จุดประสงค์การเรียนรู้
1.เลือกแนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
2.ใช้ไอทีได้อย่างมีความรับผิดชอบ
3.สร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน
4.ติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายสังคมอย่างปลอดภัย
แนวทางปฏิบัติเมื่อพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
การใช้งานอินเทอร์เน็ตนักเรียนจะพบข้อมูลที่หลากหลาย ทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่มีการบิดเบือน
หรือสร้างขึ้นเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือส่วนรวม และหากนักเรียนพบข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเหล่านั้น
นักเรียนควรปฏิบัติดังนี้
1. ปฏิเสธการรับข้อมูล สามารถทำได้โดยไม่เปิดดู ไม่บันทึกเก็บไว้ และไม่กดไลค์ (Like)เพราะการกระทำเหล่านี้เป็นแนวทางที่ป้องกันไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวเผยแพรไปสู่ผู้อื่น
2. ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เผยแพร่ เพราะนอกจากจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนกับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงแล้ว ในบางกรณีอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
3. แจ้งครูหรือผู้ปกครอง หากนักเรียนประสบปัญหาที่ไม่สามารถจัดการหรือแก้ไขได้เองให้แจ้งครูหรือผู้ปกครองเพื่อดำเนินการแก้ไขหรือติดต่อประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันไมให้เกิดปัญหาซ้ำเดิมไม่สิ้นสุด
4. แจ้งผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลเว็บไซต์นั้น กรณีที่ใช้งานข้อมูลจากผู้ให้บริการระบบรายใหญ่ เช่น Facebook YouTubeซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถรายงานปัญหาเกี่ยวกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น เนื้อหาที่มีการคุกคามทางเพศ เนื้อหาเกี่ยวกับความรุนแรง ส่งเสริมการก่อการร้ายการละเมิดลิขสิทธิ์หลังจากผู้ให้บริการได้รับแจ้ง จะมีการตรวจสอบเนื้อหาดังกล่าวอย่างถี่ถ้วน และดำเนินการกับผู้กระทำผิด เช่น ลบเนื้อหา ตัดสิทธิ์ (block) หรือจำกัดสิทธิ์การใช้งาน
5. แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจ หากผู้ดูแลระบบไม่จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น ให้ประสานงานกับหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเช่น แจ้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เว็บไซต์ http://www.mdes.go.thเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
แนวทางการพิจารณาเนื้อหาก่อนการเผยแพร่ข้อมูล
ก่อนที่นักเรียนจะเผยแพร่ข้อมูลใดลงในอินเทอร์เน็ต ควรพิจารณาถึงจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลและการติดต่อสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วยความเป็นส่วนตัว (privacy) ความถูกต้อง (accuracy) ทรัพย์สิน(property) และการเข้าถึง (access) หรือเรียกย่อว่า พาพา (PAPA) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ความเป็นส่วนตัว ต้องเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลว่าข้อมูลนั้นเกี่ยวกับใครหรือองค์กรใด สามารถเปิดเผยต่อ
ผู้อื่นได้หรือไม่ ภายใต้เงื่อนไขใดและด้วยมาตรการป้องกันอย่างไร
ความถูกต้อง ข้อมูลที่ใช้หรือนำเสนอต้องมีความถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ และต้องรับผิดชอบต่อ
ความผิดพลาดของข้อมูล ดังนั้นต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะนำไปใช้หรือเผยแพร่
