มะเขือเปราะ (Thai Eggplant) เป็นมะเขือที่นิยมรับประทานสดหรือใช้ประกอบอาหาร เพราะผลมะเขือเปราะมีความกรอบ ไม่มีเส้นใย มีรสหวาน และรับประทานได้ทั้งผล
• วงศ์ : Solanaceae (วงศ์มะเขือ)
• ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum virginianum L.
• ชื่อสามัญ : Thai Eggplant
• ชื่อท้องถิ่นไทย :
ภาคกลาง และทั่วไป
– มะเขือเปราะ
ภาคเหนือ
– มะเขือขัยคำ
– มะเขือคางกบ
– มะเขือจาน
– มะเขือแจ้
– มะเขือแจ้ดิน
– มะเขือดำ
ภาคอีสาน
– มะเขือเผาะ
พันธุ์มะเขือเปราะตามสี
พันธุ์มะเขือเปราะที่นิยมปลูก ได้แก่
1. พันธุ์สีเขียวเข้มปะขาว ตัวอย่างชื่อพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์พวงหยกจักรพันธ์ มีมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นผู้จดสิทธิบัตรสายพันธุ์ เป็นพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์ขาวกรอบแม่โจ้กับพันธุ์ EP 06 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มีลักษณะเด่น คือ ผลออกเป็นพวง ผลมีขนาดเล็ก 2-3 เซนติเมตร พื้นผลสีเขียวเข้ม มีลายปะสีขาวที่ท้ายผล [2]
2. พันธุ์สีเขียวอ่อนปะขาว
3. พันธุ์สีเขียวอ่อนล้วน (หยดน้ำค้าง)
4. พันธุ์สีขาวล้วน
ประโยชน์มะเขือเปราะ
1. ผลมะเขือเปราะสดใช้รับประทานเป็นผักคู่กับอาหารต่างๆ อาทิ น้ำพริก ลาบ ซุบหน่อไม้ ส้มตำ และคั่วกลิ้ง เป็นต้น
2. มะเขือเปราะใช้ประกอบอาหารเดี่ยวๆ อาทิ ซุบมะเขือ (อาหารอีสาน) หรือใช้ประกอบอาหารต่างๆ อาทิ แกงคั่ว แกงเลียง แกงอ่อม และผัดต่างๆ เป็นต้น
3. มะเขือเปราะใช้ใส่เป็นส่วนประกอบของส้มตำ
4. เศษผล และใบมะเขือเปราะใช้ทำน้ำหมักชีวภาพ
5. ลำต้น และใบสดนำมาสุมรมควัน ช่วยไล่เหลือบ ยุง
6. สารโซลาโซดีนที่พบในมะเขือเปราะ ใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับสังเคราะห์สารสเตียรอยด์คอร์ติโซน และฮอร์โมนเพศบางชนิด