เรื่อง นายแรงพล้าใหญ่

          นานมาแล้วมีชายคนหนึ่งชื่อนายแรง นายแรงเป็นคนมีพละกำลังมาก มีพร้าเล่มใหญ่เป็นอาวุธ จึงได้ชื่อว่านายแรงพร้าใหญ่ นายแรงอาศัยอยู่กับตายาย ตอนนายแรงเกิดใหม่ๆ ตายายเกลียดนายแรงมาก เพราะนายแรงกินข้าวมาก โดยกินข้าววันละ 7 -8 กะทะ แต่เมื่อนายแรงโตเป็นหนุ่ม นายแรงได้ช่วยตายายทำไร่ทำนา อาศัยนายแรงมีกำลังมากจึงทำไร่ทำนาได้วันละหลายไร่ จึงทำให้ตายายร่ำรวยขึ้น นายแรงจึงลาตายายไปแสวงหาโชคลาภ นายแรงจึงออกเดินทางไปพบกับนายฤหธิ์อียตอ ซึงมีความสามารถพิเศษคือสามารถถีบตอไม้ใหญ่ๆ โดยใช้ไม้กระทืบเท่านั้น นายแรงจึงชอบจึงไปแสวงทาโชคด้วยกัน เมื่อทั้งสองเดินทางไปก็ไปพบกับนายเดชถ่อเรือ นายเคนี้มีกำลังมากเหมือนกันสามารถที่จะถ่อเรือบนบกได้ นายแรงจึงชอบจึงไปแสวงหาโชคด้วยกัน เมื่อสามจอมพลังเดินทางไปด้วยกันจนถึงทะเลแห่งหนึ่งรู้สึกหิวจึงลำตาลทำเป็นเบ็ดตกปลา ได้ปลาฉลามใหญ่ขึ้นมาตัวหนึ่ง จึงย่างกินกันเสร็จ แล้วก็เอาหัวปลาฉลามมาเตะเป็นตะกร้อ หัวปลาฉลามไปตกยังเมืองเมืองหนึ่งหลายวันเข้าหัว หัวปลาฉลามก็เน่ามีกลิ่นเหม็น ชาวเมืองก็ได้รับความเดือดร้อนแต่ไม่มีใคร สามารถนำหัวปลาฉลามออกจากเมืองได้ เพราะหัวปลาฉลามตัวเกินกำลังของชาวเมือง พระราชาจึงประกาศว่าใครสามารถเอาหัวปลาฉลามออกจากเมืองได้ จะยกธิดาให้และให้ครองเมือง นายแรงรับอาสาเจ้าเมือง นายแรงจึงเตะหัวปลาแตกกระจาย ส่วนใดไปตกในทะเลก็กลายเป็นภูเขาในทะเล นายแรงจึงได้อภิเสกกับธิดาของพระราชาและได้ครองเมืองนั้น โดยมีนายฤทธิ์และนายเดยเป็นทหารประจำพระองค์ เมื่อนายแรงไปไหนก็จะนำพร้าไปด้วย แต่เนื่องจากพร้าใหญ่มากจึงลากไปกับดินทำให้เป็นแม่น้ำลำคลองในทุกวันนี้. 

แหล่งที่มา : จากหนังสือ นิทานพื้นบ้าน บ้านทรายขาว ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส