11. ช่วยเด็กยากไร้ กับพระครูวุฒิธรรมาทร .วัดโบสถ์วรดิตถ์

Post date: Jun 27, 2012 8:14:56 AM

ที่มา : http://www.bogboon.com/index.php?option=com_content&view=article&id=162:2008-08-07-11-39-15&catid=63:2008-08-02-18-30-47&Itemid=101

ข้อมูลการโอนเงิน :

ชื่อบัญชี วัดโบสถ์วรดิตถ์ โดยพระครูวุฒิธรรมาทร

ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก

บัญชีออมทรัพย์ 182-2-11-364-4

หากจะเปรียบต้นไม้ใหญ่ที่มีบรรดาเหล่าวิหคพเนจรมาเกาะอาศัยเพื่อหลบแดด ในวันที่ร้อนระอุ หลบฝนในวันที่มีพายุร้ายถาโถม ว่าเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแล้ว วัดเล็กๆ แห่งหนึ่งในอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ก็คงต่างอะไร กับร่มโพธิ์ร่มไทรขนาดใหญ่

ที่เป็นที่พักพิงของนกน้อยผู้ด้อยโอกาส จากทั่วผืนแผ่นดิน วัดที่ให้แหล่งพำนักพักพิงโดยมิรู้จักคำว่า ปฏิเสธที่จะให้ ทั้งแสงแห่งการศึกษา และเลี้ยงดูให้มีชีวิตอยู่รอดได้อย่างที่มนุษย์สักคนหนึ่งพึงจะได้รับ วัดเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก....วัดโบสถ์วรดิตถ์ แหล่งพักพิงของชีวิตของเด็กผู้ยากไร้

คลิบวิดีโอ ช่วงที่ 1

คลิบวิดีโอ ช่วงที่ 2

คลิบวิดีโอ ช่วงที่ 3

pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn

หลวงพ่อพระครูวุฒิธรรมาทรผู้เป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์วรดิตถ์ ได้เล่าให้ฟังไว้ว่า กว่า 30 ปีก่อนนั้น การรับอุปการะเลี้ยงดูเด็กๆในจุดแรกเริ่มเดิมที คือเด็กที่เป็นลูกของคอมมิวนิสต์ที่พ่อแม่ถูกฆ่ากวาดล้างก็มาขอพึ่งพาอาศัยใบบุญเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด โดยมีทหารพรานที่มีจิตเมตตาพามาฝากไว้ในครานั้น 30 กว่าคน ต่อมาก็มีชาวเขาที่ยากจนรู้เรื่องทางวัดก็ให้ลูกมา อย่างน้อยก็ยังดีเสียกว่าอดตายบนเขาชายแดนภาคเหนือ จนกลายเป็นกว่า 400 คนในวันนี้

pharkru_wuttidhammathorn

“ในแต่ละเดือนภาระค่าใช้จ่ายของทางวัด เฉพาะค่าไฟก็ไม่น้อยไปกว่า 3 หมื่นบาท รายได้ก็มาจาการบริจาคบ้างแต่ส่วนใหญ่แล้ว ก็ต้องไปขอบิณฑบาตรเอา ปัจจัยบ้างแต่ส่วนมากจะเป็นจำพวกข้าวสารอาหารแห้ง บางทีข้าวสารไม่พอวัดก็ไปขอหยิบยืมมาจากโรงสี พอมีผ้าป่ากฐินมาวัดก็เอาเงินไปใช้เขา ถ้าไม่มีหรือไม่พอเขาก็ไม่ทวงทางวัด ก็ถือว่าเป็นการทำบุญไป”

pharkru_wuttidhammathorn

คำพูดเรียบๆแต่แฝงไว้ซึ่งความเมตตาของหลวงพ่อนั้น เปรียบได้ดั่งฝนที่หลั่งไหลชโลมลงจากฟากฟ้า ในวันที่ผืนดินแห้งผาด

pharkru_wuttidhammathorn

"ทางวัดมีโรงเรียนให้เด็กๆได้เรียน แต่ก็เพียงแต่ตามอัตภาพ ตั้งแต่ชั้นระดับ อนุบาลจนถึงมัธยม 6 ต้องไปบิณฑบาตของเครื่องเรียนการศึกษา เด็กถ้าโตก็ไปรับจ้างหารายได้บ้าง แต่ถ้าเด็กเล็กก็ไม่มีรายได้เลย ทุกวันนี้หลวงพ่อไม่เคยมีปัญหาอะไร มีแต่ทุกข์ ขนาดเป็นพระก็ยังมีทุกข์ ทุกข์ที่ว่ากลัวจะมีไม่พอเลี้ยงเขาจะอยู่กันไปตลอดอย่างไร เพียงไหน บางคนเรียนจบก็กลับมาช่วย บางคนก็ไม่กล้ามา เพราะเขายังช่วยวัดไม่ได้ เค้าละอายใจตัวเอง”

pharkru_wuttidhammathorn

ในขณะที่บางคนที่เกิดมาบนกองเงินกองทองของพ่อแม่ ไปเรียนเมืองนอก บางคนหวังร่ำเรียนเพื่อให้ได้มาซึ่งวิชาขณะที่บางคนอยากได้ความโก้เก๋ ตามแบบตามสมัย แต่เด็กหลายร้อยชีวิตที่นี่แม้เสื้อผ้าจะใส่เรียนยังก็ใส่ตามมีตามเกิด ชีวิตที่แตกต่างราวฟ้ากับเหวแบบนี้ยังคงเกิดขึ้นในทุกยุคทุกสมัย

