Post date: May 18, 2011 9:45:53 AM

ที่มา : http://thairecent.com/health/2010/706538/

ข้อมูลการโอนเงิน :

ธนาคารกรุงเทพ สาขาประดิพัทธ์ เลขบัญชี 113-482-9991

มูลนิธิรามาธิบดีฯ ให้ชีวิตใหม่ผู้ป่วยโรคตับยากไร้ จัดโครงการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่สู่ลูก เฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

วันที่ 30/08/2553 14:30 (ผ่านมา 261 วัน 2 ชั่วโมง 10 นาที)

มูลนิธิรามาธิบดีฯ และคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี จัดทำโครงการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่สู่ลูก เฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเพิ่มทางรอด ให้ชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วยเด็กโรคตับที่ยากไร้ ด้วยวิธีการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่ที่ยังไม่เสียชีวิต นับเป็นครั้งแรกในไทย และพัฒนาการแพทย์ให้ก้าวหน้าทัดเทียมต่างประเทศได้ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีและประธานกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ โครงการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่สู่ลูก เฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า เป็นโครงการที่ทางมูลนิธิรามาธิบดีฯ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดทำเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หวังจะช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคตับระยะสุดท้ายที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล ให้มีชีวิตรอดอย่างมีคุณภาพ และยังเป็นการพัฒนาการเรียน การสอนด้านการแพทย์ให้มีการพัฒนาทัดเทียมกับต่างประเทศ"เนื่องจากในปัจจุบันการปลูกถ่ายตับเป็นวิธีการรักษาวิธีเดียว สำหรับผู้ป่วยโรคตับแข็ง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาโดยการปลูกถ่ายตับจะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด การปลูกถ่ายตับโดยปกติจะใช้ตับจากผู้บริจาคสมองตาย ซึ่งในปัจจุบันประสบอยู่ในภาวะขาดแคลน" ศ.นพ.รัชตะเผยดังนั้น จึงนับเป็นครั้งแรกที่มีการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่สู่ลูก เพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสในการรักษามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้สาเหตุของการเกิดโรคยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่ “เด็กทารกที่มีความผิดปกติจากโรคท่อน้ำดีตีบตัน แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดแก้ไขท่อน้ำดีก่อน ถ้าหากไม่ได้ผลจะทำให้เกิดภาวะตับแข็งและจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายตับภายในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ซึ่งหากช้ากว่านี้จะส่งผลให้เด็กเสียชีวิตได้”

“สำหรับโครงการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่สู่ลูกฯ เราเลือกใช้ตับของพ่อแม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากตับจากผู้บริจาคสมองตายขณะนี้อยู่ในภาวะขาดแคลน และการปลูกถ่ายตับให้ผู้ป่วยเด็กจะใช้ปริมาณตับน้อยซึ่งสามารถแบ่งมาจากตับของพ่อแม่ที่มีชีวิตอยู่ได้” นายแพทย์รัชตะ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ขณะนี้ มีผู้ป่วยเด็กกว่าร้อยคนที่รอรับการปลูกถ่ายตับจากโครงการ และยังมีผู้ป่วยที่ไม่ทราบจำนวนอีกมาก ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และขาดโอกาสในการรักษา จนเป็นสาเหตุให้ไม่มีการส่งตัวมาถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา โครงการนี้จึงเป็นอีกหนึ่งความช่วยเหลือที่จะสามารถบรรเทาความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของเด็กน้อยได้

โครงการปลูกถ่ายตับฯ นี้ มีระยะเวลาโครงการ 5 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553-2558 โดยตั้งเป้าช่วยเหลือผู้ป่วยโรคตับจำนวน 25 ราย ซึ่งทางมูลนิธิรามาธิบดีฯจะ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและค่ารักษาพยาบาลในการปลูกถ่ายตับทั้งหมด โดยแต่ละรายมีค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายตับ รายละ 1 ล้านบาท และ ค่ายากดภูมิ ปีละ 120,000 บาท ต่อคน รวมงบประมาณในโครงการฯกว่า 30 ล้านบาท

ผู้บริจาคสนใจร่วมบริจาคได้ที่ มูลนิธิรามาธิบดีฯ

“โครงการปลูกถ่ายตับจากพ่อแม่สู่ลูกเฉลิมพระเกียรติ 55 พรรษาสมเด็จพระเทพรัตน์ ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”

- ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารามาธิบดี เลขบัญชี 026-4-16660

- ธนาคารกรุงเทพ สาขาประดิพัทธ์ เลขบัญชี 113-4-83707-

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 02 201-1111

สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

คุณจิราภรณ์ (จี)

บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด โทร. 02 292-9383