บทความ

นครเชียงตุง

เชียงตุง (ภาษาไทเขิน : ᨩ᩠ᨿᨦᨲᩩᨦ ไทใหญ่: ၵဵင်းတုင်; พม่า: ကျိုင်းတုံမြို့; คำเมือง:

LN-King Chiang Tung.png
semenaxcaps.com

; อังกฤษ: Keng tung) เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐฉานของประเทศพม่า เป็นเมืองของชาวไทเขิน และชาวไทใหญ่ ถือได้ว่า เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเทียบเท่า เมืองเชียงใหม่แห่งล้านนาไทย และเมืองเชียงรุ่งแห่งสิบสองปันนา โดยชาวไทใหญ่เรียกชื่อเมืองนี้ว่า เก็งตุ๋ง (Keng tung) ในอดีต เชียงตุงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางการค้าเชื่อมต่อระหว่างสิบสองปันนากับล้านนา โดยมีพ่อค้าชาวจีนฮ่อเดินทางไปมาค้าขายในเส้นทางนี้

เมืองแห่ง 3 จอม 7 เชียง 9 หนอง 12 ประตู

เชียงตุงได้รับสมญานามว่า เมืองแห่ง 3 จอม 7 เชียง 9 หนอง 12 ประตู อันมีรายละเอียดเกี่ยวกับสมญานามดังกล่าว ดังนี้

เมืองแห่ง 3 จอม จอม หมายถึง เนินเขา เชียงตุงมีจอมจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ จอมทอง (จอมคำ) อันเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมคำ จอมมน อันเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุจอมมน และจอมสัก อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเขาอีก้อ (อาข่า)

เมืองแห่ง 7 เชียง เชียง หมายถึง บ้าน ชื่อหมู่บ้านในเชียงตุงที่ขึ้นด้วยเชียงมีจำนวน 7 แห่ง ได้แก่ เชียงงาม เชียงจัน เชียงลาน เชียงขุ่ม เชียงอิง เชียงยืน และเชียงจิน

เมืองแห่ง 9 หนอง หนอง หมายถึง หนองน้ำ ในเชียงตุงมีหนองน้ำ จำนวน 9 หนอง ได้แก่ หนองตุง หนองโตง หนองเย หนองแล้ง หนองยาง หนองโป่ง หนองเข้ หนองไค้ และหนองตาช้าง

ส่วน 12 ประตู คือประตูเมืองทั้ง 12 แห่งรอบๆ เชียงตุง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงประตูป่าแดงเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

ข้อมูลจากตำนานและประวัติศาสตร์บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า เชียงตุง กับล้านนามีความเกี่ยวเนื่องผูกพันกันอย่างใกล้ชิดจนแทบจะแยกออกจากกันไม่ได้ ทั้งนี้เพราะ ผู้ทรงสถาปนาอาณาจักรล้านนา และ เขมรัฐนครเชียงตุงขึ้นมา เป็นบุคคลเดียวกันคือพระญามังราย การที่ล้านนากับเชียงตุงมีต้นกำเนิดเดียวกันยังผลให้ศิลปวัฒนธรรมรวมถึงความเป็นอยู่ ตลอดจนลักษณะนิสัยของชาวไทเขินชนกลุ่มใหญ่ของเชียงตุง กับชาวไทยยวนของล้านนามีความคล้ายคลึงกัน

ประวัติศาสตร์เชียงตุง

ดินแดนเชียงตุงเป็นดินแดนที่มีความสำคัญมานานในอดีตเช่นเดียวกับเชียงใหม่และเชียงรุ่ง (สิบสองปันนา)ตามหลักฐานในประวัติศาสตร์ แต่เดิมเชียงรุ่งเป็นเมืองลูกหลวงของเชียงใหม่ จนกลายเป็นเมืองประเทศราชของพม่าในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง หลังจากนั้น เชียงใหม่ได้แยกตัวเป็นอิสระจากพม่า มาเป็นเมืองประเทศราชของสยาม ส่วนเชียงตุงยังคงเป็นเมืองประเทศราชของพม่า ทำให้เกิดความขัดแย้งเป็นสงครามเชียงใหม่-เชียงตุงถึง 3 ครั้ง ในที่สุด เชียงตุงเป็นอาณานิคมของอังกฤษเช่นเดียวกับพม่า ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของไทยในชื่อสหรัฐไทยเดิมในเวลาสั้นๆช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อพม่าได้รับเอกราช จึงเป็นส่วนหนึ่งของรัฐฉาน ประเทศพม่า

