กิเลสหลบ

วันที่โพสต์: 17 เม.ย. 2015, 15:43:21

ในครั้งพุทธกาล พระ 500 รูปเรียนกัมมัฏฐานจากสำนักพระพุทธเจ้าแล้วก็ทูลลาเข้าป่าบำเพ็ญเพียร พระเหล่านั้นพยายามอยู่สักระยะหนึ่งก็สามารถทำ ฌาณ ให้เกิดขึ้นมาได้ กิเลส ที่เคยฟุ้งขึ้นมาก่อกวนก็สงบระงับไปด้วยอำนาจฌาณ "พวกเราทำสำเร็จแล้ว"ทุกรูปบอกกับตัวเอง คำว่าสำเร็จในที่นี้หมายถึงสำเร็จ อรหันต์ และเป็นธรรมดาเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว พระสาวกทุกรูปจะมาเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อพยากรณ์เฉพาะพระพักตร์พระพุทธเจ้า พระ 500 รูปนี้ก็เช่นกันคิดว่าตัวเองได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วก็พากันเดินทางมา เฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งขณะนั้นประทับอยู่ ณ.เชตวัน "อานนท์ มานี่ซิ" พระพุทธเจ้าตรัสเรียกพระ อานนท์ให้เข้ามาเฝ้า ขณะที่พระเหล่านั้นกำลังเดินใกล้จะมาถึงประตูวัด "อานนท์ เธอจงบอกพระเหล่านั้นให้ไปป่าช้าผีดิบก่อนค่อยกลับมาหาเรา" รับพระพุทธดำรัสแล้วพระอานนท์ก็รีบไปรออยู่ซุ้มประตูพอพระเหล่านั้นเข้ามา ใกล้ พระอานนท์ก็บอกให้ทราบถึงพระประสงค์ของพระพุทธเจ้า"ไปทำไม ?"พระบางรูปสงสัย ไปเถอะน่า พระพุทธเจ้าทรงมีพระฌาณเห็นการณ์ไกลเสมอ"พระบางรูปในกลุ่มเดียวกันตัดบท ครั้นแล้วทั้งหมดก็พากันตรงมาที่ป่าช้าผีดิบ ป่าช้าผีดิบ คือ ป่าช้าที่ทิ้งศพสด ไม่มีการเผา ญาติพี่น้องใครตายก็พากันหาบมาทิ้งไว้ปล่อยให้เน่าเปื่อยผุพังไปเองตามกาล เวลา เพราะแะนั้นจึงมีซากศพเกลื่อนไปหมด บางศพขึ้นอึด เน่าเปื่อย มีน้ำเหลืองไหลเยิ้ม แสดงว่าตายมาหลายวันแล้ว บางศพยังสดรูปร่างยังเป็นปกติ แสดงว่าเพิ่งตาย พระเหล่านั้นมาถึงป่าช้าพอเห็นซากศพ ก็มีความรู้สึกต่าง ๆ เกิดขึ้น เห็นซากศพที่ขึ้นพองก็รู้สึกเกลียดกลัวขยะแขยง เห็นศพผู้หญิงสาวที่ยังสดก็เกิดความรักความพอใจ แล้วทั้งหมดก็เข้าใจถึงเหตุผลที่พระพุทธเจ้าให้มาป่าช้าผีดิบแลัรู้สึกตัว ขึ้นมาทันทีว่า กิเลสที่เข้าใจว่าหมดนั้น แท้จริงแล้ว"มันหลบอยู่ข้างในตะหาก

Sometime

ผู้เรียบเรียง คือ ร.ท บรรจบ บรรณรุจิ ต้องกราบขอบพระคุณท่านมา ณ.ที่นี้.......... คัดลอก(พิมพ์)จากวารสาร พลังชีวิต ปี พุทธศักราช 2528