ความรู้เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งมีการสร้างขึ้นใหม่หรือเกิดจากการทำความเข้าใจใหม่ ในสังคมออนไลน์จะเห็นได้ว่ามีการใช้ประโยชน์จากการร่วมมือร่วมใจที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จนได้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้เรื่องต่างๆ ดังที่เราจะได้เห็นจากการสร้างสารานุกรมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดใน โลก wikipedia (http://www.wikipedia.org) ที่มีมากกว่า 7 ล้านบทความ ที่เขียนด้วยภาษาต่างๆ กว่า 200 ภาษา
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ wikipedia สามารถสะสมบทความได้มากและกว้างขวางขนาดนี้ ก็เนื่องจาก การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม สามารถแลกเปลี่ยน ปรับปรุงเนื้อหาได้อย่างเสรี จึงทำให้เกิดเป็น สารานุกรมที่มีชีวิตและเป็นปัจจุบันเสมอ นอกจากนี้ ก็ได้มีการต่อยอดขยายขีดความสามารถให้กับ wikipedia จนสามารถรองรับสื่อผสมได้หลากหลายรูปแบบยิ่งขึ้นเป็น mediawiki (http://www.mediawiki.org)
จุดมุ่งหมายสำคัญอันหนึ่งของโครงการ Digitized Thailand คือการเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน ที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้่างหรือปรับปรุงเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แล้วนำเสนอสาระ ความรู้ที่ได้โดยมีการเรียบเรียง จัดเป็นหมวดหมู่ กลไกเพิ่มเติมที่โครงการ Digitized Thailand มุ่งเน้นคือการรวมเอากระบวนการของการยื่นข้อเสนอจากผู้เสนองาน (Caller) ซึ่งเป็นผู้ที่มีงานที่ท้าทาย หรือปัญหาที่ต้องการการแก้ไข เพื่อหาผู้ขอรับงาน (Responder) ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ และพร้อมที่จะวิจัยหรือเสนอทางแก้ปัญหาที่เหมาะสม และการเตรียมเครื่องมือสื่อสารเพื่อช่วยให้ผู้ขอรับ งานสามารถทำงานเป็นทีมเวิร์คออนไลน์ได้ ความพยายามหนึ่งที่เห็นได้ในปัจจุบันคือ KuiSci (รูป) หรือที่ Innocentive (http://www.innocentive.com) (รูป)
ความรู้ที่ได้เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นเรื่องที่เชื่อถือได้ เรามักจะเรียกร้องหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือมารับรอง ลองจินตนาการถึงทุกวันนี้ ที่ปริมาณข่าวสารที่ถูกสร้างขึ้นแต่ละวันแล้ว เป็นไป ไม่ได้เลยที่จะมีหน่วยงานที่มีความสามารถที่จะออกใบรับรองความถูกต้องของข่าวสารได้ ตรงนี้เองที่เป็นเรื่องท้าทายนักวิจัยที่จะคิดค้นวิธีการที่เหมาะสมทั้งในเชิงปริมาณและความแม่นยำของการนำเสนอ ไม่ว่าในระหว่างกระบวนการสร้างข้อมูลดิจิทัล หรือจังหวะที่จะเฟ้นข้อมูลและนำเสนอ เราจำเป็นต้องมี วิธีการที่จะระบุความน่าเชื่อถือของข่าวสาร
วิธีหนึ่งที่เราสนใจคือการอาศัยข้อมูลพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของแต่ละคนว่ามีประวัติของความ น่าเชื่อถืออย่างไร มาระบุความน่าเชื่อถือของชิ้นงาน แม้จะอยู่ในขั้นของการทดลอง ผลที่ได้ก็เป็นที่น่า พอใจ ในงานการสร้างฐานข้อมูลสมุนไพร (KuiHerb, http://www.tcllab.org/kuiherb) (รูป) และคลังมโนทัศน์ของคำ (Kui, http://www.tcllab.org/kui สำหรับ Asian WordNet, http://www.asianwordnet.org) (รูป)
เราจำเป็นต้องเตรียมตัวเมื่อโลกเราเข้าสู่โลกของดิจิทัลอย่างเต็มตัว และตอนนั้น ความอยู่รอด ของเราก็อาจจะ ขึ้นอยู่สาระดิจิทัลที่มีคุณค่า กับเครื่องมือประสิทธิภาพสูง ที่สามารถจัดการกับข้อมูลที่มี ปริมาณมหาศาล และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นั่นหมายความว่าโลกจะกลมขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะมีผลทำให้ ความแตกต่างระหว่างผู้ที่มีโอกาส (ทางดิจิทัล) กับผู้ที่ไม่มีโอกาส (ทางดิจิทัล) เห็นชัดขึ้น
เอกสารอ้างอิง
KuiSci
Innocentive
KuiHerb
Kui