https://www.facebook.com/chiangtung.kengtung.shanstate/

ตำนานการสร้างเมือง

ประวัติในช่วงเริ่มแรกของเชียงตุงนั้นไม่ชัดเจน มีแต่ตำนานการสร้างเมืองว่า เมืองนี้เดิมชื่อเมืองประจันตคามหรือจัณฑคามไม่มีเจ้าเมืองปกครอง ฝูงกาได้คาบกรงไม้พาชายเลี้ยงวัวคนหนึ่งมาเป็นเจ้าเมือง ต่อมาชายคนนั้นลืมสัญญาที่ให้ไว้แก่กา กาจึงพาเขาไปทิ้งไว้ที่เกาะกลางทะเล ส่วนเมืองจัณฑคามถูกฝนตกหนักจนน้ำท่วมกลายเป็นหนองน้ำ มีฤๅษีนามว่า ตุงคฤๅษี เป็นบุตรพญาว้อง (จีน) แสดงอิทธิฤทธิ์ทำให้น้ำไหลออกจากเมือง เหลือเพียงหนองน้ำกลางเมืองขนาดใหญ่ เรียกว่า หนองตุง อันเป็นที่มาของชื่อ เชียงตุง และได้อพยพชาวจีนจากยูนนานมาอยู่ ต่อมาทนกับโรคภัยไข้เจ็บไม่ไหวจึงอพยพกลับไปหมด ทิ้งน้ำเต้าไว้กอหนึ่ง น้ำเต้านั้นแตกออกกลายเป็นคนซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวลัวะ ซึ่งได้อาศัยในบริเวณนั้นต่อมา

เมืองลูกหลวงของเชียงใหม่

พงศาวดารของเมืองได้กล่าวไว้ว่า เมื่อจุลศักราช 791 (พ.ศ. 1772) พญามังรายได้เสด็จประพาสป่าและทรงไล่กวางทองมาจนถึงเมืองเชียงตุง พระองค์ทรงเล็งเห็นภูมิประเทศของเมืองเชียงตุง ก็พอพระทัยมาก จึงวินิจฉัยสั่งให้ข้าราชบริพารสลักรูปพรานจูงหมาพาไถ้แบกธนูไว้บนยอดดอยที่เห็นเมือง หลังจากนั้น พระองค์ก็เสด็จกลับมาเมืองเชียงรายแล้วทรงส่งกองทัพ มีแม่ทัพนามว่าขุนคง และ ขุนลัง ให้มาชิงเมืองเชียงตุง จากชาวลัวะแต่ก็ไม่สำเร็จ พระองค์จึงส่ง มังคุม และ มังเคียน ซึ่งเป็นชาวลัวะที่อาศัยอยู่กับพระองค์มารบอีกครั้ง ปรากฏว่าก็ได้ชัยชนะ พญามังรายจึงมอบให้ มังคุม และ มังเคียน ปกครองเมืองเชียงตุง ภายหลังเมื่อมังคุม มังเคียนสิ้นชีวิต พญามังรายจึงส่ง เจ้าน้ำท่วม ผู้เป็นราชบุตรไปปกครองเมืองเชียงตุงเมื่อ พ.ศ. 1786 เชียงตุงจึงเป็นเมือง "ลูกช้างหางเมือง" หรือ "เมืองลูกหลวง" ขึ้นกับอาณาจักรล้านนา

ตามหลักฐานทั้งหลาย ได้ระบุไว้ว่ามีเจ้าฟ้าปกครองอยู่ 33 พระองค์ พระองค์สุดท้ายคือ "เจ้ารัตนะก้อนแก้วอินแถลง" จากหนังสือ "ตำนานมังราย เชียงใหม่ เชียงตุง" ซึ่งจารึกอยู่ในหนังสือใบลานของวัดอุโมงค์ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อความของเอกสารดังกล่าวได้แบ่งออกเป็น 2 ตอนใหญ่ ๆ

  • ตอนแรกจากหน้าลานที่ 1 - 22 กล่าวถึงพญามังรายมหาราช จนกระทั่งถึงพระยาผายู ซึ่งอยู่เสวยราชย์ในเมืองนพบุรีศรี

พิงไชย เชียงใหม่ (นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่) มีอายุยืนได้ 70 ปี ก็จุติตายไป พระยาผายูตายปีเปิกเล็ด ศักราชได้ 899

  • ตอนที่ 2 เริ่มตั้งแต่หน้าลานที่ 22 - 46 เริ่มตั้งแต่พระยาลัวะจักรราชจนถึงตอนที่เจ้าหม่อมมหาวัง (เจ้าเมืองเชียงรุ้ง) สิ้นพระชนม์ เป็นการเท้าเป็นการย้อนราชนิกูลของพญามังราย ไปจนถึงเมืองในอาณาจักรล้านนา และ อาณาจักรรอบๆ