pharkru_wuttidhammathorn

“ครูที่สอนหนังสือที่นี่เป็นระบบกึ่งข้าราชการ มีเงินเดือนมีสวัสดิการให้จากภาครัฐ แต่เงินเดือนจะไม่ขึ้นเค้าก็ต้องเสียสละมากอยู่ รักเด็กๆเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ ก็ต้องดูแลกันไป จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง ดื้อบ้างซนบ้างก็คงต้องว่ากันไป ไม่ให้ทะเลาะกัน ถ้าทะเลาะไม่ถามเลยใครจะผิดจะถูก ตีทั้งคู่ เด็กๆเขาก็ซนตามประสา"

pharkru_wuttidhammathorn

ตลอดเวลาแห่งการพูดคุยจะเห็นได้ถึงความเมตตาที่พ่อผู้เป็นเหมือนโพธิสัตว์มีให้แก่เด็กยากไร้ที่มาพึงใบบุญของวัดนี้

pharkru_wuttidhammathorn

“ญาติโยมที่มาก็ไม่เยอะมากแค่เงินทำบุญหาได้เดือนชนเดือนก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังอะไรมาก ปล่อยให้เค้ารู้เอาเอง มาแบบปากต่อปาก วัดไม่เคยออกไปโฆษณาทางไหน ของบริจาคอยากจะบริจาคเสื้อผ้า ของเล่น อะไรก็เอามาบริจาคได้ อาหารแห้ง ถ้าเหลือใช้ไม่รู้จะทิ้งที่ไหน ก็เอามาได้ ของเก่ามันเก่าที่บ้าน แต่กับเด็กๆที่เขาไร้โอกาสมันก็เป็นของใหม่สำหรับเขา ก็อยู่ๆกันไป เคยบอกกับเด็กๆว่าถ้ามีคนเอาของมาให้ มาบริจาคเราก็เลี้ยงดูกันไป ถ้าไม่มีคนช่วยก็ต้องต่างคนต่างไป ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร อย่างน้อยการกินต้องมาก่อน เด็กๆต้องกินแล้วค่อยร่ำเรียน ยังไงก็ต้องให้เค้ามีกิน ถึงจะไม่ดีตามอัตภาพ แต่ก็ต้องได้กินเสื้อผ้านักเรียนเก่าๆมาเด็กได้ใส่ไปเรียนเขาก็ดีใจแล้ว คนที่มีโอกาสได้เรียน แล้วฆ่าตัวตายก็อยากฝากข้อคิดว่า กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ กว่าจะเติบโตมาเป็นคนได้มันสุดแสนจะยากลำบาก ยังมีชีวิตก็ยังมีโอกาส อย่าไปคิดสั้นชีวิตมันยังต้องต่อสู้กันต่อไป”

pharkru_wuttidhammathorn

หากจะเปรียบคนที่มีปัญหาในชีวิตที่อยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาระต่างๆในชีวิตนั้น มองอีกแง่หนึ่ง ความทุกข์มันก็คงเปรียบเหมือนกับหินก้อนใหญ่ๆซักก้อนหนึ่งซึ่งขวางทางอยู่ ในการที่จะผ่านและฝ่าฟันเพื่อให้ไปต่อได้ บางคนอาจจะยกหินออก เดินอ้อม หรือปีนข้ามไป ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหนทางไหน ก็ลำบากด้วยกันทั้งนั้น แตกต่างที่เพียงแต่ลำบากมากหรือน้อยแค่นั้นเอง เด็กๆที่อยู่ที่นี่บางสิ่งบางอย่างคนที่มีเพียบพร้อมอย่างเราๆอาจจะมองเป็นเพียงเศษขยะ ของเหลือกินเหลือใช้ แต่นั่นก็เป็นสิ่งประทังทั้งความสุขและประทังชีวิตให้อยู่ต่อข้ามพ้นไปในอีกวัน อย่างน้อยที่สุดเมื่อมองไปยังเด็กๆเหล่านั้น บางทีแล้วเราอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิดก็ได้

pharkru_wuttidhammathorn

ท่านที่อยากบริจาคช่วยเหลือวัดโบสถ์วรดิตถ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีชื่อวัดโบสถ์วรดิตถ์โดยพระครูวุฒิธรรมาทร ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก บัญชีออมทรัพย์ 182-2-11-364-4 หรือต้องการบริจาคสิ่งของก็สามารถบริจาคได้ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์โดยตรง

pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn
pharkru_wuttidhammathorn

ท่านที่อยากบริจาคช่วยเหลือวัดโบสถ์วรดิตถ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีชื่อวัดโบสถ์วรดิตถ์โดยพระครูวุฒิธรรมาทร ธนาคารกสิกรไทย สาขาป่าโมก บัญชีออมทรัพย์ 182-2-11-364-4 หรือต้องการบริจาคสิ่งของก็สามารถบริจาคได้ที่วัดโบสถ์วรดิตถ์โดยตรง

การเดินทางไปที่วัดโบสถ์วรดิตถ์ ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ขับรถไปเองประมาณชั่วโมงเศษๆ ไปตามถนนสายเอเชีย ถึง กม.ที่ 90 เลี้ยวซ้าย ไปอำเภอป่าโมก ประมาณ 10 กม. เมื่อข้ามสะพานแม่น้ำเจ้าพระยา เลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 3 กม.ถึงวัด วัดจะอยู่ซ้ายมือ พอข้ามประตูระบายน้ำเลี้ยวซ้ายจะเจอวัดและโรงเรียน

ขอขอบคุณ สำหรับบทความที่มีคุณค่ายิ่ง จาก http://www.thaicenternews.com/