6. น้องแพนเค้กรุ่นจิ๋ว..!! เด็กยอดกตัญญูหาเงินเลี้ยงยาย

Post date: Jun 16, 2009 1:37:16 PM

ที่มา: http://talk.mthai.com/topic/51859

ข้อมูลการโอนเงิน:

ธนาคารกสิกรไทย สาขาไอทีสแควร์ เลขที่บัญชี 762-2-12830-0

ชื่อบัญชี รายการสยามทูเดย์ เพื่อ ด.ญ. เกตุสุรี รอดไพล

เพราะมีใบหน้าละม้ายคล้ายกับนางเอกวิก 7 สี “แพนเค้ก- เขมนิจ จามิกรณ์” จึงทำให้ “น้องโบว์ – ด.ญ. เกตุสุรี รอดไพล” วัย 9 ขวบ เด็กหญิงยอดกตัญญูหาเงินเลี้ยงยายยิ่งเป็นที่จับตามอง “ ความดี ” ที่น่าเป็นตัวอย่างจึงทำให้ผู้พบเห็นโทรศัพท์เข้ามาเล่าผ่านรายการ “ สยามทูเดย์ ” ถึงการต่อสู้กับ “ ความยากจน ” ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจึงเป็นที่น่าสนใจขึ้นมา พิธีกรหนุ่ม “ บ๊อบ – ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ ” จึงลงพื้นที่ ต. ลาดหญ้า อ. เมือง จ. กาญจนบุรี ไปเก็บเรื่องราวที่น่าประทับใจของเธอมาเผยแพร่ให้เด็กยุคนี้ได้ชมกัน

บ้าน “น้องโบว์” เป็นเพียงกระต๊อบหลังเล็กๆ ที่ไม่ต่างจากเล้าไก่ ฝาบ้านกันได้เพียงลมกับแสงแดดเท่านั้น วันไหนถ้าฝนตกหลังคาจะรั่วจนแทบหาที่มุมหลบไม่ได้ 2 ยายหลานต้องกอดกันกลมคลายความหนาวเย็น น้องโบว์อยู่กับยายบุญมาก วัย 57 ปี ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจโต ไขข้ออักเสบ ฯลฯ จนไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเคย เงินจึงไม่พอเลี้ยง 2 ชีวิต บางวันต้องอดมื้อกินมื้อเพราะข้าวไม่มีให้หุงกิน ต้องอาศัยดื่มน้ำประทังชีวิตไป แต่น้องโบว์ก็ไม่ได้นิ่งเฉย หรือหมดหวังกับชะตาชีวิต พยายามดิ้นรนหนีจากความแร้นแค้น โดยตื่นตั้งแต่ตี 4 ทำงานทุกอย่างในบ้านเสร็จสรรพ ก่อนจะไปโรงเรียน ช่วงเย็นก็กลับมาช่วยงานบ้าน รับจ้างดายหญ้า ขุดดิน ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็กคนอื่น หรือวันไหนโชคดีมีงานจ้างไปโชว์ “รำไทย” น้องโบว์จะมีความสุขมาก เพราะนั่นหมายถึงจะมีเงินมาให้ยาย 100 – 150 บาททีเดียว

พอ 2 ยายหลานเห็นหน้า “บ๊อบ ณัฐธีร์” ถึงกับน้ำตาซึม..!! ยายบุญมากเปิดฉากชีวิตว่า “ เคยคิดฆ่าตัวตายด้วยการเดินตัดหน้ารถบนท้องถนนมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งก็จะคิดถึงน้องโบว์ตลอดว่าถ้ายายตายไปแล้วนองโบว์จะอยู่อย่างไร ครอบครัวยายก็ต้องหามื้อกินมื้อ แม่น้องโบว์ก็ป่วยเขาไม่ปกติเหมือนคนอื่น และที่ยายภูมิใจคือ น้องโบว์เป็นเด็กดีมากๆ มีความรับผิดชอบสูง ไม่เคยสร้างความลำบากใจให้เลย สอนอะไรหลานก็จะจดจำ หลายครั้งที่น้องโบว์เคยถามยายเสมอว่าทำไมเราไม่มีเหมือนคนอื่น ถามหลายๆครั้งเข้ายายก็ร้องไห้ทุกที จนสุดท้ายน้องโบว์ก็จะไม่ถามเพราะกลัวว่ายายจะร้องไห้เสียใจ ยายก็จะสอนเขา 5 ข้อคือ ให้อดทน, มีความรับผิดชอบ,มีคุณธรรม,ให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และเชื่อว่าทำดีต้องได้ดี ซึ่งทุกอย่างน้องโบว์ทำได้ดังใจหมด เพียงแต่ยายเป็นคนจนเท่านั้น แม้แต่ที่อาศัยยังไม่มีเป็นของตัวเองเลย(ร้องไห้) และตอนนี้มีสิ่งหนึ่งที่อยากทำให้กับน้องโบว์มากที่สุดคือ อยากให้เขามีสูจิบัตร มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เหมือนเด็กคนอื่นๆ เพื่อจะได้เข้าเรียนต่อได้ เป็นเพราะความผิดของยายที่ปล่อยให้เรื่องราวผ่านมาจนป่านนี้ เพราะแม่ของโบว์เขาจิตไม่ปกติ ยายทำคลอดน้องโบว์เองกับมือ แล้วไม่ได้ไปแจ้งกับทางอำเภอ ยายอยากขอความกรุณาจากท่านนายอำเภอให้ช่วยหลานยายในเรื่องนี้ที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มคำถามพี่บ๊อบก็ทักทันทีว่า “ น่ารักจริงๆ หน้าเหมือนพี่แพนเค้กเลย

น้องโบว์ยิ้มเขิน..!!” และกล่าวว่า “ มีคนทักบ่อยๆ ว่าหน้าเหมือนพี่แพนเค้ก ซึ่งโบว์ก็พอจะรู้จักว่าคนไหน แต่ไม่มีโอกาสติดตามผลงาน เพราะโบว์ต้องรีบนอนเพื่อจะต้องตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้า วันเสาร์อาทิตย์ก็ต้องรับจ้างทำงานหาเงินมาช่วยยาย ซึ่งโบว์ก็ช่วยแบ่งเบาภาระยายทุกอย่าง ทั้ง ขุดดิน ดายหญ้า รับจ้างเก็บพริกขาย ฯลฯ และตอนนี้โบว์ก็หัดรำไทยเพื่อไปรับจ้างตามงานต่างๆ ได้เงินมาพอช่วยจุนเจือในครอบครัว แต่งานก็ไม่มีทุกวัน ยิ่งช่วงไหนยายต้องไปหาหมอที่บ้านจะไม่มีเงินเหลือเลย ยิ่งถ้าโรงเรียนไม่มีเงินทำอาหารกลางวัน หนูก็จะเอาข้าวกับน้ำปลาไปกินที่โรงเรียน บางวันหนูกับยายก็จะต้องอดข้าว (ร้องไห้)

พี่บ๊อบถามต่อว่ารู้สึกมั๊ยว่าเราทำไมไม่มีเหมือนบ้านอื่นๆ??

“ น้องโบว์นิ่งไม่ตอบ(น้ำตาซึม) หนูไม่อยากคิดเพราะยายสอนให้หนูพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี และสอนให้ทำความดี หนูจึงชอบทำบุญ ได้เงินค่าแรงมาหนูก็จะแบ่งส่วนหนึ่งใส่บาตรทำบุญ เพราะเชื่อว่าทำบุญ ทำความดีแล้วจะต้องได้ดี แล้วเห็นผลบ้างหรือยัง?? “ ก็วันนี้งัยค่ะ มีรายการสยามทูเดย์มาช่วยหนู” บ๊อบยิ้มกับความใสซื่อของเด็กสาว

และน้องโบว์อยากได้อะไรบ้าง??

“หนูอยากมีบ้านเพื่อที่จะไม่ต้องอาศัยที่ของคนอื่นอยู่ ตอนนี้หนูเรียนอยู่ป.4 โรงเรียนบ้านทุ่งศาลา หนูตั้งใจเรียนมากๆ เพื่อจะได้จบมาทำงาน หนูฝันอยากเป็นพยาบาลค่ะ เพราะจะได้รักษายายที่ป่วยอยู่ได้ โดยไม่ได้คิดอยากได้เงินหรืออยากได้ของอำนวยความสะดวกอะไร ไม่เคยคิดอยากจะซื้อเป็บซี่หรือขนมขบเขี้ยวกินเหมือนเด็กอื่นๆ หนูรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้ก็มีความสุขดีได้อยู่กับยาย 2 คน ทุกคืนก่อนนอนต้องกราบเท้ายาย กอดยายหอมแก้มยายและก็บอกรักยายค่ะ”

นับเป็นคู่ยาย-หลานที่มีเลือดของความเป็นนักสู้ ฝ่าฟันกับอุปสรรคมรสุมชีวิตอย่างไม่เคยย่อท้อ น่าจะเป็นข้อคิดและแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายๆ ครอบครัวที่กำลังท้อแท้สิ้นหวังกับภาวะเศรษฐกิจขณะนี้ได้อย่างดี ยาย-หลานคู่นี้ใช้ความผูกพัน ความรัก มาเป็นพลังในการที่จะร่วมกันสู้..!!