท่านี้เป็นท่าแรก
BACKSTROKE
ท่ากรรเชียง
ท่านี้ เป็นท่าว่ายแบบนอนหงาย
สามารถว่ายกรรเชียง
โดยดัดแปลงหลักการ
ของฟรีสไตล์ได้
มือสองข้างสลับกันสาวน้ำ
เพื่อให้เคลื่อนตัวไปข้างหน้า
ต้องวางให้ชิดกับหูของตัวเองด้วย
BREASTSTROKE
ท่ากบ
ท่านี้ เป็นท่าว่ายแบบคว่ำหน้า
เป็นท่าธรรมชาติของมนุษย์
คือใช้มือพุ้ยน้ำและใช้เท้าถีบไปเรื่อย ๆ มือทั้งสองข้างต้องพุ้งไปข้างหน้า
พร้อมกัน ส่วนข้อศอกอยู่ใต้ผิวน้ำ
พร้อมกับเตะเท้าไปด้านหลังด้วย
ถือว่าเป็นท่าที่ว่ายได้ช้าที่สุด
แต่ในการแข่งขันแล้วท่ากบ
ใช้เทคนิคสูงเพราะการว่ายไม่เหมือนกับการว่ายเล่นธรรมดา เพราะท่ากบ
และต้องใช้พรสวรรค์สูงเพราะ
เป็นท่าที่นักกีฬา ต้องมีกล้ามเนื้อ
BUTTERFLY
ท่าผีเสื้อ
ท่านี้ เป็นการว่ายแบบคว่ำหน้า
เป็นท่าที่ต้องใช้แรงในการว่ายมากที่สุด มือทั้งสองข้างจะต้องยกเหนือน้ำพร้อมกัน ท่านี้มีความเร็วเป็นอันดับสองรองจากฟรีสไตล์ ในการว่ายท่านี้มีลักษณะเป็นการถ่ายน้ำหนักของร่างกาย
ไปมาจากหน้าไปหลังและหลังไป
หน้าไปเรื่อย ๆ ดังนั้นท่านี้ต้องอาศัย
เอวและสะโพกมาช่วย แต่ถ้าว่ายเก่งสามารถว่ายจี้ติดคนที่ว่ายท่าฟรีสไตล์
ได้เลยทีเดียว ต้องมีกล้ามเนื้อทั้ง
หัวไหล่ หน้าอก ลำตัว หลัง
และขาที่แข็งแรงมาก
- กติกา กีฬาว่ายน้ำ จะกำหนดเสียก่อนว่า การแข่งขันแบบนี้จะว่ายด้วยท่าอะไร และมีระยะทางเท่าใด ซึ่งผู้เข้าแข่งขันก็จะต้องว่ายตามที่กำหนดไว้ ใครเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกจะเป็นผู้ชนะ
- กีฬาว่ายน้ำนั้นเนื่องจากว่าเป็นกีฬาที่นิยมสำหรับผู้คนจำนวนมาก ดังนั้นจึงได้มีการจัดการ แข่งขันขึ้น เพื่อวัดกันว่าใครเก่งที่สุด เช่น การแข่งขันฟรีสไตล์ 100 เมตร ผู้เข้าแข่งขันจะต้อง ว่ายด้วยท่าฟรีสไตล์ ในระยะทาง 100 เมตร แต่ว่า ระยะทางที่ยาวที่สุดของสระว่ายน้ำ คือ 50 เมตร ฉะนั้น ผู้แข่งขันจึงต้องว่ายกลับตัว 1 ครั้ง เป็นการว่ายไปกลับ 1 รอบ จึงจะได้ระยะทาง 100 เมตร สำหรับการว่ายผลัด
- ผู้แข่งขันกระโดดลงสระหลังจากที่เพื่อนร่วมทีมจะว่ายแตะขอบสระไปแล้วเท่านั้น หากเพื่อนร่วมทีมยังไม่แตะขอบสระ แล้วกระโดดลงไป จะถูกปรับแพ้ทันที
- กติกาการแข่งขัน ใช้ควบคุมการแข่งขันที่จัดขึ้นทุกประเภท ได้แก่ การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ การแข่งขันชิงแชมเปี้ยนโลก การแข่งขันระหว่างทวีป และการแข่งขันทั่ว ๆ ไประหว่างประเทศ ยกเว้นการแข่งขันที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่น
- เรื่องการปล่อยตัวก่อนการว่าย กรรมการจะเป่าเสียงนกหวีดยาว เพื่อให้นักว่ายน้ำขึ้นบนแท่นกระโดด ต่อมาเมื่อกรรมการจะบอกว่า “เข้าที่” ผู้แข่งขันจึงก้าวไปยืนที่ปลายแท่นกระโดด รอกรรมการให้สัญญาณปล่อยตัวเป็นเสียงปืน ออด หรือนกหวีด จึงสามารถปล่อยตัวได้
- แต่ว่าในการแข่งขันในท่าว่ายกรรเชียงกับท่าผลัดผสม จะไม่ปล่อยตัวจากแท่น แต่จะปล่อยตัวจากสระว่ายน้ำแทน
การเริ่มการแข่งขัน :
นักกีฬาต้องเริ่มจากแท่นหรือขอบสระ
รอสัญญาณเริ่มการแข่งขันก่อนกระโดดลงน้ำ
กฎการว่ายน้ำ :
ว่ายตามท่าที่กำหนด ห้ามเปลี่ยนท่าระหว่างการแข่งขัน
ห้ามสัมผัสขอบสระในระหว่างการแข่งขัน (ยกเว้นในการเปลี่ยนท่า)
ฟาล์ว (Fouls) :
หากนักกีฬาไม่ปฏิบัติตามกฎจะถูกตัดสิทธิ์
ห้ามช่วยเหลือจากบุคคลอื่น
การวัดเวลา :
ใช้ระบบจับเวลาที่ถูกต้องและแม่นยำ
การประกาศผล :
ผลการแข่งขันจะต้องประกาศในเวลาที่กำหนด
อุปกรณ์และการแต่งกาย :
นักกีฬาต้องสวมชุดว่ายน้ำที่เหมาะสม
อุปกรณ์ที่อนุญาต ได้แก่ แว่นตาว่ายน้ำและหมวกว่ายน้ำ
บรรณานุกรม
สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย. (ม.ป.ป.). ประวัติกีฬา History . ค้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 จาก http://swimming.or.th/History
Maglischo, E. W. (2003). Swimming fastest. Champaign, IL: Human Kinetics.
Pritchard, D. (2021). The impact of swimming competition rules on athlete performance. International Journal of Sports Science, 12(3), 45-56.
FINA. (2024). Swimming rules and regulations. Retrieved from https://www.fina.org
โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