สิ่งที่น่าสนใจตอนหนึ่งในหนังสือเรื่องนี้ คือการกล่าวถึงเมืองเชียงตุงในอดีต ซึ่งระบุว่า มังคุ่มครองเมืองได้ 17 ปี ก็สิ้นชีพ และ มังเคียนครองเมืองได้ 7 ปี ก็เสียชีวิต หลังจากนั้น เมืองเชียงตุงจึงเป็นเมืองร้าง เป็นเวลา 10 ปี พญามังรายจึงส่ง พระยานาถะมู ไปครองเชียงตุงในปีจุลศักราช 833 (พ.ศ. 1814) หลังจากนั้นพระยานาถะมูจึงโปรดให้สร้างเวียงเชียงเหล็กในปีต่อมา

ในปีต่อๆมา ชาวลัวะได้ลุกลามเมือง และ ทดน้ำไปสู่เมือง เพื่อจะให้เมืองน้ำท่วม พระยานาถะมูเจ้าเมืองในขณะนั้นจึงสิ้นพระชนม์ ครองเมืองได้ 14 ปี พระยาน้ำท่วมกินเมืองแทนพ่อในปีจุลศักราช 845 ในปีจุลศักราช 891 พระยาผายู (พ.ศ. 1889-1898) กษัตริย์แห่งเมืองเชียงใหม่ ได้ส่งพระโอรสไปครองเมืองเชียงตุง คือ พระยาเจ็ดพันตู โหรของพระองค์ได้ทำนายไว้ว่า "เมืองเชียงตุงเป็นเมืองนามจันทร์ น้ำไหลจากทางทิศใต้ไปทิศเหนือ ผู้หญิงกินเมืองดี ถ้าผู้ชายกินเมืองให้เลี้ยงเจนเมือง 500 นา และสร้างเจดีย์เป็นชื่อเมืองจึงจะดี" ในการเสด็จไปครองเมืองเชียงตุงในครานั้น พระยาเจ็ดพันตูจึงทรงได้นำเอาช้างม้า คนพลติดตามไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งพระไตรปิฎกและพระสงฆ์ 4 รูป คือ พระมหาธัมมไตร จากวัดพระแก้วเชียงราย พระธัมมลังกา วัดหัวข่วง พระทสปัญโญ วัดพระกลาง พระมหาหงสาวดี วัดจอมทอง เมืองเชียงใหม่

การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเมืองเชียงตุงและเชียงใหม่สมัยราชวงศ์มังราย จึงสามารถแบ่งได้ง่ายว่าดังนี้ ในสมัยแรกเป็นแบบเครือญาติ และ ขุนนาง ในตอนกลาง ขุนนางปกครอง และ ยุคสุดท้ายราชวงศ์ก็ได้กลับมาปกครองอีกครั้ง

ในสมัยพญากือนาถึงสมัยพญาแก้ว (พ.ศ. 1898-2068) ซึ่งเป็นช่วงที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมากในอาณาจักรล้านนา เป็นช่วงที่ตั้งกรุงศรีอยุธยาใหม่ๆ ความสัมพันธ์นั้นแน่นแฟ้นมากๆ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจากเชียงใหม่สู่เชียงตุง ไปถึงเชียงรุ่ง จึงเป็นไปได้โดยง่าย แบ่งได้เป็น 2 ตอนใหญ่ๆ คือ ในสมัยพญากือนาพระสงฆ์นิกายรามัญวงศ์ (พม่า ผสม มอญ) จากวัดสวนดอก และ ในสมัยพระเจ้าติโลกราช นิกายสิงหล (สุโขทัย อยุธยา) จากวัดป่าแดง ได้ออกเดินทางไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้ขชาวเมืองได้รู้ ไม่ใช่แต่ศาสนาอย่างเดียว วัฒนธรรม ตัวอักษร และ ภาษา ก็ออกไปเผยแพร่ด้วย ดังนั้นตัวเมืองของล้านนา และ ตัวเขียนของไทเขินจึงใกล้เคียงกันมาก

ความสัมพันธ์ระหว่างเชียงตุงกับเชียงใหม่เป็นในลักษณะเครือญาติ อย่างไรก็ตาม หลังจากสมัยของท้าวผายู ความสัมพันธ์ระหว่างเชียงใหม่กับเชียงตุงระงับไป ปรากฏหลักฐานว่ามาขึ้นกับเชียงใหม่อีกครั้งในสมัยพระเจ้าติโลกราช ซึ่งเจ้าเมืองเชียงตุงในขณะนั้นคือพญาศรีสัทธรรมราชาจุฬามณี ความสัมพันธ์ระหว่างเชียงใหม่กับเชียงตุงสิ้นสุดลงเมื่อเชียงตุงยอมเป็นประเทศราชของพม่า

Facebook: เชียงตุง อยู่ดีกินหวาน

https://www.facebook.com/chiangtung.kengtung.shanstate/

บริษัท เชียงตุงเรียลเอสเตท แอนด์ ทราเวล จำกัด

858/3หมู่ที่10ซอยบ้านผาแตก ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

Line ID: Tripkengtung

Tel.092-891-2277

Tel.094-052-7522

Tel.093-253-7733