ชนิดของภาพกราฟิก
เราสามารถแบ่งภาพกราฟิกได้ 2 ประเภท ดังนี้
ภาพกราฟิกชนิดบิตแมป (Bitmap)
เป็นภาพที่เกิดจากการนำจุดสีหรือเม็ดสีที่เราเรียกกันว่าพิกเซล (Pixel) มาเรียงกันเป็นตารางสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายการปูกระเบื้องซึ่งกระเบื้องแต่ละแผ่นจะแทนเม็ดสีแต่ละพิกเซลนั่นเอง ขนาดของภาพจะมีความกว้างยาวและจำนวนพิกเซลคงที่ เพราะฉะนั้นความสวยงามของภาพจึงขึ้นอยู่กับความละเอียดของเม็ดสีหรือจำนวนพิกเซล ยิ่งมีความละเอียดมากภาพยิ่งสวยงามมาก เมื่อมีการขยายภาพคุณภาพของภาพจะลดลงโดยจะมองเห็นภาพเป็นสี่เหลี่ยมที่เกิดจากจุดพิกเซล (Pixel) ขยายตัวอย่างชัดเจน
ข้อดี ภาพชนิดนี่สามารถแสดงรายละเอียดได้ใกล้เคียงภาพจริง เช่น ภาพถ่ายที่มีรายละเอียดสูง เพราะเป็นการใช้พิกเซลจำนวนมากมาประกอบกัน
ข้อเสีย ภาพชนิดนี่จะมีขนาดใหญ่ตามความละเอียดภาพ เพราะต้องใช้จำนวนพิกเซลเพิ่มขึ้นตาม นอกจากนั้นการนำภาพมาขยายให้ใหญ่กว่าขนาดปกติจะทำให้ภาพที่ได้ไม่ชัดเจน
ภาพที่ 2.1 ภาพกราฟิกชนิดบิตแมป (Bitmap)
ที่มา : สุชาดา ทิพโรจน์, 2560
ภาพกราฟิกชนิดเวกเตอร์ (Vector)
เป็นภาพที่ใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยสร้างขึ้น ทำให้ไม่เกิดปัญหารอยแตกเมื่อขยายภาพให้ใหญ่ขึ้นคุณภาพของภาพไม่ลดลง ทำให้ภาพมีความคมชัดเหมือนเดิม นอกจากนี้ไฟล์ที่ได้ยังมีขนาดเล็กแก้ไขได้ง่ายเหมาะสำหรับนำไปสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหว
ข้อดี ภาพชนิดนี้ปรับหรือย่อขนาดได้ตามที่ต้องการ โดยไม่มีผลต่อความละเอียดของภาพเพราะไม่ว่าภาพจะเล็กหรือใหญ่ ความคมชัดก็ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะคอมพิวเตอร์จะสร้างภาพขึ้นมาโดยใช้วิธีคำนวณซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดด้วยพิกเซลในภาพว่ามีมากน้อยเพียงใด นอกจากนั้นภาพชนิดเว็กเตอร์มีขนาดไฟล์เล็กกว่าบิตแมปเพราะไม่ได้ใช้พิกเซลจำนวนมากมาสร้างเป็นภาพ แต่มีเพียงคำสั่งสร้างลวดลายเพื่อประกอบเป็นภาพเท่านั้น
ข้อเสีย เนื่องมาจากลักษณะของภาพที่สร้างจากการใช้คอมพิวเตอร์สร้างเส้นและรูปทรงมาประกอบกัน ภาพชนิดนี้จึงมีข้อจำกัดในการแสดงภาพถ่าย แต่เหมาะกับภาพกราฟิกแนวลายเส้น ที่มีสีค่อนข้างต่อเนื่องเท่านั้น
ภาพที่ 2.2 ภาพกราฟิกชนิดเวกเตอร์ (Vector)
ที่มา : สุชาดา ทิพโรจน์, 2560