ทรัพย์สินหรือความเป็นเจ้าของ ต้องรู้ว่าใครเป็นเจ้าของข้อมูล มีความสำคัญหรือมูลค่ามากน้อยเพียงใด
เพื่อให้การจัดการมีความเหมาะสม รวมทั้งการเคารพสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อให้ปัญหาการละเมิดลิซสิทธิ์ลดน้อยลง
การเข้าถึง เป็นการกำหนดหรือระบุให้บุคคลหรือองค์กรใดมีสิทธิ์หรือสิทธิพิเศษในการเข้าถึงหรือได้รับ
สิทธิ์ภายใต้เงื่อนไขใดและมีมาตรการป้องกันอย่างไร
การสร้างและแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของผลงาน
ข้อมูลและสารสนเทศในรูปแบบเอกสาร รูปภาพ หรือวีดิทัศน์ นับว่าเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่งที่เจ้าของ
สามารถแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของได้หลายรูปแบบ ทั้งแบบที่เห็นชัดเจนหรือซ่อนไว้ เช่น การใส่ชื่อ การระบุ
สัญลักษณ์ การใส่ลายน้ำ นอกจากนี้ยังสามารถระบุเงื่อนไขการอนุญาตให้ผู้อื่นนำไปใช้งานได้
มารยาทในการติดต่อสื่อสาร
การติดต่อสื่อสารผ่านบริการบนอินเทอร์เน็ตมีความหลากหลายและมีผู้ใช้งานจำนวนมาก มีทั้งแบบผู้ใช้สื่อสารส่วนตัว สื่อสารในกลุ่ม หรือสื่อสารสาธารณะจึงควรมีมารยาทและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม มีการจำกัดกลุ่มสนทนาให้อยู่ในกลุ่มสมาชิกที่เกี่ยวข้องและใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
มารยาทในการใช้อีเมล
ใช้ภาษาสุภาพ ชัดเจน ตรงประเด็น เหมาะสมกับกาลเทศะหรือผู้ที่จะสื่อสารด้วย
ใช้อักษรตัวหนาเฉพาะข้อความที่ต้องการเน้นเท่านั้น
ระบุหัวเรื่อง ชื่อผู้ที่จะสื่อสารด้วย และระบุตัวตนของผู้ส่งอีเมลให้ชัดเจน (เหมือนกับการเขียนจดหมาย
ด้วยกระดาษ)
ระบุชื่อหรือตำแหน่งของผู้ที่จะสื่อสารให้ถูกต้องและเหมาะสม
เนื้อหาในอีเมลไม่ควรมีข้อความแสดงถึงเจตนาไปในทางเสื่อมเสีย ไม่ใช้ข้อความที่กำกวม ข้อความ
ที่แสดงการตำหนิ ดูถูก ใส่ร้ายผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย
หลีกเลี่ยงการส่งอีเมลและการแนบไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ให้ใช้การส่งลิงก์หรือโปรแกรมในการโอนถ่ายไฟส์แทน
ไม่ลักลอบส่งอีเมลโดยการปลอมแปลงชื่อผู้ส่งที่ทำให้ผู้รับเข้าใจผิด
ไม่ส่งต่ออีเมลลูกโซ่ (chain e-mail) เช่น อีเมลลวงให้ส่งต่อไปหลาย ๆ คนแล้วจะได้รับผลประโยชน์
ไม่ส่งอีเมลขายสินค้า โฆษณา หรือข้อความที่รบกวนผู้รับ
มารยาทในการใช้แชทและเครือข่ายสังคม
ไม่ใช้ข้อความที่เป็นชนวนก่อให้เกิดปัญหาระหว่างบุคคลและกลุ่ม
หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์หรือความรู้สึกที่มากจนเกินไปทั้งในการอ่านหรือแสดงความคิดเห็น
ไม่สวมรอยหรือแอบอ้างโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นในการแชท แสดงความคิดเห็น หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความ
เสียหาย เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ไม่ใช้ถ้อยคำยั่วยุหรือท้าทาย เพื่อแสดงความเห็น หรือความคิดที่ขัดแย้งกับผู้อื่น
ข้อควรระวัง การใช้งานห้องสนทนาควรใช้ภาษาสุภาพเพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจตามมา เพราะผู้ใช้อาจไม่ทราบว่าคนที่รับข้อความต่าง ๆ นั้นเป็นใคร อาชีพใดหรืออยู่ในช่วงอายุใดนอกจากนี้ยังต้องตระหนักว่าการใช้ห้องสนทนาอาจมีมิจฉาชีพแฝงอยู่ และอาจมีการสื่อสารล่อลวงทำให้เกิดการหลงเชื่อและนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมได้ ดังนั้นผู้ใช้ห้องสนทนาจำเป็นต้องระมัดระวังและมีความรอบคอบในการใช้งาน
สื่อการเรียนรู้
อ้างอิงแหล่งที่มา :: https://proj14.ipst.ac.th/m2/m2-cs/
ใบความรู้
ใบงาน